ในวันนี้อาจมองว่า CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และ ตลาดเวียดนาม ) มีการพัฒนาต่ำ มีความไม่แน่นอนทางการเมืองสูง มีความล้าหลังในการพัฒนาประเทศ แต่จริงๆ แล้ว CLMV มีอีกมุมมองหนึ่งที่นักธุรกิจบางคนอาจมองไม่เห็นจุดนั้น
ในงานแถลงข่าวเปิดตัวบริษัท ริเวอร์ออคิด บริษัทชาวไทยที่เติบโตในอินโดไชน่าในฐานะผู้ให้บริการธุรกิจสื่อสารในตลาด CLMV มากนานกว่า 15 ปี ให้คนไทยได้รู้จัก ได้วิเคราะหฺ์ CLMV ว่าจะกลายเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ในฐานะ 4 ประเทศ ที่ติดกลุ่ม 15 ประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วที่สุดในโลกอีก10 ปีข้างหน้า จากชนชั้นกลางจะเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 300% ซึ่งเป็นโอกาสอันหอมหวลที่ท้าทายของผู้ประกอบการชาวไทยที่จะเข้าไปลงทุนวางรากฐานธุรกิจให้มั่นคงก่อนที่จะเปิด AEC ที่ผลักดันให้ตลาดเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่การเข้าสู่ตลาด CLMV ถ้ามี Insight ไม่ดีพอ ก็อาจเกิดอุปสรรค์ที่ไม่คาดฝันได้ เพราะผู้บริโภคใน 4 ประเทศ CLMV มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แล้ว Insight ของผู้บริโภคในแต่ละประเทศเป็นอย่างไรหละ
CLMV เหมือนหรือต่างกับไทย
ประเทศไทยเป็นประเทศที่เรียกว่าได้เปรียบที่สุดใน AEC จากการมีพรมแดนติดกัน การคมนาคมที่เชื่อมโยงกันผ่านเมกะโปรเจคต่างๆ มีภาษา ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมใกล้เคียงกัน นักธุรกิจไทยควรมอง CLMV เป็นก้าวแรกในการทำธุรกิจ ซึ่งการเข้าถึง CLMV แต่ละประเทศ ควรทำอย่างไร
Consumer Insight CLMV
Vietnam
1.เหนือและใต้มีความแตกต่าง
ในอดีตประเทศเวียดนามเคยแบ่งเป็นเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ ทำให้พฤติกรรมหลายๆ อย่างของชาวเวียดนามเหนือและใต้มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งพฤติกรรม และสำเนียงภาษา
ชาวเวียดนามเหนือมีกรุงฮานอยเป็นเมืองหลวง มีพฤติกรรมชอบอยู่ในกฏระเบียบ มี Brand Loyalty สูงและไม่ค่อยเปลี่ยนแบรนด์บ่อย เก็บเงินเก่ง และมีรสนิยมจากการที่มีสวนสาธารณะมาก ที่ก่อเกิดศิลปินต่างๆ ทั้งวาดรูปและแต่งเพลงมากมาย
ชาวเวียดนามใต้ มีเมืองโฮจิมิน เป็นเมืองหลัก โดยในอดีตเมืองโฮจิมินเป็นเมืองท่าค้าขาย พฤติกรรมของชาวเวียดนามใต้จึงเป็นคนกระตือรือร้น ค้าขายเก่ง คิดว่าเงินมีไว้ใช้ไม่ได้มีไว้เก็บ และเปลี่ยนแบรนด์เร็ว ชอบลองของใหม่ๆ เสมอ
2.Network เป็นสิ่งสำคัญ
ชาวเวียดนามยังคงให้ความสำคัญกับ Connection Network การเข้าไปทำธุรกิจในเวียดนามนักธุรกิจไทยควรเข้าไปอยู่ใน Network เขาให้ได้ เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน
3.การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ได้ทุนการศึกษาไปเรียนต่อต่างประเทศ กับผู้ที่ใช้สินค้าแบรนด์เนม ขับรถราคาแพง ผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาเป็นคนที่มีความเท่ และดูดีกว่า จากค่านิยมของชาวเวียดนามให้ความสำคัญกับการศึกษามากที่สุด
และด้วยอดีตที่ผ่านมาชาวเวียดนามเคยชนะสงคราม 3 ประเทศยักษ์ใหญ่อย่าง จีน อเมริกา และ ฝรั่งเศสชาวเวียดนามจึงถูกปลูกฝังกับนักเรียนในโรงเรียนเสมอว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถชาวเวียดนาม
4.V-Pop มาแล้ว
ปัจจุบันเวียดนามเริ่มสร้างวัฒนธรรมของตัวเองขึ้นมาเรียกว่า V-Pop และถูกส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ที่ชาวเวียดนามอพยพเข้าไปตั้งรกราก ทั้งอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ ฝรั่งเศส ในอดีตอาหารเวียดนามอาจไม่รู้จักแพร่หลายนัก แต่วันนี้อาหารเวียดนามเป็นอาหารที่สุดคลูในประเทศอเมริกา และอังกฤษ
5.สื่อสลับซับซ้อน
สื่อในประเทศเวียดนามค่อนข้างซับซ้อนพอสมควรจากการมี Free TV และ Digital TV มากถึง 75 ช่อง และมีระบบเซ็นเซอร์คล้ายกับประเทศลาว จากการมองการสื่อสารเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคง
แต่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของชาวเวียดนามมีอัตราสูงกว่าประเทศไทยจากการส่งเสริมของรัฐบาลเวียดนาม รวมถึงการแข่งขันการให้บริการอินเทอร์เน็ตออนโมบายที่สูง เพื่อตอบโจทย์บริโภคชาวเวียดนามที่นิยมใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ
6สินค้าเวียดไม่ด้อยไปจากไทย
ชาวเวียดนามไม่ได้มองสินค้าไทยมีคุณภาพสูงและโดดเด่นกว่าสินค้าเวียดนาม เหมือนกับลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา การนำสินค้าไทยไปทำตลาดในด้วยงบลงทุนที่น้อยเพื่อหวังผลที่จะได้กลับมามากแทบเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับตลาดนี้
ที่มา : ริเวอร์ ออคิด, กรกฏาคม 2558
เพิ่มเติม ทำไมต้อง CLMV
http://marketeer.co.th/2015/08/why-clmv-15
Consumer Insight CLMV-ลาว
http://marketeer.co.th/2015/08/consumer-insight-clmv-laos/
Consumer Insight Myanmar
http://marketeer.co.th/2015/08/consumer-insight-clmv-myanmar/
Consumer Insight Kampuchea
http://marketeer.co.th/2015/08/consumer-insight-clmv-kampuchea
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
