Work: หากลองกวาดตามองไปรอบ ๆ บริษัท ณ ปัจจุบัน ก็จะเห็นว่าต่างจากในอดีตเป็นอย่างมาก ทั้งเน้นความสะดวกจนเกิดเป็นเทรนด์ทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid First)
ที่ทำงานอยู่บ้านสลับกับเข้าบริษัทขึ้นมา ส่วนช่วงวัยของพนักงานก็กว้างมาก โดยมีคนถึงสี่รุ่น คือ Babyboom, Gen X, Gen Y และ Gen Z ไล่ตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ลงมาถึงรุ่นหลานที่ทำงานร่วมกัน
ประเด็นที่แตกออกมาจากประเด็นหลังคือ การทำความเข้าใจกันของคนแต่ละรุ่นสำคัญเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันยังมีคำถามเกิดขึ้นด้วยว่าทำไม Babyboom ที่อายุระหว่าง 60 ถึง 78 ปี ยังคงทำงานอยู่
นี่คือคนรุ่นเกิดยุคสงครามโลกที่ยังไม่ยอมเกษียณ (Unretirement Babyboom) โดยสาเหตุที่พวกเขายังทำงานอยู่ มาจากภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจ เงินสะสมที่ยังไม่พอสำหรับการเกษียณได้อย่างหมดห่วง
รวมไปถึงการที่ผู้คนอายุยืนขึ้น บางบริษัทขาดแคลนแรงงานจนต้องขอให้เหล่าวัยเก๋าทำงานต่อ หรือแม้กระทั่งตัว Babyboom เอง สมัครใจทำงานต่อ
นอกจากเป็นชื่อเรียกกลุ่มวัยเก๋าที่ยังไม่ยอมเกษียณแล้ว Unretirement Babyboom ยังกลายเป็นเทรนด์จนอายุเกษียณคนทำงานในหลายประเทศถูกเลื่อนออกไป
เช่น ในสหรัฐฯ มี 32% ของคนอายุ 65 ถึง 69 ปี ที่ยังทำงานอยู่ เพิ่มจากปี 1994 ซึ่งยังอยู่ที่ 22% ส่วนในอังกฤษ คนวัย 60 ปีขึ้นไปที่ยังทำงานอยู่เมื่อปี 2018 เพิ่มจากปี 1993 ถึง 2 เท่า
เทรนด์ Unretirement Babyboom ยังเห็นในประเทศแถบเอเชียที่ประชากรอายุมาก เช่น เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นอีกด้วย ท่ามกลางเสียงบ่นของ Gen X ซึ่งอายุระหว่าง 44-59 ปี ที่ว่า
การที่ Babyboom เลื่อนวันเกษียณออกไปทำให้พวกเขาไม่ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกหรือซีอีโอเสียที และปัญหาการเหยียดวัย (Ageism) ในที่ทำงาน
จากสถานการณ์ดังกล่าว เกิดคำถามขึ้นว่าทางบริษัทจะบริหารจัดการ Unretirement Babyboom ที่ยังมีไฟเหล่านี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับงาน และช่วยลด Ageism ไปด้วยในตัวได้อย่างไร
สื่อสารชัด: ความที่อายุมากแล้ว ระบบในร่างกายจึงเสื่อมถอยไปพอสมควร และเวลาในการทำความเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ของ Unretirement Babyboom จึงนานกว่าคนรุ่นน้อง รุ่นลูก และรุ่นหลาน ที่ร่วมชายคาบริษัทเดียวกัน ดังนั้น ในการสั่งงานทุกครั้งจึงต้องสื่อสารกับพวกเขาให้ชัดเจน ใช้ศัพท์เทคนิค คำสมัยใหม่หรือคำแสลงแต่น้อย
จัดโปรเจกต์ที่คู่ควรกับเบอร์ใหญ่: เคล็ดลับข้อต่อมาในการทำงานกับกลุ่ม Unretirement Babyboom ให้เวิร์ก คือ มอบหมายงานที่ต้องใช้ทักษะ ประสบการณ์ หรือภูมิปัญญาของที่คนอยู่มานาน
รวมไปถึงทักษะเข้าสังคมต่าง ๆ (Soft skill) เช่น การคุยกับคนรุ่นเดียวกัน เป็นโปรเจกต์ที่ต้องเล่าเรื่องประวัติของสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะที่หาในสื่อออนไลน์ไม่ได้ เชื่อมโยงกับเรื่องในอดีต
เลี่ยงงานที่ต้องใช้เทคโนโลยีซับซ้อน และควรบอกให้พวกเขารู้ทุกครั้งเมื่อจำเป็นต้องทำงานร่วมกับเอไอ เพื่อลดความผิดพลาด
ยกย่องและให้ความสำคัญ: เคล็ดลับอีกข้อที่จะช่วยให้การทำงานกับ Unretirement Babyboom ราบรื่นคือ การยกย่องและชื่นชมอย่างจริงใจ โดยควรยกย่องที่พวกเขายังมีไฟในตัวการทำงาน
และชื่นชมในการทุ่มเทโดยเฉพาะเมื่อทำงานเสร็จลุล่วง เพราะเมื่อคนวัยนี้ยังทำงานอยู่ ย่อมเป็นการสื่อสารให้โลกรู้ว่า ยังไม่อยากตกยุค ถูกหลงลืม และเชื่อว่าประสบการณ์มากมายของตนนั้นยังมีประโยชน์
เวลาทำงานยืดหยุ่น: ข้อสุดท้ายที่ลืมไม่ได้เลย หากอยากให้การทำงานกับ Unretirement Babyboom เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดคือ ต้องให้เวลาทำงานมากกว่าคนรุ่นอื่น ๆ เพราะพวกเขาต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ เรียนรู้เทคโนโลยี และลงมือทำมากกว่านั่นเอง/bbc, linkedin
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ