Work : มีหลายวิธีในการสร้างบริษัทและธุรกิจขึ้นมา โดยหนึ่งในวิธีที่นิยมกันมากสุด คือ การทำร่วมกับคนในครอบครัว เพราะง่ายในการพูดคุย ไม่ต้องเสียเวลาในการทำความรู้จัก
และสะดวกต่อการหาเงินทุน เช่นที่เห็นกันบ่อย ๆ ผ่านการทำธุรกิจระบบกงสีของชาวจีน
อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ก็มีข้อเสีย เพราะหลายครั้งเรื่องส่วนตัวกับธุรกิจถูกนำมาปนกันจนวุ่นวาย หรือไม่สามารถแยกทั้งสองเรื่องออกจากกันเด็ดขาด จนกลายเป็นสถานการณ์บ้านแตก
และดราม่าของบริษัทใหญ่ในประเทศต่าง ๆ อย่างที่ล่าสุดเกิดกับกรณีของ ตระกูลเจ้าของแบรนด์ปลากระป๋องปุ้มปุ้ย จนนำมาสู่การถูกเพิกถอนหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ไทย
ใครทำธุรกิจกับครอบครัวอยู่ไม่ต้องกังวลไป เพราะ Marketeer มีเคล็ดลับ 6C ที่คลี่คลายสถานการณ์ก่อนบ้านแตก
Convene: เคล็ดลับข้อแรกที่ช่วยลดความขัดแย้งสำหรับการทำธุรกิจกับคนในครอบครัวหรือคนตระกูลเดียวกันคือ นัดประชุมนอกบริษัท อาจเป็นในร้านโปรดของคนในครอบครัว เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนพบหน้าพูดคุยกันนอกบริษัท
ไม่ว่าคนนั้นจะเห็นตรงกันหรือต่างกัน โดยทิ้งตำแหน่งหน้าที่ทั้งหมดไว้ที่บริษัท เพราะบรรยากาศที่ผ่อนคลายลงอาจช่วยหาทางออกของเรื่องที่ยังขัดแย้งกันได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
นี่เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นประจำ เพราะนอกจากลดความขัดแย้งก่อนถึงขั้นบ้านแตกแล้ว ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวได้อีกด้วย
Clarify: เคล็ดลับข้อต่อมาคือ ความชัดเจน โดยหลังจากทุกคนพร้อมกันแล้ว ก็ควรเดินหน้าเข้าประเด็น เช่น โครงการที่วางแผนไว้ สิ่งที่ค้างคาในใจซึ่งไม่สามารถพูดได้ในบริษัท และแน่นอนรวมไปถึงเพื่อคลายความขัดแย้งด้วย
เคล็ดลับข้อนี้จะเกิดประโยชน์สูงสุดถ้าให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนความเห็น แจกแจงรายละเอียดให้ชัดเจนที่สุด
Create: หลังนัดรับประทานข้าว และเข้าประเด็นที่เป็นปัญหาแล้ว C ข้อถัดมาที่ช่วยสกัดปัญหาบ้านแตกของการทำธุรกิจกับคนในครอบครัว คือ ให้คู่ขัดแย้งแจกแจงรายละเอียดและสิ่งที่ตนต้องการ
โดยมีสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวที่เป็นคนในองค์กรด้วยนั้น ช่วยเสนอทางแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ในระยะต่าง ๆ ทั้งใกล้ กลาง และยาว พร้อมเอาน้ำเย็นเข้าลูบเมื่อเกิดการถกเถียงจนสถานการณ์ดีขึ้น
Commit: มาถึงเคล็ดลับข้อที่ 4 ในการป้องกันปัญหาบ้านแตก ซึ่งคือการหันหน้ามาคุยกันอย่างจริงจัง เน้นประโยชน์ของบริษัท แต่ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงความสำคัญของคนในครอบครัวด้วย
ข้อนี้จะจบเร็วถ้าทุกคนถอยกันบ้างคนละก้าว และเห็นว่าคู่ขัดแย้งนั้นเป็นคนครอบครัวเดียวกัน
Counsel: ถ้าคู่ขัดแย้งยังเคลียร์กันไม่ลงตัวอีก ผู้ใหญ่ในครอบครัวโดยเฉพาะคนที่เป็นบอร์ดบริษัทอาจต้องยื่นมือเข้ามาช่วยผ่านคำปรึกษา เพราะอาจเคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ตามสำนวนไทยที่ว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน นั่นเอง
นอกจากนี้ ควรนำทัศนะของบอร์ดกลุ่มที่ไม่เป็นสมาชิกในครอบครัวมาพิจารณาด้วย เพราะมุมมองจากคนนอกอาจช่วยให้เห็นอะไรได้กว้างขึ้น
Continue: ข้อสุดท้ายที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำธุรกิจกับคนในครอบครัว คือ การวางแผนเพื่อให้บริษัทเดินต่อไปได้ในระยะยาว ว่าจะให้สมาชิกครอบครัวคนใดมารับช่วงต่อ และหากเกิดปัญหาใครจะเข้ามาดูแล
รวมไปถึงใครจะเป็นที่ปรึกษา โดยหากทำครบทั้ง 6C ธุรกิจครอบครัวก็จะเดินหน้าไปอย่างราบรื่น หรือหากเจออุปสรรคก็จะแก้ไขได้ก่อนบานปลาย ลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาบ้านแตกได้ไม่มากก็น้อย ♦/forbes
–