เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ศัลยกรรมเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง สังคมไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องผิดธรรมชาติอีกต่อไป หากเเต่เสริมความมั่นใจ เเละเป็นสิทธิส่วนบุคคล ประกอบกับนวัตกรรมเสริมความงามที่ก้าวไกลเป็นอย่างมาก
ส่งผลให้ตลาดศัลยกรรมตกแต่งและหัตถการทั่วโลกมีมูลค่า 63,400 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2 ล้านล้านบาท อัตราการเติบโตเฉลี่ย 9.6% ในช่วงปี 2022-2030 เป็นมูลค่าตลาดที่มากกว่าสินค้าอุปโภคบริโภคบางกลุ่มเสียอีก
การกักตัว Work from home ช่วงโควิด ไม่ได้ทำให้ตลาดดรอปลง ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นเวลาที่ดีสำหรับการหันมาดูเเลรูปร่างหน้าตาเพิ่ม เพราะมีเวลาพักฟื้นแผลเต็มที่ ความต้องการทำศัลยกรรมเสริมความงาม จึงไม่ลดลงเลย
ส่งผลให้ตลาดพุ่งสูงขึ้นเเม้อยู่ในช่วงโควิด และจะยังมีดีมานด์เพิ่มอีกหลังการเปิดประเทศ
หากเเบ่งตามเซกเมนต์ของขั้นตอนการทำ การทำศัลยกรรมแบบฉีดมีส่วนแบ่งรายได้มากกว่า 54% เซกเมนต์นี้เติบโตแรงเพราะไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน อีกทั้งความเจ็บปวดก็น้อยกว่า เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที รวมถึงต้นทุนต่ำ การทำที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ฉีดโบท็อกซ์ เติมสารเติมเต็มเนื้อเยื่ออ่อน และการลอกผิวด้วยสารเคมี
ด้านการทำศัลยกรรมแบบผ่าตัด ที่คนกำลังให้ความนิยม ได้แก่ การดูดไขมัน เสริมหน้าอก ปรับแต่งจมูก เพื่อเสริมภาพรวมของรูปร่างเเละใบหน้าให้เด่นชัดขึ้น
ตามข้อมูลการสำรวจ Aesthetic Society (US) ตลาดศัลยกรรมในสหรัฐอเมริกา พบว่า ระหว่างปี 2000-2018 การเสริมหน้าอกเพิ่มขึ้น 48% ขณะที่การฉีดโบท็อกซ์เพิ่มขึ้น 845%
แต่เมื่อพูดถึงศัลยกรรมเสริมความงาม ส่วนใหญ่มักนึกถึง เกาหลีใต้ เเต่รู้หรือไม่ว่า ศัลยกรรมโดยเเพทย์ไทย ก็โด่งดังเเละเป็นที่นิยมไม่เเพ้เกาหลีเช่นกัน
เกาหลีใต้ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการทำศัลยกรรมของโลก เพราะมีเทคโนโลยีด้านศัลยกรรมเสริมความงาม และมาตรฐาน K-beauty ระดับสูง นอกจากนั้น อัตราการทำศัลยกรรมต่อหัวก็สูงที่สุดในโลกเช่นกัน ตลาดศัลยกรรมของเกาหลีใต้มีมูลค่าประมาณ 10,700 ล้านดอลลาร์ ในช่วงปี 2018-2022 เติบโตเฉลี่ยประมาณ 13.2%
ขยับมาดูอุตสาหกรรมศัลยกรรมตกแต่งและหัตถการของไทย มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 14-17% เเละไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความนิยมด้านนี้เป็นอย่างมาก เห็นได้จากมูลค่าตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2017 มูลค่าศัลยกรรมตกแต่งและหัตถการของไทย อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท ผ่านมาห้าปี อยู่ที่ 60,000 ล้านบาท
เเละตลาดนี้ในเอเชียแปซิฟิกก็เติบโตขึ้นทุกปี รวมถึงไทย ที่เติบโตเเละอยู่ในอันดับสูงสุดของเอเชีย ตามหลังเพียงไต้หวันเเละเกาหลี
แต่หากพิจารณาแค่กลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ไทยยังเป็นตลาดความงามที่มีอัตราเติบโตสูงกว่าประเทศอื่น เพราะศักยภาพและจำนวนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงไม่เเปลกที่ไทยจะได้รับความนิยมทั่วโลก
เสริมความงามในไทย กลายเป็นหมุดหมายสำคัญ สำหรับผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมทั่วโลก ยิ่งหลังการเปิดประเทศ ตลาดจะกลับมาเติบโตก้าวกระโดด จากดีมานด์ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่หลั่งไหลเข้ามาทำศัลยกรรมในไทย
ชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อย ตั้งเเต่ฝั่งยุโรป อเมริกา เอเชียเเปซิฟิก จนถึงประเทศเพื่อนบ้านใน SEA เข้ามาเสริมความงามในไทย บางกลุ่มมากับธุรกิจเอเจนซีทัวร์ศัลยกรรมโดยเฉพาะ
โดยการทำศัลยกรรม Top4 ขึ้นชื่อของไทย ที่ชาวต่างชาติต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำ คือ การผ่าตัดแปลงเพศ ดึงหน้า เสริมหน้าอก เเละตัดหน้าท้อง
อย่างไรก็ดี โลกสมัยที่เปลี่ยนไป การดูเเลตัวเอง รักสวยรักงาม ไม่ใช่เรื่องของคนหนุ่มสาว หรือเพศหญิงอีกต่อไป
เรนจ์อายุของกลุ่มลูกค้าศัลยกรรมที่กว้างขึ้น เเสดงให้เห็นว่าการเสริมความงาม ไม่ได้กระจุกอยู่แค่กลุ่มผู้หญิงหรือวัยทำงานเหมือนเช่นในอดีต กลุ่ม Baby boomer จำนวนไม่น้อยก็หันมาดูเเลสร้างความอ่อนเยาว์เเก่ตน ทำให้ตลาดเติบโตยิ่งขึ้นอีก
อีกทั้งเพศ ที่โดยปกติเป็นลูกค้าผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ เเต่ปัจจุบันเพศชายก็ให้ความสำคัญกับหน้าตารูปร่างไม่เเพ้กัน ทำให้ในอนาคตสัดส่วนของทั้งสองอาจอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
ศัลยกรรมไทยแตะ 6 หมื่นล้าน ช่วง 5 ปีโตสองเท่า
มูลค่าตลาดทั่วโลก | 63,400 ล้านดอลลาร์ (2 ล้านล้านบาท) |
มูลค่าตลาดในเกาหลี | 10,700 ล้านดอลลาร์ (370,000 ล้านบาท) |
มูลค่าในไทย | ปี2017 : 30,000 ล้านบาท
ปี2022 : 60,000 ล้านบาท |
เเบ่งเป็นเซกเมนต์ | เสริมความงามเเบบฉีด 50% |
เสริมความงามเเบบผ่าตัด 50% | |
กลุ่มหลักที่ทำศัลยกรรม | Gen X |
อันดับทำศัลยกรรมต่อคนมากสุดในเอเชีย | 1.เกาหลีใต้
2.ไต้หวัน 3.ไทย |
ไทยขึ้นชื่อเรื่องทำอะไรบ้าง | 1.เเปลงเพศ
2.เสริมหน้าอก 3.ดึงหน้า 4.ตัดหน้าท้อง |
ข้อมูล: alliedmarketresearch, HMSR, MERZ AESTHETICS, grandviewresearch, Bujeong
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



