ปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องเสียงกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากลำโพงที่ติดมากับตัวของทีวีนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการอีกต่อไป เป็นผลมาจากความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเสพเสียงที่มีคุณภาพ และมีอรรถรสที่มากขึ้นนั่นเอง

ปัจจุบันตลาดเครื่องเสียงภายในบ้านปี 2561 ถูกคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนเพียง 1-2% เป็นผลมาจากการที่ โฮมเธียเตอร์ ได้รับความนิยมลดลงเนื่องจากขนาดที่ใหญ่มีจำนวนชิ้นที่มาก และราคาที่สูง ส่งผลให้โฮมเธียเตอร์มีสัดส่วนมูลค่าลดลงถึง 20-30%
ส่วน ซาวด์บาร์ กลับได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากราคาที่เป็นมิตร ขนาดกำลังพอดี ส่วนใหญ่ผู้บริโภคนิยมซื้อคู่กับทีวี ส่งผลให้ซาวด์บาร์โตขึ้นถึง 25% และมีมูลเท่ากับโฮมเธียเตอร์ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี
ด้านเครื่องเสียงพกพา กลับกลายเป็นม้ามืดในยุคนี้เพราะด้วยขนาดที่กะทัดรัด ราคาไม่แพง จนทำให้มีแบรนด์ต่างๆ เข้ามาเล่นในตลาดนี้มากถึง 6-8 แบรนด์ ส่งผลให้ตลาดนี้มีสัดส่วนมากที่สุด และส่งผลให้มีมูลค่าถึง 700 ล้านบาท และโตที่ 2%
เครื่องเสียงพกพา ม้ามืดของตลาด
Segment โฮมเธียเตอร์ ลดลงมากก็จริง แต่มี Segment ซาวด์บาร์และเครื่องเสียงพกพาที่ช่วยกันประคองตลาดเครื่องเสียงภายในบ้านให้ยังทรงตัวอยู่ได้
เนื่องจากตลาดซาวด์บาร์ผู้บริโภคนิยมซื้อคู่กับทีวีเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ให้ใกล้คียงกับโรงภาพยนตร์มากที่สุด ส่วนเครื่องเสียงพกพากล่าวได้ว่ามาตามเทรนด์ของสมาร์ทโฟน สามารถพกพา และเชื่อมต่อในเวลาไหนก็ได้ โดยเครื่องเสียงพกพาต้องมีขนาดไม่ใหญ่เกินไป รวมถึงต้องมีคุณภาพเสียงที่ดีด้วย
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
