กาแฟขึ้นราคา เพราะโลกร้อนส่งผลการปลูกจริงหรือ ? (วิเคราะห์)
แม้พยายามทำเป็นไม่สนใจแต่ที่สุดปัญหาสิ่งแวดล้อมก็จะกระทบกับเราทุกคน และในอนาคตจะกระทบมาถึงเครื่องดื่มรสขมสร้างความกระปรี้กระเปร่าทุกแก้วด้วย
วารสารวิทยาศาสตร์ Plos One เผยผลการศึกษาจากภาควิชาวิทยาศาสตร์ประยุกต์ของมหาวิทยาลัย Zurich ในสวิตเซอร์แลนด์ว่า ภาวะโลกร้อนจะส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมในการเพาะปลูกเมล็ดกาแฟ โดยเฉพาะพันธุ์ Arabica ตามแหล่งเพาะปลูกใหญ่ ๆ ทั่วโลก จนที่สุดกระทบไปถึงบรรดาผู้บริโภคทำให้ราคากาแฟทุกแก้วแพงขึ้น
ผลการศึกษาดังกล่าวระบุว่า ไร่กาแฟที่จะได้รับผลกระทบหากภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงขึ้นคือ บราซิล และประเทศแถบเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนามและอินโดนีเซีย โดยถ้าปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขให้ทุเลาเบาบางลง ในปี 2050 กาแฟพันธุ์ Arabica ที่ต้องการการดูแลอย่างดี จะปลูกยากขึ้นจนผลผลิตน้อยลง
ถ้าเป็นเช่นนั้นเกษตรกรในพื้นที่ที่เคยเพาะปลูกกาแฟอาจต้องเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นเพื่อเลี้ยงชีพ หรือเปลี่ยนจากกาแฟพันธุ์ Arabica ไปเป็น Robusta ที่คุณภาพต่ำกว่าแทน และภาวะโลกร้อนจะกระทบต่อการเพาะปลูกพืชอีก 2 ชนิด คืออะโวคาโดและมะม่วงหิมพานต์ด้วย
ด้านบรรดาเครือร้านกาแฟใหญ่ ๆ ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกอย่าง Starbucks ก็ทราบปัญหาดังกล่าวดี และไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยปัจจุบันได้ร่วมมือกับสถานการณ์ด้วยการกระจายเมล็ดกาแฟที่มีการปรับปรุงพันธุ์ให้ทนต่อสภาพอากาศไปยังเกษตรกรที่ทำสัญญาปลูก (Contract Farming) และส่งเมล็ดกาแฟส่งมาให้ และซื้อกาแฟล่วงหน้าเพื่อกำหนดราคา
ทว่าทั้งบรรดาเครือร้านกาแฟใหญ่ ๆ และแบรนด์อาหาร-เครื่องดื่มก็รู้ดีว่าคงไม่สามารถตรึงราคากาแฟไว้ได้ เพราะปัจจุบันราคากาแฟก็ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงอยู่แล้ว โดยเมื่อปลายปี 2021 ราคาเมล็ดกาแฟซื้อขายล่วงหน้าในสหรัฐฯ สูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี
และหากความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้น แต่เกษตรกรปลูกกาแฟได้ไม่มากพอ และสัดส่วนกำไรของเบอร์ใหญ่ ๆ ในวงการกาแฟลดลง จากปัญหาหรือตัวแปรใดก็ตาม ที่สุด กาแฟขึ้นราคา คอกาแฟก็ต้องจ่ายแพงขึ้นอยู่ดี/cnn
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



