นับได้ว่านี่คือช่วงเวลาที่ธุรกิจ ‘เอเจนซีโฆษณา’ ต้องเจอกับความท้าทายอย่างรอบด้าน

ทั้งในแง่ของการเป็นธุรกิจ ‘ตัวกลาง’ ที่ได้รับผลกระทบจาก Digital Disrupt คือเมื่อต้นทุนต่างๆ ที่ใช้ในการทำโฆษณาถูกลง ทั้งในด้านของโปรดักชั่น และในด้านของการซื้อสื่อโฆษณาที่ทำให้แบรนด์ไม่ต้องพึ่งพาเอเจนซีมากเท่ากับอดีต

หรือกับปัจจัยเศรษฐกิจที่หดตัว ทำให้แบรนด์รัดเข็มขัดมากขึ้น และนั่นก็ส่งผลให้ชิ้นเค้กของเม็ดเงินโฆษณาเล็กลงตามไปด้วย

จากความท้าทายต่างๆ ที่ว่ามานี้ทำให้เอเจนซีโฆษณารายใหญ่ของโลกทั้งหลายต่างต้องปรับตัวให้เล็กลง เพื่อเพิ่มความคล่องตัวด้วยการขายบริษัทที่มีอยู่ในเครือออกไป

หนึ่งในนั้นคือ IPG ที่ตัดสินใจนำครีเอทีฟเอเจนซีที่มีในมืออย่าง MullenLowe (มัลเลนโลว์), (ในอดีตชื่อ ลินตาส) เข้าไปขายให้กับโลคัลเอเจนซีในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย ทั้งเวียดนาม มาเลเซีย และล่าสุดคือที่ไทย

โดย YDM คือเอเจนซีโฆษณาสัญชาติไทยที่ได้ MullenLowe ไปครอบครอง ซึ่งก่อนหน้าจะซื้อ MullenLowe เดิมที YDM ก็มี FCB Bangkok ซึ่งเป็นครีเอทีฟเอเจนซีโฆษณาที่มาจากเครือ IPG อยู่ในพอร์ตของตัวเองอยู่แล้วเช่นกัน

เอเจนซีรายใหญ่ขายบริษัทที่มีอยู่ในมือเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง

แต่ทำไม YDM ถึงตัดสินใจซื้อเพิ่มเข้ามา ทั้งที่ตัวเองก็มีครีเอทีฟเอเจนซีอย่าง FCB Bangkok อยู่ในมืออยู่แล้ว?

ที่สำคัญเป็นการซื้อทั้งๆ ที่ CEO ของ YDM ก็บอกเองว่า เม็ดเงินโฆษณาในปี 2563 นี้อาจจะเติบโตน้อยที่สุดในรอบ 6-7 ปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นการเติบโตที่อาจไม่ถึง 20%

เล่าให้ฟังเป็น Background กันก่อนว่า ธุรกิจเอเจนซีโฆษณาจะแบ่งเป็นสองสายหลักๆ ด้วยกัน คือสายครีเอทีฟ (คิดพล็อตโฆษณา คิดแคมเปญโฆษณา) และสายซื้อสื่อโฆษณา (เอาชิ้นงานโฆษณาไปลงตามสื่อต่างๆ เช่น ออนไลน์ บิลบอร์ด เป็นต้น)

สำหรับ YDM เอง เป็นเอเจนซีสัญชาติไทยที่มีบริษัทอยู่ในเครือทั้งหมด 10 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัท Marketing หรือไม่ก็ Media Agency

แต่ YDM ต้องการทำให้ตัวเองเป็น one-stop service ที่ลูกค้าสามารถทำการตลาดครบจบทุกขั้นตอนที่ YDM ที่เดียวได้

YDM จึงจำเป็นต้องมี creative agency เป็นของตัวเอง ที่แม้เดิมทีจะมี FCB Bangkok อยู่แล้ว แต่การซื้อ MullenLowe เข้ามาก็ทำให้สามารถรับลูกค้าที่หลากหลายได้มากขึ้น

ทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาลูกค้าที่เป็นคู่แข่งกัน (ยกตัวอย่างเช่น โค้กและเป๊ปซี่ คงไม่สามารถใช้เอเจนซีเดียวกันในการดูแลได้ เพราะอาจทำข้อมูลรั่วไหลไปยังคู่แข่ง)

แม้ YDM จะไม่เปิดเผยตัวเลขในการเข้าซื้อ MullenLowe ในครั้งนี้ แต่ Marketeer เชื่อว่าคงเป็นตัวเลขที่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ สะท้อนได้จากลูกค้าเดิมของ MullenLowe ที่พ่วงติดมาก็มีทั้งยูนิลิเวอร์, SCG, เชนไดรท์, บลูสโคป แซคส์ เป็นต้น

การซื้อ MullenLowe เข้ามายังเป็นส่วนหนึ่งของการขยายองค์กรให้ใหญ่ขึ้น เพื่อที่ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า YDM จะเตรียมจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุนมาลงทุนในเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใช้ในการโฆษณา-การเก็บและวิเคราะห์ Data

และเป็นการรองรับสำหรับขยายธุรกิจไปยังประเทศแถบ South East Asia

ส่วนในแง่ของรายได้ YDM ตั้งเป้ารายได้ของ MullenLowe ในปลายปีนี้ไว้ที่ 50 ล้านบาท

และรายได้รวมของ YDM ตั้งเป้าไว้ที่ 650 ล้านบาท



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online