ถนนพระราม 2 ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สร้างกันมาอย่างยาวนานกว่า 54 ปี นับตั้งแต่ปี 2513 ที่เริ่มก่อสร้าง และเริ่มใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรก 1 เมษายน 2516
จนปัจจุบัน “ถนนพระราม 2 ยังสร้างไม่เสร็จ” จากโครงการถนนพระราม 2 ที่แทบจะพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่อง จากโครงการสู่โครงการ ไม่รวมโครงการซ่อมถนนยิบย่อย
นับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมีการพัฒนาถนนพระราม 2 ในโครงการใหญ่ต่าง ๆ ประกอบด้วย
2513-2516 ถนนพระราม 2 ในรูปแบบถนน 2 เลนสวนทางกัน
2532-2537 ขยายถนนเป็น 4 เลน และก่อสร้างทางแยกต่างระดับ 4 แห่ง บางขุนเทียน สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และวังมะนาว
2539-2543 ขยายถนนช่วงสามแยกบางปะแก้วถึงทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน เป็น 14 เลน
2544-2546 ระหว่างทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ขยายช่องจราจรจาก 4 เลน เป็น 8 และ 10 เลนตามลำดับ ความยาวรวมประมาณ 22 กม.
2549-2552 ขยายถนนจาก 4 เลน เป็น 6-8 เลน จนถึงทางแยกต่างระดับวังมะนาว
2561-2563 ขยายถนนระหว่างแยกต่างระดับบางขุนเทียน-แยกเอกชัย จาก 10 เลน เป็น 14 เลน
2562-2565 ก่อสร้างทางยกระดับบางขุนเทียน-มหาชัย
2563-ปัจจุบัน ก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก
เมื่อดูจากจากไทม์ไลน์ถนนพระราม 2 จะพบว่าโครงการพัฒนาถนนพระราม 2 โครงการใหญ่ เพียงบางช่วงที่เว้นระยะไปนานให้เราได้ใช้ถนนได้โดยไม่มีการก่อสร้างใหญ่ ๆ เท่านั้น
จนกลายเป็นคำถามของใครหลาย ๆ คนว่า ถนนพระราม 2 จะสร้างเสร็จเมื่อไร
ในวันที่ถนนพระราม 2 ยังสร้างไม่เสร็จ ธุรกิจที่เกิดขึ้นในไทยในปีเดียวกับถนนพระราม 2 สร้างรายได้ไปเท่าไรกันแล้ว
และนี่คือตัวอย่างธุรกิจที่เกิดขึ้นพร้อมการก่อสร้างถนนพระราม 2

สัมมากร
บริษัทที่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อตั้งในปี 2513 เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทบ้านจัดสรรเพื่อการอยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ส่วนปัจจุบัน สัมมากร เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดำเนินธุรกิจโครงการที่พักอาศัยแนวราบ-แนวสูง และโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเช่า
มีรายได้ย้อนหลัง 3 ปีดังนี้
2564 รายได้รวม 1,442 ล้านบาท กำไร 42 ล้านบาท
2565 รายได้รวม 2,405 ล้านบาท กำไร 113 ล้านบาท
2566 รายได้รวม 2,003 ล้านบาท กำไร 59 ล้านบาท
ธนาคารไทยเครดิต
ในปี 2513 ธนาคารไทยเครดิต ก่อตั้งในชื่อ บริษัท เครดิตฟองซิเอร์ไทยเคหะ จำกัด โดยประกอบธุรกิจให้บริการทางการเงินในรูปแบบเครดิตฟองซิเอร์
จนในปี 2549 ได้รับใบอนุญาตประกอบการธนาคารพาณิชย์ เพื่อประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อย และเปิดธนาคารในชื่อธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อยในปี 2550
ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นธนาคารไทยเครดิตในปี 2566 พร้อมกับพาตัวเองเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในชื่อ ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) ในปี 2567
3 ปีที่ผ่านมา ธนาคารไทยเครดิตมีผลประกอบการ ดังนี้
2564 รายได้รวม 8,742 ล้านบาท กำไร 1,935 ล้านบาท
2565 รายได้รวม 11,232 ล้านบาท กำไร 2,353 ล้านบาท
2566 รายได้รวม 13,461 ล้านบาท กำไร 3,557 ล้านบาท
ไทยกูลิโกะ
กูลิโกะในไทยเริ่มต้นก่อตั้งในปี 2513 ในชื่อ บริษัท ไทยกูลิโค่ จำกัด มี Pretz เป็นสินค้าแบรนด์แรกที่จำหน่าย
และเปลี่ยนชื่อเป็น ไทยกูลิโกะ จำกัด ในปี 2539 เพื่อออกเสียงให้ถูกต้องตามแบบฉบับญี่ปุ่น
ใน 3 ปีที่ผ่านมา ไทยกูลิโกะ มีผลประกอบการดังนี้
2563 รายได้รวม 3,914 ล้านบาท กำไร 395 ล้านบาท
2564 รายได้รวม 4,153 ล้านบาท กำไร 197 ล้านบาท
2565 รายได้รวม 4,898 ล้านบาท ขาดทุน 1 ล้านบาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด หรือ KResearch กิจการในเครือธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เดิมที ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเป็นเพียงหน่วยงานย่อยในสังกัดสำนักบริหารของธนาคารกสิกรไทยมาตั้งแต่ปี 2513 เพื่อรับผิดชอบงานศึกษาและวิเคราะห์สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ และภาวะการเงินการธนาคารทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเสนอข่าวสารแก่ผู้บริหารของธนาคารฯ โดยตรง
ก่อนที่จะขยายขอบเขตให้บริการความรู้ข้อมูลกับลูกค้าและประชาชนที่สนใจ และเปลี่ยนเป็นนิติบุคคลในชื่อ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ในเวลาต่อมา
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มีรายได้ย้อนหลัง 3 ปี ดังนี้
2563 รายได้รวม 112 ล้านบาท กำไร 16 ล้านบาท
2564 รายได้รวม 120 ล้านบาท กำไร 6 ล้านบาท
2565 รายได้รวม 185 ล้านบาท กำไร 10 ล้านบาท
โรงแรมดุสิตธานี
ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย เปิดโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ในปี พ.ศ. 2513 และได้กลายเป็นต้นแบบถ่ายทอดไปสู่ 5 ธุรกิจหลักของกลุ่มดุสิตธานี
ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม (Dusit Hotels & Resorts), ธุรกิจอาหาร (Dusit Foods), ธุรกิจการศึกษา (Dusit Hospitality Education), ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Property Development), และธุรกิจการให้บริการที่เกี่ยวข้อง (Hospitality-related services)
ปัจจุบันกลุ่มดุสิตธานีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีรายได้ย้อนหลัง ดังนี้
2564 รายได้รวม 3,443 ล้านบาท ขาดทุน 945 ล้านบาท
2565 รายได้รวม 5,130 ล้านบาท ขาดทุน 501 ล้านบาท
2566 รายได้รวม 6,410 ล้านบาท ขาดทุน 570 ล้านบาท
ไทยวาโก้
ไทยวาโก้ เป็นบริษัทที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด และ Wacoal Corporation ประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งในปี 2513 เพื่อผลิตสินค้าชุดชั้นในสตรีระบบอุตสาหกรรมเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
ปัจจุบัน ไทยวาโก้ เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ และขยายธุรกิจไปยังสินค้าอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากชุดชั้นใน เช่น ชุดชั้นนอกสตรี และ ชุดเด็ก ผลิตและจำหน่ายในไทยและต่างประเทศ
โดยมีธุรกิจชุดชั้นในสตรี ในชื่อแบรนด์ Wacoal, Wienna, B’me, Sgarlet, Resea และ CW-X เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักในสัดส่วน 94% ของรายได้ทั้งหมด
ใน 3 ปีที่ผ่านมา ไทยวาโก้ มีผลประกอบการ ดังนี้
2564 รายได้รวม 3,244 ล้านบาท ขาดทุน 144 ล้านบาท
2565 รายได้รวม 3,936 ล้านบาท กำไร 103 ล้านบาท
2566 รายได้รวม 3,609 ล้านบาท กำไร 78 ล้านบาท
และเมื่อถนนพระราม 2 สร้างเสร็จ ธุรกิจนี้ที่เกิดพร้อมถนนพระราม 2 จะมีรายได้แค่ไหน คงต้องดูกันต่อไป
–
