Vanusia Nogueria ผู้อำนวยการองค์กรกาแฟนานาชาติ (ICO) กล่าวว่า ผู้บริโภคทั่วโลกจะยังคงชงกาแฟดื่มเองที่บ้านต่อไป เช่นเดียวกับที่เป็นมาตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด
พร้อมกันนี้จะพิจารณาเรื่องราคาก่อนเป็นอันดับแรก เพราะปัจจุบันราคากาแฟแพงขึ้น และปัญหาโลกร้อนยังทำให้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวกาแฟได้ลดลงอีกด้วย
Vanusia Nogueria กล่าวอีกว่า สถานการณ์นี้จะส่งผลโดยตรงต่อยอดขายของร้านกาแฟทั่วโลก เพราะเมื่อต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด และราคากาแฟต่อแก้วแพงขึ้น บรรดาคอกาแฟก็คงจะชงกาแฟเองกันที่บ้านต่อไป
และออกไปจิบกาแฟที่ร้านกันน้อยลง หรือถ้าไปก็จะเลือกซื้อเมนูที่ราคาถูกลงมา โดยสภาพตลาดกาแฟโดยรวมน่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงปี 2023
ICO ยังให้ข้อมูลเรื่องผลกระทบของปัญหาโลกร้อนเพิ่มเติมว่า ทำให้เก็บเกี่ยวกาแฟได้ลดลง โดยปีนี้เก็บเกี่ยวได้ 167.2 ล้านกระสอบ (1 กระสอบหนัก 60 กิโลกรัม) ลดลง 2.1% จาก 170.8 ล้านกระสอบของเมื่อปีที่แล้ว
จนไม่สามารถรองรับปริมาณการบริโภคกาแฟของผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่งปีนี้อยู่ที่ 170.3 ล้านกระสอบ เพิ่มขึ้นมาเพียง 3.3% จากปีที่แล้ว
ข้อมูลเรื่องปัญหาโลกร้อนของ ICO สอดคล้องกับผลการศึกษา ของ Plos One ก่อนหน้านี้ที่ว่า หากไม่ช่วยกันแก้ไขให้ทุเลาลง ต่อไปจะปลูกกาแฟได้ยากขึ้น ทำให้ปริมาณเก็บเกี่ยวพันธุ์ Arabica ที่ต้องได้รับการดูแลอย่างดีลดลง
บีบให้เกษตรกรต้องหันไปปลูกกาแฟพันธุ์ Robusta ที่คุณภาพต่ำกว่าแต่ดูแลง่ายกว่าแทน หรือหันไปปลูกพืชอื่นแทน จนที่สุดราคากาแฟทุกแก้วแพงขึ้น / japantoday
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ