พรุ่งนี้ Joe Biden จะสาบานตนเป็น ปธน. สหรัฐฯ โดยประเด็นหลักในสุนทรพจน์ที่เขาจะกล่าวหลังจากนั้น คือพลังความสมานฉันท์พาอเมริกาฝ่าวิกฤตโควิด และลดความแตกแยก
พรุ่งนี้การเมืองการปกครองสหรัฐฯ จะเข้าสู่ช่วงเวลาประวัติศาสตร์อีกครั้ง โดยมีรายงานว่าประเด็นหลักที่ Joe Biden จะใช้ในการกล่าวสุนทรพจน์หลังสาบานตนเป็นประธานาธิบดีคือ เรียกร้องให้อเมริกันชนหันมาร่วมมือกันเพื่อฝ่าวิกฤตหลายด้านที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ ทั้งผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 และความรุนแรงจากเหตุม็อบเดือดป่วนรัฐสภา
สหรัฐฯ เผชิญปัญหามากมายตลอดช่วงท้ายๆ ในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของ Donald Trump โดยสองปัญหาใหญ่ คือการรับมือกับวิกฤตโควิดผิดพลาดจนมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมมากสุดในโลก

และการที่ Donald Trump ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งที่สุดบานปลายกลายเป็น เหตุจลาจลในอาคารรัฐสภา เมื่อ 6 มกราคม จนมีผู้เสียชีวิต
ว่าที่ประธานาธิบดี Joe Biden รับรู้สถานการณ์ทั้งหมดมาโดยตลอด และเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่อเมริกันชนจะต้องจับมือกันเพื่อคลายวิกฤต โดยสื่อในสหรัฐฯ รายงานว่า Joe Biden จะย้ำถึงประเด็นนี้ในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ หลังการสาบานตนพรุ่งนี้
Joe Biden
ใจความสำคัญของสุนทรพจน์ดังกล่าวของว่าที่ประธานาธิบดี Joe Biden คือ อเมริกาสมานฉันท์ (America United) ใกล้เคียงกับที่เคยกล่าวไว้ในการประกาศชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี
ท่ามกลางรายงานว่าแม้มีทีมงานช่วยร่างสุนทรพจน์ แต่ว่าที่ประธานาธิบดี Joe Biden ก็ยังคงปรับแก้คำหลายครั้ง เพื่อให้ตรงใจและสื่อความหมายได้ชัดเจนที่สุด เหมือนที่เคยทำมาตั้งแต่เข้าสู่แวดวงการเมืองใหม่ ๆ เมื่อเกือบ 40 ปีก่อน
Franklin D. Roosevelt
มีการวิเคราะห์กันว่าสถานการณ์ที่ว่าที่ประธานาธิบดี Joe Biden เผชิญอยู่ เทียบได้กับในสมัยของอดีตประธานาธิบดี Franklin D. Roosevelt ที่ต้องเจองานหนักในการฝ่าปัญหาเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในยุค 1930
สำหรับพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของ Joe Biden พรุ่งนี้ จะมีขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. บริเวณหน้าอาคารรัฐสภาฝั่งตะวันตก โดยพิธีจะเริ่มขึ้นราว 11.30 นาฬิกา (ราว 23.30 น. วันเดียวกันตามเวลาในไทย) ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดด้วยกำลังเจ้าหน้าที่นับหมื่นนาย

ความแตกต่างของพิธีสาบานตนครั้งนี้ คือจำนวนผู้มาร่วมงานจะน้อยกว่าปกติ เพื่อให้ง่ายต่อการป้องกันเหตุรุนแรง และเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19
Barack Obama, George W. Bush และ Bill Clinton
โดยอดีตประธานาธิบดีที่ยังมีชีวิตอยู่เกือบทุกคนคือ Bill Clinton, George W. Bush และ Barack Obama จะมาเข้าร่วมพิธีด้วย ส่วน Jimmy Carter ไม่มาเพราะอายุมากถึง 96 ปี

ด้าน Donald Trump ประกาศแล้วว่า จะไม่ไปร่วมพิธีสาบานตน ซึ่งทำให้เขาเป็นอดีตประธานาธิบดีคนที่ 4 ที่เพิ่งลงจากตำแหน่งในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และคนแรกในรอบ 150 ปีที่ไม่ทำตามธรรมเนียมปฏิบัติช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจ
Donald Trump
Donald Trump จะออกจากทำเนียบขาวตั้งแต่เช้า (ตามเวลาท้องถิ่น) เพื่อไปงานอำลาตำแหน่งที่ฐานทัพอากาศ Joint Base Andrew ในรัฐ Maryland ซึ่งจะเป็นการได้ใช้เครื่องบินประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ (Air Force One) เป็นครั้งสุดท้าย
กองทัพมีการตรวจอาวุธผู้มาเข้าร่วมงานอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงเหมือนเมื่อต้นเดือน ซึ่ง Donald Trump เป็นคนปลุกปั่นก่อม็อบขึ้นเอง/cnn, bbc, wikipedia, theguardain


–
