หุ้นกลุ่มจิราธิวัฒน์ เหนื่อยหนัก ทั้ง CENTEL – CPN – CRC ราคาวูบ (วิเคราะห์)
กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม ห้าง ศูนย์การค้า ค้าปลีก ร้านอาหาร ที่เอ่ยชื่อมานี้ คือหนึ่งในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ จากสถานการณ์โควิด-19
จากมาตรการล็อกดาวน์ ห้ามต่างชาติเข้าประเทศ ปิดโรงแรม ปิดศูนย์การค้าชั่วคราว การเว้นระยะห่าง กับมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
หนึ่งในตระกูลที่มีกลุ่มธุรกิจครบที่กล่าวไปข้างต้นคงต้องยกให้ “จิราธิวัฒน์” ตระกูลมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของไทย (จากการจัดอันดับของฟอร์บส์ 2020) มีทรัพย์สินกว่า 310,000 ล้านบาท
กับ 3C ที่ใช้นามสกุลมหาชน
C แรก : CENTEL
กลุ่มโรงแรมเครือเซ็นทาราที่อยู่ในไทย และมีโรงแรมในประเทศมัลดีฟส์ ที่โดนกระทบจากการปิดน่านฟ้า และล็อกดาวน์
ในไตรมาส 2/2563 ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเลย ภาพรวมครึ่งปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติแค่ 6.7 ล้านคน จาก 19.8 ล้านคน ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนธุรกิจอาหารอย่าง “CRG” ที่มีแบรนด์ร้านอาหารในเครือ 14 แบรนด์ ที่เป็นรายได้หลักให้กับกลุ่ม CENTEL มีรายได้จากการสั่งอาหารแบบ take away และบริการเดลิเวอรี่ ไตรมาส 2 รายได้แม้จะลดลง แต่ก็ยังพอทำกำไรได้อยู่
ส่งผลให้ภาพรวมครึ่งปีแรกของ CETEL นั้นมีรายได้รวมอยู่ที่ 6,937.6 ล้านบาท ลดลง 36.2% ขาดทุน 510.6 ล้านบาท ลดลง 148.2%
ธุรกิจโรงแรม
รายได้รวม 1,935.7 ล้านบาท ลดลง 59.3%
ขาดทุน 504.8 ล้านบาท ลดลง 170.6%
ธุรกิจร้านอาหาร
รายได้รวม 5,001.8 ล้านบาท ลดลง 18..2%
ขาดทุน 5.8 ล้านบาท ลดลง 101.7%

C ที่สอง : CPN
“เซ็นทรัลพัฒนา” หรือ CPN หนึ่งในกิ่งก้านสาขาธุรกิจในเครือเซ็นทรัลที่ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2523 ที่เป็นธุรกิจพัฒนาศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ พูดง่าย ๆ คือ เป็นเจ้าของห้างเซ็นทรัลสาขาต่าง ๆ ที่โดนผลกระทบจากการปิดศูนย์การค้าตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มี.ค. จนถึง พ.ค. ทำให้รายได้จากค่าเช่าและบริการลดลง
ภาพรวมครึ่งปี CPN รายได้รวม 16,154 ลดลง 9.4% กำไร 5,059 ลดลง 4.8%
รายได้จากการให้เช่าและบริการ 11,410 ล้านบาท ลดลง 27%
รายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม 207 ล้านบาท ลดลง 64%
รายได้จากการบริหารศูนย์อาหาร 198 ล้านบาท ลดลง 53%
รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 664 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%
รายได้อื่น ๆ 3,675 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 477%
หุ้นกลุ่มจิราธิวัฒน์ C สุดท้าย : CRC
เซ็นทรัล รีเทล หรือ CRC ที่เพิ่งเข้าตลาดเมื่อช่วงต้นปี 2563 หุ้นที่ได้ชื่อว่ามูลค่า IPO ใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ เข้าไปไม่ทันไรก็เจอมรสุมใหญ่อย่างโควิด-19
กลยุทธ์การปรับตัวเพื่อสู้โควิด-19 นาทีนี้ของ CRC จึงต้องเร่งเครื่องขายออนไลน์อย่างเต็มสูบ ทั้งผ่านออมนิแชแนลแพลตฟอร์ม, Line Chat & Shop, บริการส่งสินค้าแบบ Drive Thru, Click & Collect
ธุรกิจในกลุ่ม CRC ไตรมาส 2 สาหัสจากรายได้การขายที่ลดลง เป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง และกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมทั้งได้รับผลกระทบจากการจำกัดระยะเวลาเปิดให้บริการ
ผลประกอบการครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 95,661 ล้านบาท ลดลง 10% และขาดทุนสุทธิ 1,629 ล้านบาท ลดลง 5,831 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
รายได้จากการขาย 85,583 ล้านบาท
– ส่วนงานแฟชั่น 20,463 ล้านบาท ลดลง 34.7%
– ส่วนงานฮาร์ดไลน์ 25,496 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%
– ส่วนงานฟู้ด 39,624 ล้านบาท ลดลง 2.6%
รายได้การให้บริการเช่า 2,485 ล้านบาท
รายได้การให้บริการ 537 ล้านบาท
ครึ่งปีแรกว่าสาหัสแล้ว ครึ่งปีที่เหลือนี้คงต้องรอดูว่าทั้ง 3C ของจิราธิวัฒน์จะใช้กลยุทธ์อะไรที่ทำให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น แม้ภาพรวมมองว่าอาจจะไม่ได้ตามเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ก็ตาม
Website : Marketeeronline.co /
