ตลาดประกันในไทยยังมีโอกาสเติบโต จากแรงส่งของสังคมผู้สูงอายุ, พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนหลังโรคระบาด และการนำ AI มาใช้ในธุรกิจ Multi-Channel Distributions เชื่อมประกันชีวิต และวินาศภัย ให้ไร้รอยต่อ กลยุทธ์สร้างแต้มต่อการแข่งขัน
นาย อาร์ช คอลมิ (Mr.Arsh Kaumi) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจประกันทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปี 2566 นับว่ามีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แม้จะเจอความท้าทายด้านสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จากความขัดแย้งระหว่างประเทศ อัตราดอกเบี้ยที่ส่งผลกระทบในภาคการเงิน และภาวะเงินเฟ้อ
ตลาดประกันในประเทศไทย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีปัจจัยบวกด้านต่าง ๆ ได้แก่ อัตราผู้ถือกรมธรรม์ประกันยังมีช่องว่างในการเติบโตได้ ประกอบกับกลุ่มผู้สูงวัยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงแนวคิดและพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการนำนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence) เข้ามาใช้ในธุรกิจประกัน
โดยบริษัท กางแผนธุรกิจ 3 ปี ด้วยกลยุทธ์หลัก ๆ ดังนี้ Multi-Channel Distributions รองรับการจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกความต้องการ และทุกช่องทาง แบ่งเป็น การขายผ่านตัวแทน (Agency) ด้วยการสร้างเครือข่ายตัวแทนมืออาชีพ พัฒนาผลิตภัณฑ์, เครื่องมือ และศักยภาพของตัวแทน ทั้งขยายความร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มธนาคาร และสถาบันการเงิน (Bancassurance)
Direct Marketing เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึง (Reach) และการจับมือกับพันธมิตรกลุ่มลอยัลตี้แพลตฟอร์ม เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่หลากหลาย และครอบคลุมยิ่งขึ้น
ช่องทางประกันกลุ่ม สร้างคุณภาพการบริการในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะบริการด้านสินไหม สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีอยู่กว่า 800 องค์กร ส่วนของการประกันวินาศภัยสำหรับองค์กร (GC&C- Global Corporate & Commercial) บริษัทได้ขยายความร่วมมือกับกลุ่มโบรกเกอร์ทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล
นอกจากนั้น บริษัทยังมีการปรับปรุงการให้บริการ ด้วยการนำข้อมูลจากการสำรวจความต้องการของลูกค้ามาพัฒนาเป็นกิจกรรมให้ลูกค้าผ่าน Customer Engagement
ส่วนการขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กรด้วยบุคลากร นำแนวคิด Smart Work Place Strategy มาปรับในการทำงานแบบไฮบริด เพิ่มความยืดหยุ่นให้พนักงานสามารถวางแผนรูปแบบการทำงานได้ด้วยตัวเอง แบบ 50:50 ระหว่างการทำงานที่บ้าน และการทำงานที่ออฟฟิศ
รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งการเรียนรู้ ด้วยการเสริมทักษะ Soft-Skill และ Hard-Skill เพื่อการเติบโตข้ามสายงาน ทั้งสนับสนุนความหลากหลาย และความเสมอภาคของบุคลากร
ปรับความสมดุลในพอร์ตของประกันชีวิต และวินาศภัยของบริษัท ให้เชื่อมโยงกันได้อย่างราบรื่น ดึงนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไร และจัดสรรเงินทุนให้มีประสิทธิภาพ
การพิจารณาสินไหม ที่ยึดปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล มาตรฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น มาตรฐานการรายงานทางการเงิน (TFRS) รวมถึงความปลอดภัยและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) โดยอยู่ภายใต้กรอบ และแนวปฏิบัติของหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐ
บริษัท ตั้งเป้าสู่การเป็นองค์กรด้านประกันที่มีคุณภาพในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ภายในระยะเวลา 3-5 ปี ต่อจากนี้
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ