Ugur Sahin จากครอบครัวผู้อพยพสู่หัวหอกทีมสร้างวัคซีนสู้โควิด
เกือบปีมาแล้วที่ทั่วโลกถูกวิกฤตโควิดคุกคาม แต่ล่าสุดสถานการณ์กำลังดีขึ้น หลังบริษัทยาหลายแห่งต่างแข่งกันประกาศความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีน โดยผู้ที่มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จครั้งนี้คือUgur Sahin-CEO ของ BioNTech
ความสำเร็จครั้งนี้ยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับภูมิหลังของตัวUgur Sahinนั่นเอง
Ugur Sahinเกิดในตุรกีเมื่อ 29 กันยายน 1965 ทว่าอายุเพียง 4 ขวบก็ย้ายตามครอบครัวมาเยอรมนี เพื่อไขว่คว้าหาชีวิตดีกว่าไม่ต่างจากชาวตุรกีส่วนใหญ่ ณ เวลานั้น โดยพ่อและแม่ที่ได้งานในโรงงานผลิตรถยนต์พยายามเต็มที่ในการเลี้ยงดูครอบครัวและส่งเสียเลี้ยงดูUgur Sahinให้ได้รับการศึกษาที่ดี
Ugur Sahin
และUgur Sahinก็ไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง โดยเขาได้เรียนจบจนเป็นแพทย์ฝีมือดีและ ’’อาจารย์หมอ’’ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาเซลล์มะเร็งในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเมือง Mainz อยู่หลายปี และระหว่างนี้เองที่ได้พบรักกับ Ozlem Tureci แพทย์สาวเชื้อสายตุรกีร่วมสถาบัน
ทั้งสองแต่งงานกันในปี 2002 หลังตั้ง Genymed บริษัทที่เชี่ยวชาญในการรักษาเซลล์มะเร็งขึ้น 1 ปีก่อนหน้านั้น (ต่อมาปี 2016 ขายกิจการให้ Astellas บริษัทเวชภัณฑ์ญี่ปุ่น) หลัง Genymed เดินหน้าได้ ทั้งคู่ก็ตั้ง BioNTech ขึ้นในปี 2008 แต่ก็ยังเป็นบริษัทที่รู้จักในหมู่บริษัทยาด้วยกัน
(จากซ้าย) Ozlem Tureci และUgur Sahin
และอยู่ใต้เงาของบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Pfizer ที่เคยร่วมกันพัฒนาวัคซีนโรคหวัดเท่านั้น แม้Ugur Sahinและภรรยาเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีของเยอรมนี จากการพาบริษัท IPO เมื่อปี 2019 ก็ตาม
ต้นปี 2020 Ugur Sahinเรียกประชุมพนักงานของ BioNTech กลางวันหยุดหลังทราบข่าวการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีน โดยUgur Sahinสั่งให้เดินหน้าพัฒนาวัคซีนต้านโควิด เพราะคาดว่าโควิด-19 จะระบาดอย่างหนักและทำให้ภาคธุรกิจทั่วโลกเหมือนเป็นอัมพาต
พอถึงมีนาคมUgur Sahinต้องช็อกที่คาดการณ์ดังกล่าวเป็นจริงเร็วมาก หลังรัฐบาลเยอรมันสั่งใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบแรกเพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 รอบแรก ท่ามกลางการระบาดที่ขยายวงไปทั่วโลก โดย ณ ขณะนั้นการพัฒนาวัคซีนของ BioNTech คืบหน้าไปไม่มาก
Ugur Sahinยังมีปัญหาหนักใจว่า BioNTech จะกระจายวัคซีนออกไปอย่างไร แต่ Pfizer ที่เคยร่วมงานกันมาก่อนก็เข้ามาช่วยเหลือ ผ่านเม็ดเงินรวม 768 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 23,350 ล้านบาท)
ที่สุดวัคซีนที่ BioNTech พัฒนาร่วมกับ Pfizer ก็ประสบความสำเร็จ โดยมีประสิทธิภาพ 95% และเตรียมยื่นขออนุญาตองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ผลิตให้เร็วที่สุด ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า ทั้งสองบริษัทจะทำเงินจากยอดขายวัคซีนต้านโควิดได้ถึง 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 395,000 ล้านบาท) ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ความมั่งคั่งของUgur Sahinเพิ่มขึ้น
ความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิดของ BioNTech ทำให้ Ugur Sahin ได้รับความสนใจ แต่ตัวเขายังคงอยู่อย่างสมถะ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผู้มีเชื้อสายตุรกีในเยอรมนี รวมถึงผู้อพยพที่ย้ายไปตั้งรกรากในประเทศอื่น ๆ ว่าสามารถประสบความสำเร็จและกลายเป็นบุคคลสำคัญได้เช่นกัน/theguardian, cnn, reuters, everybodywiki, forbes
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ