กลายเป็นดีลครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์พลังงานในไทย เมื่อบางจาก คอร์ปอเรชั่น ทุ่มเงิน 22,605.926 ล้านบาท ซื้อธุรกิจ เอสโซ่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) จาก เอ็กซอนโมบิล เอเชีย โฮลดิ้ง พีทีอี แอลทีดี ผู้ถือหุ้นใหญ่เอสโซ่ เพื่อแลกกับหุ้น 65.99% ที่เอ็กซอนโมบิลฯ ถือทั้งหมด ก่อนที่จะทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ซื้อหุ้นเอสโซ่จากผู้ถือหุ้นอื่น ๆ เพิ่มจนบางจากมีหุ้นอยู่ในเอสโซ่ ประเทศไทย 76.34%
ดีลซื้อหุ้นเอสโซ่ ประเทศไทย เป็นดีลที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 11 มกราคม 2566 หลังจากบางจากได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นสามัญก่อนเข้าสู่กระบวนการซื้อขายจนแล้วเสร็จในวันที่ 31 ตุลาคม 2566 วันที่เอสโซ่ ยุติธุรกิจในไทยหลังเข้ามาทำตลาดน้ำมันในประเทศไทยรวม 129 ปี
ดีลในครั้งนี้ บางจาก คอร์ปอเรชั่น ได้ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและสถานีบริการของเอสโซ่ 780 แห่งไปอยู่ภายใต้อาณาจักร และเริ่มทยอยเปลี่ยนชื่อเป็น สถานีบริการบางจาก ตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นมาหลังดีลเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566
การได้สถานีบริการของเอสโซ่เป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนที่ทำให้บางจากมีสถานีบริการเพิ่มขึ้นจากเดิม เป็น 2,203 แห่ง อ้างอิงจากไตรมาส 3/2566
และการเพิ่มขึ้นของสถานีบริการบางจาก ทำให้บางจากขึ้นจากอันดับ 3 ของแบรนด์ที่มีสถานีบริการสูงสุด เป็นอันดับ 2 แซงหน้า พีที ที่ไตรมาส 3/2566 มีจำนวนสถานีบริการ 2,176 แห่งทั่วประเทศ
และสำหรับเอ็กซอนโมบิลฯ หลังจากที่ขายหุ้น เอสโซ่ ให้กับบางจาก คอร์ปอเรชั่นแล้ว ยังคงดำเนินธุรกิจจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นภายใต้แบรนด์เอ็กซอนโมบิลในประเทศไทยต่อไป ผ่านการตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อ บริษัท เอ็กซอนโมบิล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด
และยังคงธุรกิจในส่วนกิจกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เอ็กซอนโมบิล เอ็กซ์โพลเรชั่น แอนด์ โพรดักชั่น โคราช อิงค์ และศูนย์ธุรกิจระดับโลกที่กรุงเทพฯ ไว้เหมือนเดิม
–
