ธ.กรุงไทย ผนึก ฟิเดลิตี้ สร้างผลประโยชน์ต่างตอบแทน ตั้งกองทุนรวมใหม่ 3 กองทุน นำประสบการณ์ลงทุนทั่วโลก เสริมแกร่งพอร์ตลูกค้ามั่งคั่งในไทย โต 100% ตามเป้า 3 ปีข้างหน้า เปิดโอกาสฟิเดลิตี้ ชิมลางในไทย ตลาดโตเร็วสุดในเอเชียไปในตัว
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน ธ.กรุงไทย มีฐานลูกค้ากลุ่มเวลธ์ (Wealth) หรือลูกค้ามั่งคั่งที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการทั้งหมด (AUM) ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป/คน กว่า 200,000 ราย
เป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ด้วยฐานลูกค้าบุคคลรายย่อย 40 ล้านคน โดยผลิตภัณฑ์การเงินการลงทุน บนช่องทางดิจิทัล หรือ Wealth Tech อย่าง แอปพลิเคชัน เป๋าตัง และ Krungthai NEXT มีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาตลาดทุนไทย ด้วย
ตั้งเป้าขยายพอร์ตลูกค้าเวลธ์ โต 100% หรือ 400,000 ราย ภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยร่วมมือกับฟิเดลิตี้ อินเตอร์เนชันแนล (Fidelity International) บริษัทจัดการลงทุน ประสบการณ์ทำธุรกิจ กว่า 50 ปี ใน 25 ประเทศทั่วโลก
มี AUM รวม 25 ล้านล้านบาท มีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน กว่า 500 คน ลูกค้า 2.87 ล้านราย ตลอดจนสถาบันชั้นนำ อาทิ ธนาคารกลาง และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เป็นต้น
การร่วมมือเบื้องต้น ธ.กรุงไทย, ฟิเดลิตี้ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย (KTAM) จะร่วมกันจัดตั้งกองทุนรวมใหม่ 3 กองทุน ที่จะกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก แยกตามเป้าหมาย ผลตอบแทน และระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้ สำหรับลูกค้าธนาคารกรุงไทยโดยเฉพาะ
ทำงานด้วยการผสานจุดแข็งของ 2 องค์กร ทั้ง ธ.กรุงไทย ที่มีฐานลูกค้า ผลิตภัณฑ์ และความเข้าใจตลาดการเงินในประเทศอย่างลึกซึ้ง และ ฟิเดลิตี้ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตลาดโลก มีทีมผู้จัดการกองทุน และนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญการจัดการสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้ง ตราสารทุน, ตราสารหนี้, สินทรัพย์ผสม และอสังหาริมทรัพย์
ฟิเดลิตี้ จะแลกเปลี่ยนมุมมอง งานวิจัยอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ แบบเรียลไทม์กับผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของธ.กรุงไทย ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจลงทุนได้อย่างแม่นยำ ยกระดับการลงทุนไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นคง
เช่น การนำเสนอด้านผลิตภัณฑ์การลงทุน แนะนำลูกค้าเกี่ยวกับการจัดสรรพอร์ตเงินลงทุนอย่างเหมาะสม ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและกองทุนที่แนะนำ การจัดการสินทรัพย์ การแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและบทวิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจมหภาค เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักลงทุนไทย
นายราจีฟ มิตตัล กรรมการผู้จัดการ ฟิเดลิตี้ อินเตอร์เนชันแนล ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) กล่าวว่า ฟิเดลิตี้ เล็งเห็นถึงศักยภาพ และแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจบริหารทรัพย์สินลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งในเอเชีย หลังได้ให้บริการลูกค้าในภูมิภาคนี้ มานานกว่า 20 ปี
ทำให้การร่วมเป็นพันธมิตรกับ ธ.กรุงไทย นับเป็นการเปิดโอกาสให้ ฟิเดลิตี้ ได้นำประสบการณ์การบริหารการลงทุนทั่วโลกมาใช้กับ ไทย ซึ่งนับเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



