ขณะที่คนทั่วโลกติดตามสงครามในยูเครนแบบแทบไม่กะพริบตาด้วยความกังวล และส่วนใหญ่ก็คงเอาใจช่วยยูเครน ที่ตกเป็นรองรัสเซียแทบทุกด้าน ตั้งแต่กำลังทหารไปจนถึงงบประมาณสนับสนุน
ทว่าเมื่อสงครามดำเนินไป ยูเครนกลับสามารถยืนหยัดและยังตอบโต้รัสเซียได้อีกด้วย จริงอยู่ที่ส่วนสำคัญมาจากการสนับสนุนของสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรปพร้อมด้วยชาติพันธมิตร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า รัฐบาลยูเครนเองก็แสดงให้เห็นความธาตุแกร่ง ซึ่งผู้ที่ปลุกความแกร่งนี้ขึ้นมาคือประธานาธิบดี Volodymyr Zelenskyy
ประธานาธิบดี Volodymyr Zelenskyy
อีกประเด็นที่ถูกกล่าวถึงกันมากคือการใช้สื่อออนไลน์ของรัฐบาลยูเครนและการเรียกร้องให้บรรดายักษ์เทค เช่น Apple Meta และ Google ร่วมแบนรัสเซีย ไปพร้อมกับยื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องการสื่อสาร
Elon Musk
ที่เป็นข่าวดังคือการขอให้ Starlink เปิดใช้สัญญาณดาวเทียมอินเทอร์เน็ตของ Starlink และส่งจานรับสัญญาณมายูเครน ผ่านการทวิตข้อความไปยัง Elon Musk–CEO ของ Startlink ซึ่งยังควบตำแหน่ง CEO ของ Tesla ด้วย
ผู้ที่ทวิตข้อความไปหา Elon Musk และปลุกให้บรรดายักษ์เทคช่วยทัพยูเครนตอบโต้รัสเซีย Mykhailo Fedorov รองนายกรัฐมนตรียูเครน ที่อายุเพียง 31 ปีเท่านั้น
Mykhailo Fedorov
Mykhailo Fedorov เกิดเมื่อ 21 มกราคม ในเมือง Vasyliva ทางภาคใต้ของยูเครน โดยหลังคว้าปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Zhaporizhia ซึ่งถือเป็นสถาบันชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ ก็ก่อตั้ง SMM Studio บริษัทที่ปรึกษาด้านการทำตลาดในสื่อออนไลน์ขึ้น ไปพร้อม ๆ หาทางเข้าสู่แวดวงการเมืองเพราะความสนใจที่มีอยู่แล้วเป็นทุนเดิม
แม้สอบตกในการเลือกตั้งปี 2014 แต่ Mykhailo Fedorov ก็ยังติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด และหวังว่าสักวันจะได้ใช้ความรู้ความสามารถทางเทคโนโลยีและความเข้าใจในสื่อออนไลน์เพื่อพัฒนาประเทศ
ยูเครนมีการเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2019 โดยคราวนี้ Mykhailo Fedorov เปลี่ยนบทบาทใหม่ ไปเป็นหัวหน้าทีมออนไลน์ของ Volodymyr Zelenskyy จากพรรค Servant of the People ซึ่งขณะนั้น ยังเป็นม้านอกสายตา เพราะไม่มีประสบการณ์การเมืองใด ๆ มาเลย และก่อนหน้านี้ชาวยูเครนรู้จักเขาในฐานะนักแสดงตลก
ทว่าที่สุดม้านอกสายตาอย่าง Volodymyr Zelenskyy ก็หักปากกาเซียน ชนะการเลือกตั้งและครองตำแหน่งประธานาธิบดี นี่ทำให้ Mykhailo Fedorov ได้เข้ามาอยู่ในรัฐบาลยูเครนด้วย ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล
รองนายกรัฐมนตรีหนุ่มสุดในคณะรัฐบาลผู้นี้เดินหน้าอัปเกรดทางดิจิทัลให้ยูเครน เช่น บริหารจัดการให้ประชาชนได้วัคซีนพาสปอร์ต ผ่านช่องทางออนไลน์โดยสะดวกและรวดเร็ว
Mykhailo Fedorov ยังติดตามประธานาธิบดี Volodymyr Zelenskyy เดินทางไปเยือนสหรัฐฯ โดยระหว่างที่ไปสำนักงานใหญ่ Apple เขาคือคนที่โน้มน้าวให้ Tim Cook เห็นถึงข้อดีในการเปิด Apple Store ในยูเครน และเขายังพบกับผู้บริหารระดับสูงของ Google อีกด้วย
มาปีนี้ Mykhailo Fedorov ได้ใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มศักยภาพ โดยแทนที่จะให้เจ้าหน้าที่กระทรวงดิจิทัลมัวเฝ้าระวังไม่ให้ถูกรัสเซียตัดการสื่อสาร เขากลับสั่งปรับทัพ เดินหน้าติดต่อกับบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ และเปลี่ยนเป็นโหมดสกัดการโจมตีออนไลน์จากรัสเซีย
Tim Cook
ส่วนตัวเขาเองก็ใช้ทวิตเตอร์แท็กแบบเปิดเผยไปถึง Tim Cook – CEO ของ Apple, Nick Cleg–อดีตรองนายกฯ อังกฤษที่ผันตัวมาเป็นผอ. ฝ่ายสื่อสารกับรัฐบาลต่างประเทศของ Meta (หรือ Facebook เดิม) และ Elon Musk–CEO ของ Starlink และ Tesla
การโพสต์แท็กถึงผู้บริหารยักษ์เทคเหล่านี้ จะมีการใช้คำอย่างรอบคอบ และจี้ให้แต่ละบริษัทใช้ศักยภาพที่มีเข้ามาช่วย
เช่นที่ Mykhailo Fedorov ทวิตไปถึง Elon Musk ว่า “ขณะที่คุณมุ่งไปตั้งอาณานิคมบนดาวอังกฤษ แต่รัสเซียกำลังพยายามรุกคืบเข้ามายึดยูเครน” โดยหลังทวิตไม่นาน Elon Musk ก็ตอบรับ สั่งให้ Starlinlk ยิงสัญญาณดาวเทียมอินเทอร์เน็ตมายังยูเครน
ส่วน Apple ก็ปิดสาขาในรัสเซีย ขณะที่ Facebook กับ Google ก็ปิดกั้นการค้นหาข่าวจากสำนักข่าวรัสเซีย ท่ามกลางรายงานว่า ตั้งแต่สงครามเริ่มต้น Mykhailo Fedorov ได้ติดต่อบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 50 บริษัท
ยุทธวิธีดังกล่าวประสบความสำเร็จ โดยนอกจากปลุกยักษ์แบนแล้ว ข่าวการลุกขึ้นยืนหยัดของยูเครน และความรุนแรงเลวร้ายของฝ่ายรัสเซีย ยังเต็มสื่อออนไลน์ และกระจายไปสู่สื่อสำนักใหญ่ ๆ อีกด้วย
จนประเทศที่เห็นใจและอยากช่วยยูเครนก็มีเพิ่มขึ้น ถือได้ว่าเป็นการใช้สื่อออนไลน์ในสถานการณ์วิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพทว่าทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้า กระทรวงดิจิทัลยูเครนไม่มี Mykhailo Fedorov รัฐมนตรีวัยเพียง 31 ปี เป็นแม่ทัพ/thewashingtonpost, wikipedia, frontnews
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
