การยืนระยะมาได้อย่างยาวนาน ปรับตัวให้ทันความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และฝ่าวิกฤตมาได้ทุกครั้งไม่ว่าใหญ่แค่ไหน คือองค์ประกอบสำคัญที่แบรนด์ชั้นนำทั่วโลกมีร่วมกัน

American Standard มีองค์ประกอบเหล่านี้อยู่ครบ จนขึ้นมาเป็นแบรนด์ชั้นนำอยู่คู่ตลาดสุขภัณฑ์มาเกือบ 150 ปี ผู้บริโภคทั่วโลกจึงอุ่นใจได้เสมอเมื่อได้รู้ว่าห้องน้ำที่ใช้อยู่เป็นของ American Standard

และการได้องค์ความรู้ของญี่ปุ่นเสริมเข้ามา หลังไปอยู่ใต้เครือ LIXIL เมื่อปี 2013 ยกระดับให้ American Standard พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ทั้งในเรื่องการออกแบบและเทคโนโลยี

ยืนยันได้จากนวัตกรรมอย่าง HygieneClean™ System เทคโนโลยีระบบชำระล้างในโถสุขภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องสุขอนามัยสูงสุดที่ออกมาในปี 2016 ตามด้วย GENIE ฝักบัวอาบน้ำเพิ่มแรงดันน้ำแต่ยังอ่อนโยนต่อผิวในปี 2018

แม้ขณะที่โลกเผชิญสถานการณ์โควิด American Standard ก็ยังไม่หยุดพัฒนา โดยได้คิดค้น DuoSTiX™ Hygiene Spray ชุดสายฉีดชำระอเนกประสงค์ที่ทั้งอ่อนโยนต่อผิวและกำจัดคราบสกปรกในห้องน้ำได้อย่างทั่วถึง

เพื่อความสะอาดอย่างหมดจด ไร้ความกังวลว่าจะมีเชื้อโรคใด ๆ หลงเหลืออยู่จนอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตอกย้ำว่าโควิดทำให้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจความสะอาดและสุขอนามัย โดยเฉพาะในห้องน้ำมากขึ้นในทุกจุดสัมผัส

ในฐานะที่เป็นแบรนด์ชั้นนำที่ยืนระยะมาได้อย่างยาวนาน American Standard จึงทราบถึงสถานการณ์ในตลาดสุขภัณฑ์ดี และรับรู้ถึงความต้องการของผู้บริโภค จนนำมาสู่การปรับโฉมแบรนด์อย่างมีวิสัยทัศน์ภายใต้แนวคิด LIFE. LOVE. HOME

ใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่หลังโควิด

Satoshi Konagai ลีดเดอร์ LIXIL Water Technology ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เผยกับ Marketeer ว่า “สถานการณ์โควิดทำให้ตลาดสุขภัณฑ์เปลี่ยนไปอย่างมาก เพราะผู้บริโภคหันมาใส่ใจความสะอาดและสุขอนามัยมากขึ้น โดย American Standard ก็เดินหน้านำข้อมูลจากผู้บริโภคมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์

จนเกิดเป็นการรีแบรนด์ให้ American Standard ภายใต้แนวคิด LIFE. LOVE. HOME เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ สุขภัณฑ์ที่ผู้ใช้เห็นแล้วหลงรัก และเติมเต็มความต้องการในบ้าน

สำหรับในไทย American Standard ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาในส่วนของธุรกิจและบุคลากร เพื่อต่อยอดความสำเร็จ เพิ่ม Brand recognition และย้ำความสำคัญของไทย ทั้งในฐานการผลิต และเป็นตลาดที่ตอบรับกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อันดับต้น ๆ อยู่เสมอ”

จาก Me Time สู่ AI

American Standard และแบรนด์ใต้ชายคา LIXIL ทั้งหมด ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต

Antoine Besseyre des Horts ลีดเดอร์ ประจำลิกซิล กลอบอล ดีไซน์ ภูมิภาคเอเชีย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “อีก 3 ปีจากนี้ ตลาดสุขภัณฑ์จะมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในเรื่องสีสัน รูปทรง และเทคโนโลยี

เพราะผู้บริโภคอยากได้ห้องน้ำที่สะท้อนความเป็นตัวเอง สะดวกและสะอาด เพื่อให้มีความสุขและผ่อนคลายทุกครั้งเมื่อใช้เวลาส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำ ตามเทรนด์ Me Time ซึ่งก็ต่อยอดมาจากช่วงสถานการณ์โควิดนั่นเอง

ส่วนอีก 5 ปีจากนี้ ประชากรโลกจะเพิ่มมากขึ้น และพื้นที่เมืองทั่วโลกขยายตัวมากขึ้น (Urbanization) ทำให้ห้องน้ำซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน มีขนาดเล็กลงตามไปด้วย

ดังนั้นทุกองค์ประกอบในห้องน้ำจึงต้องพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และขนาดเล็กลง แต่ก็ยังคงความสวยงามน่าใช้ ซึ่ง American Standard ก็มีคอลเลกชัน Loven ไว้รองรับเทรนด์ดังกล่าว”

ขณะที่อีก 10 ปีจากนี้ Antoine Besseyre des Horts คาดว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) น่าจะถูกนำมาใช้ในตลาดสุขภัณฑ์มากขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้บริโภค ซึ่งแน่นอนว่า American Standard และแบรนด์ใต้ชายตา LIXIL ทั้งหมดก็จะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการโดยพร้อมใส่ใจในทุกรายละเอียดเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน