“อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ” เปิดผลประกอบการปี 2561 รายได้รวมแตะ 1,602 ล้านบาท อีเว้นท์มาร์เก้ตติ้งรวบส่วนแบ่ง 88% เผยดีลเวิลด์เอ๊กซ์โป 2020 ดูไบ มูลค่าโครงการกว่า 887 ล้านบาท คาดปีหน้าตลาดอีเว้นท์โตต่อเนื่อง หวังอินเด็กซ์ฯ โต 24%
เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา ตลาดอีเว้นท์ อัตราการเติบโตสูงขึ้นเป็นผลมาจากสถานการณ์บ้านเมืองที่กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ตลาดอีเว้นท์จึงเริ่มกลับมาคึกคัก
โดยผลประกอบการอินเด็กซ์ฯ ในปี 2560 มีรายได้รวม 1,858 ล้านบาท แบ่งเป็น (1) กลุ่มมาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส (Marketing Service) 1,166 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 63% (2) กลุ่มครีเอทีฟ บิซซิเนส ดีเวลลอปเมนท์ (Creative Business Development) 589 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 32% และ (3) กลุ่มโอน-โปรเจค (Own Project) 103 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5%
ส่วนปี 2561 มีรายได้รวม 1,602 ล้านบาท แบ่งเป็น (1) กลุ่มมาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส 1,401 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 88% (2) กลุ่มครีเอทีฟ บิซซิเนส ดีเวลลอปเมนท์ 115 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7% และ (3) กลุ่มโอน-โปรเจค 86 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5%
โดยโปรเจคในปี 2561 ที่ผ่านมา ได้แก่ Bangkok Countdown 2018 at Central World, ไทยประกันชีวิต, อุ่นไอรัก คลายความหนาว ครั้งที่ 1, อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ครั้งที่ 2, ฟินข้ามภพ ตอนจบแห่งชาติ, Kilo Run ในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ, ICONSIAM, 2018 Show Atmosphere ฯลฯ
เกรียงไกร กล่าวว่า เมื่อเทียบผลประกอบการปี 2561 กับ 2560 จะเห็นว่าปีที่แล้วมีรายได้รวมสูงกว่าเนื่องจากรวมงานเอ๊กซ์โปที่มีรายได้กว่า 240 ล้านบาท แต่เมื่อตัดปัจจัยดังกล่าว ซึ่งเป็นอีเว้นท์ต่างประเทศออกปี 2561 ถือว่าเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา
ส่วนปัจจุบันบริษัทฯ ยังได้ร่วมจัดงาน “เวิลด์ เอ๊กซ์โป 2020” (World Expo 2020 Dubai) งานนิทรรศการนานาชาติระดับโลก ซึ่งจะมีพื้นที่จัดแสดงของประเทศไทยที่ใช้มูลค่าโครงการทั้งหมด 887 ล้านบาท
เกรียงไกร ตั้งเป้าว่าปี 2562 ภาพรวมธุรกิจจะโตขึ้น 24% หรือคิดเป็น 1,863 ล้านบาท แบ่งเป็น (1) กลุ่มมาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส 1,243 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 67% (2) กลุ่มครีเอทีฟ บิซซิเนส ดีเวลลอปเมนท์ 502 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 27% และ (3) กลุ่มโอน-โปรเจค 118 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 6% โดยมีปัจจัยจากธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (Entertainment) ที่มีแนวโน้มคึกคักมากขึ้นและการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
ส่วนแผนของอินเด็กซ์ฯ ในอนาคต บริษัทฯ ตั้งเป้าจะขยายตลาดอีเว้นท์ไปในภูมิภาคเอเชีย โดยปัจจุบันได้จัดงานเทรด์แฟร์ที่ประเทศกัมพูชา (Cambodia Architect & Decor 2018) และงานในประเทศพม่า (Myanmar Retail Sourcing Expo 2018, Myanmar Build & Decor 2018) และภายใน 5 ปีข้างหน้าจะเข้าไปบุกตลาดในประเทศอาหรับ
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ