นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ฝั่งเกาะอังกฤษ หลังช่วงปลายเดือนเมษายน 2566 Jaguar Land Rover – JLR (จากัวร์ แลนด์โรเวอร์) ภายใต้เครือ Tata Motors (ทาทา มอเตอร์) บริษัทผลิตยานยนต์ข้ามชาติจากอินเดียประกาศทุ่มเงินลงทุน 6.3 แสนล้านบาท กรอบระยะเวลา 5 ปี เพื่อปรับฐานการผลิตในประเทศอังกฤษเป็นยานยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว

 

อ่าน: จากัวร์ทุ่ม 6.3 แสน ลบ. ปรับฐานผลิตสู่รถยนต์ไฟฟ้า

 

JLR เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หรูสัญชาติอังกฤษ ที่บอกถึงแบรนด์รถยนต์ในไลน์ผลิต ตั้งแต่ชื่อบริษัท อย่าง Jaguar (จากัวร์) และ Land Rover (แลนด์โรเวอร์)

โดยก่อนมาควบรวมกิจการกัน ทั้ง Jaguar และ Land Rover นับว่าเป็น 2 แบรนด์รถยนต์หรูที่อยู่มายาวนาน และมีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์ยานยนต์ของประเทศอังกฤษอย่างที่สุด

 

ก่อตั้งโดยสิงห์นักบิด สู่รถยนต์หรู ปราดเปรียวดุจเสือจากัวร์

 

William Walmsley (คนซ้าย) / William Lyons (คนขวา)

 

หากเทียบรุ่นตามวัยวุฒิ Jaguar นับว่าถือกำเนิดมาก่อน Land Rover โดยก่อตั้งในปี 1922 จากการร่วมหุ้นกันของชาวอังกฤษสองคน William Lyons (เกิดปี 1901) และ William Walmsley (เกิดปี 1892) ที่เริ่มรู้จักและกลายมาเป็นเพื่อนกันใน ปี 1921

จากความหลงใหลในการขับขี่และออกแบบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง (Sidecar) แรกเริ่มด้วยเงินกู้จากธนาคาร Williams Deacon’s จำนวน 1,000 ปอนด์ โดยการใช้ชื่อค้ำประกันจากคุณพ่อของทั้ง 2 คน คนละ 500 ปอนด์

ก่อตั้งบริษัท Swallow Sidecar Company โดยเป็นบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ที่โรงงานแห่งแรกอยู่ในเมืองแบล็กพูล ประเทศอังกฤษ

สองคนแบ่งหน้าที่การทำงานกันอย่างชัดเจน Lyons ดูแลงานส่วนบริหารและเอกสาร Walmsley ดูแลงานส่วนออกแบบและผลิต และกลายมาเป็นบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์พ่วงข้างชั้นนำของอังกฤษ หลังไปออกงานโชว์ผลิตภัณฑ์ที่งาน London Motor Show ปี 1922

 

ย้ายไปโคเวนทรี

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบริษัทเกิดขึ้นใน ปี 1928 หลังรถจักรยานยนต์พ่วงข้างถูกท้าทายด้วยการได้รับความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างสูงของรถยนต์ขนาดเล็กในประเทศอังกฤษ ช่วงทศวรรษ 1920

Lyons และ Walmsley ได้ย้ายฐานผลิตของบริษัทไปยังเมืองโคเวนทรี ประเทศอังกฤษ และเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิมไปเป็น SS Cars Ltd. เพื่อทลายภาพจำการเป็นเพียงบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง และประกาศตัวเป็นผู้เล่นที่เข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ของอังกฤษอย่างเป็นทางการ

 

SS Jaguar

แม้จะร่วมสร้างกันมาตั้งแต่เริ่มแต่ความต่างในการทำงานของ Lyons ที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตของบริษัท ส่วน Walmsley พึงพอใจเพียงการทำงานลงแรงอยู่ในฐานการผลิต

ทำให้ทั้งคู่มาถึงจุดที่ต้องแยกทาง โดย Walmsley แจ้งลาออกในการประชุมสามัญประจำปีครั้งแรกของ SS Cars Ltd. เมื่อปี 1934 ก่อนที่ Lyons จะเข้าซื้อหุ้นส่วนที่เป็นของ Walmsley ทั้งหมดในปี 1935

และเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิม ซึ่งสื่อนัยในแง่ลบถึงหน่วย SS หรือกองกำลังทางทหารของฝ่ายนาซีเยอรมันช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปเป็นชื่อ Jaguar Cars Ltd.

ชื่อ Jaguar นำมาจากชื่อของเสือป่าจากัวร์ ซึ่งสื่อถึงความปราดเปรียว ว่องไว และแข็งแกร่ง แบบเดียวกับรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Jaguar โดยนับเป็นชื่อที่ผ่านการคัดเลือกจากรายชื่อสัตว์ต่าง ๆ กว่า 500 ชนิด ที่บริษัทรวบรวมมาพิจารณากัน

 

 

ปี 1935 ยังนับเป็นปีแห่งประวัติศาสตร์ยานยนต์อังกฤษ เพราะเป็นปีที่ SS Jaguar รถยนต์ภายใต้แบรนด์ Jaguar รุ่นแรก ได้เปิดเผยสู่สายตาสาธารณชน และส่งให้ Jaguar เริ่มกลายเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตรถยนต์หรู และรถสปอร์ตสัญชาติอังกฤษ ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950 เป็นต้นมา

 

Land Rover แบรนด์รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อสุดเก๋า แห่งเกาะอังกฤษ

Land Rover ก่อตั้งขึ้นมาครั้งแรกในปี 1948 ณ เมืองโซลิฮัลล์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งแรกเริ่ม Land Rover เป็นเพียงชื่อของรถยนต์รุ่นหนึ่งในไลน์การผลิตของ Rover Company Ltd. บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษ

 

ที่มีหนึ่งในผู้ก่อตั้ง อย่าง John Kemp Starley (เกิดปี 1855) นักอุตสาหกรรมชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้ประดิษฐ์ และบุกเบิกการใช้งานจักรยาน ที่กลายมาเป็นต้นแบบจักรยานที่เราใช้กันอยู่อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

จุดเปลี่ยนของ Land Rover มาจากการถูกเข้าซื้อกิจการ Rover Company Ltd. โดย Leyland Motors Ltd. บริษัทผู้ผลิตรถบรรทุก รถโดยสาร และรถรางไฟฟ้าของอังกฤษ เมื่อปี 1967 เพราะต้องการขยายพอร์ตธุรกิจสู่ฐานการผลิตรถยนต์ส่วนบุคคล

 

Range Rover Velar

หลังถูกเข้าซื้อกิจการไม่ถึงปี รถยนต์ตระกูล Land Rover ตัวต้นแบบ ที่เป็นจุดกำเนิดอุตสาหกรรมรถยนต์อเนกประสงค์ สไตล์ลักชัวรี ขับเคลื่อน 4 ล้อ ในอังกฤษขณะนั้น

 

ก็เปิดตัวออกมาในปี 1967 กับ Range Rover Velar โดยรถทุกคันในไลน์ผลิตนี้จะถูกติดตรา Velar แปลเป็นภาษาอิตาลีได้ว่า คลุม หรือ ปิดบัง แทนตรา Range Rover เพื่อปกปิดตัวตนของรถ

 

Range Rover Classic

ปี 1970 Land Rover ได้เปิดตัว Range Rover รุ่นแรกอย่างเป็นทางการ หลังการทดสอบด้านสมรรถนะการใช้งานที่ประสบความสำเร็จจากตัวต้นแบบ Velar

 

โดย Range Rover Classic เป็นรถยนต์คันแรกของตระกูล ที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ให้ความสมบุกสมบันในการขับขี่ พร้อมโครงสร้างตัวถัง 3 ประตู แบ่งเป็น 2 ประตู ฝั่งที่นั่งคนขับ และผู้โดยสาร กับประตูท้ายบานแยก

เกิดเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีความลักชัวรี ด้วยดีไซน์ฝากระโปรงทรงเปลือกหอย และเส้นสายรอบตัวรถที่ต่อเนื่องกัน

โดย Range Rover Classic กลายมาเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ส่งให้จากการเป็นเพียงรถยนต์ตระกูลหนึ่งในกลุ่มบริษัท Land Rover กลายมาเป็นแบรนด์แยกขาดจาก Rover Company และเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่ทำธุรกิจอยู่ในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ส่วนบุคคล ขับเคลื่อน 4 ล้อ มายาวนานที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก

 

เส้นทางบรรจบกันครั้งแรก ปี 1968

Jaguar และ Land Rover ถูกรวมมาอยู่ภายใต้บริษัทเดียวกันครั้งแรก ปี 1968 จากการควบรวมกิจการของ Leyland Motors Ltd. และ British Motor Holdings Ltd. ซึ่งถูกตั้งขึ้นมาจาก British Motor Corporation Ltd. บริษัทผลิตยานยนต์สัญชาติอังกฤษ เพื่อเป็นบริษัทโฮลดิ้ง หลังเข้าซื้อกิจการ Jaguar Cars Ltd. ในปี 1966

 

 

เกิดเป็นบริษัทวิศวกรรมและการผลิตยานยนต์สัญชาติอังกฤษ อย่าง British Leyland Motor Corporation Ltd. ที่เป็นเจ้าของถือครอง ทั้ง Jaguar (ปี 1966 โดย British Motor) และ Land Rover (ปี 1967 โดย Leyland Motors)

แม้ British Leyland Motor จะเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงจากการทำกำไรของแบรนด์ยานยนต์ต่าง ๆ ในเครือ อาทิ Rover Company, Jaguar, Land Rover หรือแม้แต่ Mini ซึ่งตอนนั้นยังอยู่ภายใต้การถือครองของบริษัทเช่นกัน

แต่ด้วยการบริหารงานที่ผิดพลาด และปัญหาทางการเงิน ทำให้ British Leyland Motor เข้าสู่ช่วงการล้มละลายใน ปี 1975 กลายเป็นบริษัทที่ถูกบริหารงาน และควบคุมแบบรัฐวิสาหกิจ

โดยหลายแบรนด์ยานยนต์ในเครือบริษัท ก็ทยอยแตกกระจายไปอยู่ในอุ้งมือของบริษัทยานยนต์อื่น ๆ

 

กลับมาพบกันปี 2000

หลังอยู่ในการบริหารงานแบบรัฐวิสาหกิมาตั้งแต่ปี 1975 พอ 9 ปีต่อมา หรือในปี 1984 แบรนด์ Jaguar ก็แยกตัวออกมาเป็นบริษัทเอกชนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน

 

 

ต่อมา ในปี 1990 Ford Motor Company บริษัทยานยนต์ข้ามชาติจากสหรัฐอเมริกาก็ได้ซื้อ Jaguar เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Premier Automotive Group (PAG) หน่วยงานดูแลธุรกิจแบรนด์ยานยนต์ระดับไฮเอนด์ในเครือของ Ford

ซึ่งขณะนั้นมีแบรนด์อยู่ในการดูแลทั้ง Aston Martin กับ Volvo และได้ Jaguar มาเสริมทัพในที่สุด

 

ถูกซื้อโดย BMW ก่อนกลับมาพร้อมหน้าในเครือ PAG

ส่วน Land Rover หลังอยู่ภายใต้การบริหารงานของ British Leyland Motor ซึ่งกลายเป็นรัฐวิสาหกิจตั้งแต่ ปี 1975 ก็ถึงเวลาเปลี่ยนมืออีกครั้ง

โดยปี 1994 BMW บริษัทยานยนต์ข้ามชาติจากเยอรมันก็ได้เข้าซื้อกิจการของ Rover Company และ Land Rover

ก่อนที่ 6 ปีต่อมา ใน ปี 2000 BMW จะยุบกิจการ Rover Company และขายทอดตลาด Land Rover ให้กับ Ford Motor Company ที่นำแบรนด์เข้าไปรวมอยู่ในพอร์ต PAG ซึ่งมีแบรนด์เพื่อนร่วมชาติอย่าง Jaguar รอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว

 

เกิดใหม่ในประเทศบ้านเกิด

Jaguar และ Land Rover อยู่ภายใต้การบริหารงานของ Ford Motor Company จนถึงปี 2007 ซึ่ง Ford ได้ประกาศขายทั้ง 2 แบรนด์พร้อมกันอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้เข้าร่วมประมูลเข้าซื้อกิจการมากมาย

 

 

ปี 2008 Ford ก็ประกาศว่า Tata Motors (ทาทา มอเตอร์) เป็นผู้ชนะการประมูลเข้าซื้อกิจการรวมทั้ง 2 แบรนด์ ด้วยมูลค่า 2.23 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท)

โดยเสร็จสิ้นกระบวนการซื้อกิจการ ผ่าน Jaguar Land Rover Ltd. บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ที่จัดตั้งและถือหุ้นทั้งหมด โดย Tata เอง

แรกเริ่มทั้ง Jaguar และ Land Rover ภายใต้เครือ Tata ยังเป็นกิจการจาก 2 บริษัทแยกกัน ที่ดำเนินงานแบบบูรณาการ

โดยระหว่างนั้น Tata ก็ได้ดำเนินงานปรับโครงสร้างพื้นฐาน โรงงานสำหรับวิจัยและพัฒนา และผลิตกับประกอบรถยนต์ของทั้ง 2 แบรนด์ รวม 5 แห่ง ที่กระจายตัวอยู่ในสหราชอาณาจักร และ 1 แห่งในอินเดีย

เพื่อเตรียมรองรับการทำงานแบบรวมศูนย์ของทั้ง Jaguar และ Land Rover มาใน ปี 2013 ทาง Tata ก็ควบรวมการทำงานของทั้ง 2 แบรนด์ สำเร็จ

โดยรวมมาอยู่ภายใต้บริษัทเดิม ที่เปลี่ยนชื่อไปเป็น Jaguar Land Rover Automotive PLC หรือ JLR ซึ่งเป็นบริษัทที่รับผิดชอบการดำเนินงานทุกอย่างของผลิตภัณฑ์ ทั้งแบรนด์ Jaguar และ Land Rover ที่อยู่ในขอบเขตการผลิตในสหราชอาณาจักร

ส่งผลสำคัญให้ทั้งปี 2013 ทาง JLR กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์หรู รายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ ด้วยจำนวนผลิต 489,923 คัน และยอดขาย 425,006 คัน

 

ข้อมูลอ้างอิง: jaguarusa / landrover / jaguarlandrover / jaguarheritage



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน