การนำละครมารีรันอีกครั้ง ในช่วง 13.00 หรือ 14.00 เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นช่วงที่คนดูน้อย จึงสามารถนำคอนเทนต์เดิมไปลงได้ แต่ในวันนี้ (11 พฤษภาคม 2561) ช่อง 3 เตรียมนำละคร บุพเพสันนิวาส มาฉายอีกครั้งหลังจากตอนสุดท้ายเพิ่งจบไปเมื่อวันที่ 11 เมษายน นี่เอง ซึ่งเป็นการรีรันที่เร็วที่สุด ในประวัติศาสตร์ช่อง 3 หรือ อาจจะในประวัติศาสตร์ทีวีไทยก็ได้
แถมไม่ใช่การรีรันในตอนบ่าย แต่เป็นการรีรันในช่วงเย็น ที่เรตติ้งดีใช้ได้อีกด้วย
ไปวิเคราะห์ Timeline และ เหตุผลไปพร้อมๆ กัน
Timeline ของบุพเพสันนิวาส
21 กุมภาพันธ์ 2561 – เริ่มออกอากาศ
เรตติ้งช่อง 3 เดือนกุมภาพันธ์ (บุพเพฯ ออก 3 ตอน) 1.246
มีนาคม 2561 – ช่วงคนเริ่มติด แล้วบอกต่อ
เรตติ้งช่อง 3 เดือนมีนาคม (บุพเพฯ ออก 9 ตอน) 1.856
เมษายน 2561 – ตอนจบ + ตอนพิเศษ อีก 3 ตอน
เรตติ้งช่อง 3 เดือนเมษายน (บุพเพฯ ออก 6 ตอน ) 1.586
จากข้อมูลจะเห็นได้เลยว่า เรตติ้งของช่อง 3 เป็นไปตามจำนวนตอนของบุพเพสันนิวาส อย่างเห็นได้ชัด
3 ผลกระทบ ของบุพเพสันนิวาส
1.คนดูทีวีมากขึ้น
เดิมเรตติ้งทีวี ตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2560 ถึง กุมภาพันธ์ 2561 จะอยู่ประมาณ 7.9-8.0 แต่ในเดือนมีนาคมที่มีกระแสบุพเพสันนิวาส เรตติ้งทีวีพุ่งมาอยู่ที่ 8.374 ซึ่งปริมาณ 0.374 ที่เพิ่มมานั้นหมายถึง 0.374% x 68 ล้าน = 250,000 คนเลยทีเดียว
ถึงแม้เรตติ้งทีวีจะไม่พีคแบบสมัยก่อน แต่ถ้ารวมยอดวิวจาก ช่องทางออนไลน์ ทั้ง YouTube, Line TV และ Mello เข้ามาด้วย ก็บอกได้เลยว่า บุพเพสันนิวาส เพิ่มยอดวิวให้ช่อง 3 ได้หลายเท่าจริงๆ
2.ดูดเรตติ้งจากช่องอื่น ทีละนิดๆ
ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม เป็นช่วงที่เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดมากๆ เรตติ้งช่อง 3 เพิ่ม 0.61 ในขณะที่ช่องอื่นๆ ลดลงทีละนิดๆ โดยช่องที่ไม่กระทบเลย คือ Mono 29 ที่คนดูไม่นิยมละครไทย
3.ละครอิงประวัติศาตร์ กำลังกลับมา
เดิมละครอิงประวัติศาสตร์ ก็มีให้เห็นกันเรื่อยๆ ในทุกช่อง ในทุกปี แต่หลังจากนี้มั่นใจได้เลยว่า ช่อง 7 และช่อง 3 เตรียมปัดฝุ่นตำราเรียนประวัติศาสตร์ไทย มาใช้อีกแน่ เพราะนอกจากได้ความสนุก แล้วยังได้ความรู้อีกด้วย
แต่ต้องดูกันต่อไปว่า จะมีพล็อต หรือวิธีการนำเสนอแบบไหน ให้สนุก และไม่จำเจบ้าง
โดยละคร ‘พรหมลิขิต’ ภาค 2 ก็น่าจะได้อ่านภายในปีนี้ ส่วนละครก็เริ่มถ่ายทำปี 2019
เอาล่ะ เข้าเรื่องกันสักที ว่า
ทำไม บุพเพสันนิวาส ออกอากาศอีกรอบ ในเวลาแค่ 1 เดือน?
1.ขายโฆษณา แบบดีดนิ้ว
รอบแรก บุพเพสันนิวาส ฉายวันพุธ-พฤหัส หลังข่าว ซึ่งเป็นช่วงไพรม์ไทม์ ค่าโฆษณาก็จะแพงกว่า
แต่รอบ 2 ฉายวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงก่อนข่าว ซึ่งเรตติ้งน้อยกว่าหลังข่าวพอสมควร แต่ค่าโฆษณาก็จะถูกกว่าเช่นกัน
ฉะนั้นการฉายรอบ 2 นี้ ก็น่าจะได้รายได้จากโฆษณาไปเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มเติม
2.ผู้ชมคนละกลุ่ม
เป็นที่รู้กันว่า ละครเรื่องบุพเพสันนิวาส สามารถชมทางออนไลน์ได้สะดวกมาก ไม่ว่าจะ Mello, Line TV หรือ YouTube
แต่ยังมีคนไทยอีกมากที่อินเตอร์เน็ตไม่แรง ไม่มีอุปกรณ์รองรับ และ คนต่างจังหวัดบางส่วนก็เข้านอนเร็วอีกด้วย
ฉะนั้นการนำละคร บุพเพสันนิวาส มารีรันอีกรอบ ก็จะทำให้ช่อง 3 เข้าถึงคนดูกลุ่มใหม่ๆ ที่น่าจะไม่ซ้ำกับกลุ่มเดิมอีกด้วย
ต้องรอดูกันว่าการรีรันครั้งนี้จะทำให้ เรตติ้งของช่อง 3 มากกว่าค่าเฉลี่ย 1.2 ได้รึเปล่า?
หรือว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ สร้างความรำคาญให้คนดู ให้เบื่อละครแนวนี้ไปพักใหญ่ก็ได้
แต่ที่แน่ๆ ปรากฏการณ์บุพเพสันนิวาส จะเปลี่ยนวิธีคิดของคนทำละคร คนทำคอนเทนต์ ไปอย่างแน่นอน
ข้อมูลเรตติ้ง : นีลเส็น
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

