ธุรกิจบัตรเครดิตไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะโควิด-19 ที่ส่งผลให้ธุรกิจชะลอตัวลง
จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เคยรูดช้อปแบบออฟไลน์ ก็เปลี่ยนพฤติกรรมเป็นช้อปออนไลน์
ใช้จ่ายผ่านช่องทางแบบออมนิแชนแนล ใช้จ่ายแบบไร้สัมผัสมากขึ้น
รวมถึงการเปิดบัตรใหม่จากธนาคารต่าง ๆ ก็ไม่อนุมัติได้เหมือนเดิม
ปี 2564 ที่ทุกธุรกิจหวังว่าจะกลับมาฟื้นตัวดี ตั้งเป้าเติบโต แต่พอมาเจอกับสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่
ทำให้ต้องปรับเป้าหมายการดำเนินการกันอีกครั้ง แล้วทิศทางของ KTC ครึ่งปีหลังเป็นอย่างไร

พิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ฉายภาพให้ฟังว่า
ครึ่งปีแรก ปี 2564 ยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีอยู่ที่ 94,000 ล้านบาท เติบโต 4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
และมีสมาชิกบัตรฯ ใหม่ตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 95,000 ใบ
โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทั้งยอดใช้จ่าย และจำนวนบัตรใหม่ จากที่เคยมองว่าไตรมาส 3 จะกลับมาตอนนี้ก็อาจจะมาช้ากว่าปกติ
และคาดว่าไตรมาส 4 สถานการณ์น่าจะดีขึ้น เพราะเป็นไตรมาสสุดท้ายและช่วงไฮซีซั่น
ทำให้จากที่เคยตั้งเป้ายอดใช้จ่ายปีนี้จะเติบโต 8% ก็คาดว่าจะทำได้ราว 5% หรือราว ๆ 200,000 ล้านบาท
ขณะที่จำนวนสมาชิกบัตรใหม่ยังคงเป้าหมายไว้เท่าเดิมที่ 230,000 ใบ
แม้ลูกค้ายังคงมีความต้องการใช้บัตรเครดิตเป็นจำนวนมาก
แต่สภาพเศรษฐกิจก็ส่งผลต่อการอนุมัติบัตรใหม่ และต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพของลูกค้ามากขึ้น
จากอัตราการอนุมัติบัตรใหม่อยู่ที่ราว ๆ 40% ปัจจุบันอยู่ที่ 36%
ขณะที่กลุ่มเป้าหมายหลักเคทีซีได้หันมาเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาท ขึ้นไปมากขึ้น
เพราะมองว่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายและชำระหนี้
ปัจจุบันฐานสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีมีจำนวน 2.5 ล้านใบ
สัดส่วนสมาชิกอาศัยอยู่ใน กทม. 55% และจังหวัดอื่น ๆ 45%
–
