อุษา เสมคำ ทำความรู้จักคุณยายวัย 78 ปีที่กลายเป็นนางเอกหนังร้อยล้าน หลานม่า

วิธีการเข้ามาเป็นซุปตาร์ ของ “คุณยายแต๋ว” อุษา เสมคำ ไม่ต่างกับซุปตาร์วัยใสทั่วไป ที่อาจจะเดินเล่นอยู่กับเพื่อน ๆ แถวสยาม แล้วโมเดลลิ่งชวนไปแคสติ้ง

เพียงแต่คุณยายแต๋วไม่ได้เดินแถวสยาม แต่เธอกำลังรำไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งของผู้สูงอายุ อยู่กับกลุ่ม สว. ในศูนย์ออกกำลังกาย ย่านเขตสะพานสูง

และแมวมองก็มาเจอเธอที่นี่

เรื่องราวชีวิตนอกจอกับการตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้มาก่อนในวัย 70 กว่าปีของเธอ น่าสนใจไม่ต่างจาก“หลานม่า” หนังไทยเรื่องล่าสุดของค่าย GDH ที่เธอแสดงนำ

และวันนี้กำลังทำรายได้พุ่งสู่ 250 ล้านบาท

กว่า “คุณยายแต๋ว” อุษา เสมคำ ฝ่าวงล้อมแฟนคลับที่มารอทั้งเธอและ “บิวกิ้น” พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล นักร้องนักแสดงชื่อดังยุคนี้  เพื่อมาให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Marketeer ได้ในช่วงบ่ายวันนั้น ใช้เวลาพอสมควรเลยทีเดียว

(อ้อ ถ้าใครถามถึงบิวกิ้น คือน้องรีบแวบมาถ่ายรูปคู่ แล้วรีบไปเพราะคิวต่อแน่นมาก)

วันนี้เธอได้ใจผู้คนไปแล้วมากมายจากการแสดงเป็น “อาม่า” ที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด จนแทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต

คุณยายแต๋วเริ่มต้นคุยด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและอารมณ์ดี

จุดเปลี่ยนในชีวิตของผู้หญิงแม่บ้านธรรมดา ๆคนนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 7-8 ปีก่อน ที่ศูนย์ออกกำลังกายของผู้สูงอายุย่านสะพานสูง

“วันนั้นพวกเรากำลังฝึกรำไทยกันอยู่  ก็มีโมเดลลิ่งมายืนดู แล้วเขาชวนให้ไปเล่นเป็นตัวประกอบในละครเรื่องอาม่าคาเฟ่  เรากับเพื่อนก็ไปเล่นกันสนุก ๆ บทสั้น ๆ ไม่ต้องท่องอะไรมากมาย แต่หลังจากนั้นก็ได้เล่นหนังโฆษณา และมิวสิกวิดีโออีกประมาณ 2-3 เรื่อง”

จนกระทั่งเมื่อประมาณปี 2565 มีคนชวนให้ไปแคสติ้งภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” ที่ทราบมาว่าผู้กำกับเขายังหาคนแสดงบทอาม่าไม่ได้

“เขาแคสติ้งคนนับร้อยคนแล้วนะคะ  จนมีคนแนะนำเราไป ครั้งแรกก็ปฏิเสธค่ะ เพราะคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ไม่ใช่เล่นนิด ๆ หน่อย ๆ เหมือนที่ผ่านมา บทก็ยาว คงจำบทไม่ได้ เป็นภาระคนอื่นแน่นอน แต่โดนคะยั้นคะยอหลายครั้งก็เลยเอ้าไปก็ไป

ปรากฏว่า พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เกิดชอบและนัดให้ลองมาแสดงกับ “บิวกิ้น”

“บิวกิ้นไหน” เธอถาม เพราะไม่รู้จักดาราดังรุ่นหลานคนนี้จริง ๆ

การเจอกันครั้งแรกระหว่างคนสองวัย คุณยายแต๋ว อายุ 78 ปี และบิวกิ้น อายุ 25 ปี นั้น ผู้กำกับให้ทั้ง 2 คนลองเล่นเกมทายคำง่าย ๆ  โดยเขานั่งดูอยู่ด้วย

“เชื่อมั้ยครับตอนพวกเขานั่งเล่นกันมันน่ารักมาก เคมีเข้ากันได้ดีสุด ๆ คือคุณยายแต๋วแกมีความเป็นธรรมชาติมาก ๆ ซึ่งผมไม่เห็นในตัวของคนอื่น ๆ  ก็เลยตัดสินใจนาทีนั้นว่าต้องเป็นคนคู่นี้” (พัฒน์เล่าให้ Marketeer ฟังในเวลาต่อมา)

พอรู้ว่าตัวเองแคสติ้งผ่าน คุณยายแต๋วก็เลยบอกว่าเอ้าเอาก็เอา

ความเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ขี้เล่น ขี้แกล้งของบิวกิ้นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่เธอเบาใจว่า คนที่ต้องแสดงนำด้วยกันน่าจะไปกันได้ไม่มีปัญหา

“เขาเป็นคนน่ารัก พอเล่นกับเขาเรารู้สึกเหมือนเล่นกับหลานเรา ตอนนี้เจอหน้ากันก็จะเข้ามากอด เข้ามาแกล้ง เป็นความผูกพันที่เกิดขึ้นจริง ๆ”

แต่พอมาเริ่มเล่นจริง ๆ มันไม่ได้ง่าย ๆ

“ครั้งแรกที่เห็นบทเล่มขนาดนี้ใหญ่มาก ๆ (เธอทำมือประกอบพร้อมหัวเราะ) ดีที่เขาพิมพ์เป็นอักษรตัวโต ๆ ให้เราอ่านง่าย ๆ แต่ยอมรับว่าท้อนิด ๆ จะไหวเหรอเนี่ย  จะจำได้มั้ย ถ้าต้องเทกใหม่ ทุกคนก็ต้องมารอ คือไม่ได้ห่วงตัวเองอย่างเดียวนะคะ ห่วงคนที่จะเล่นกับเราด้วย”

แต่ในเมื่อรับปากแล้วว่าจะเล่น ทุกอย่างต้องไปต่อ เธอใช้วิธีดึงบทของตัวเองออกมาจดในสมุดอีกเล่ม จดคำพูดทีละคำว่าจะพูดกับใครช่วงไหน จดแล้วก็อ่าน และอ่านบทคนอื่นด้วยเพื่อทำความเข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมด

“นั่งทำความเข้าใจและท่องทีละบท ขีดเส้นใต้โน้ตโน่นนี่เพื่อทำความเข้าใจกับตัวเอง แล้วมานั่งต่อบทด้วยตัวเอง เรียกได้ว่าช่วงนั้นพอล้มตัวนอนแทนที่จะหลับได้เหมือนเคย บทก็เข้ามาวิ่งพล่านอยู่ในสมอง กว่าจะหลับ (หัวเราะ)”

นอกจากบท ก็ยังมีเรื่องต้องจำบล็อกกิ้งอีก พูดเสร็จต้องเดินไปตรงไหน นั่งตรงไหน

บทที่ต้องเทกหลายครั้งของเธอเป็นบทที่ง่าย ๆ แต่กลับยากเฉยเลย

“เป็นบทเดินบนถนนยาว ๆ ริมทางรถไฟ ร้อนด้วย เหนื่อยด้วย ไม่น่ายาก แต่กลับเล่นไม่ได้ ผู้กำกับเขาบอกว่าทีบทยาก ๆ ยายเล่นเทกเดียวผ่าน พอบทง่ายกลับหลายเทกซะงั้น”

เธอเล่าว่าหลายครั้งที่ผู้กำกับต้องมาให้กำลังใจ บอกว่ายายเล่นดีแล้ว แต่ขออีกนิดนะครับ

“พอเราย้อนถามไปว่าเล่นดีแล้วทำไมต้องเล่นใหม่ เขาก็บอกว่าอยากให้ดีกว่านี้ครับ เขาก็น่ารักมาก  เราก็เอาใหม่ก็เอา ก็ฮึดอีกครั้ง”

“ดู๋” สัญญา คุณากร ที่เล่นร่วมกันเคยเล่าไว้ในรายการหนึ่งว่า ยายแต๋วบอกว่าท่านเป็นแค่นักแสดงสมัครเล่น แต่ผมกลับคิดว่าที่ยายต้องอดทน ยอมเทกหลายครั้งไม่บ่น นั่นคือสปิริตของความเป็นมืออาชีพแล้ว

ทุกครั้งที่กังวลว่าจะทำได้ไม่ดี สิ่งที่เธอต้องกลับมาสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองคือขยันท่องบทเพิ่มขึ้น ๆ

ความต่างกันระหว่าง “ยายแต๋ว” กับ “อาม่าเหม้งจู” ในเรื่องหลานม่า

คุณยายแต๋วเป็นคนอารมณดี ยิ้มเก่ง พูดเก่ง เจอหน้าใครก็ทักทายถามไถ่ ชอบร้องเพลง ในขณะที่อาม่าเหม้งจู ค่อนข้างเป็นคนจริงจังกับชีวิต ยิ้มยาก รักก็ไม่แสดงออก ปากร้ายใจดี

จึงไม่แปลกเลยว่าหลายครั้งของการแสดง ที่ผู้กำกับต้องมากระซิบข้างหูว่า ตอนนี้คุณยายเป็นอาม่าเหม้งจูอยู่นะครับ

ชีวิตคนก็เหมือนนก เมื่อโตขึ้นก็โผออกจากรัง

เธอมีวิธีคิดว่า ชีวิตคนก็เหมือนนก เมื่อมีลูกเราก็ฟักไข่ คอยป้อนข้าวป้อนอาหารเมื่อปีกเขาแข็งแรงขึ้นเขาก็บินจากไปสร้างครอบครัวใหม่ ก็ไม่ต่างกับชีวิตของคนในสังคมปัจจุบัน ที่พอโตขึ้นทำงานได้ ก็อยากย้ายออกไปเพื่อความเป็นอิสระของชีวิต หรืออยากอยู่ใกล้ที่ทำงาน นาน ๆ คิดถึงก็จะแวะมาหาพ่อแม่ หรือนัดรับประทานข้าวกัน

เราก็ต้องทำใจให้ได้ว่า เราต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ แล้วอย่าไปเป็นภาระให้กับลูก อย่าเอาตัวเราไปทำให้เขาไม่สบายใจ อย่ายึดว่าลูกคือของของเรา ต้องอยู่กับเรา ลูกจะยิ่งลำบากใจ

“วันไหนคิดถึงเขา ก็แค่โทรหาเขา บอกว่าคิดถึงนะ วันไหนว่างมาเจอกันนะลูกนะ  แค่ได้บอกคิดถึงเขาได้ยินเสียงเขาเราก็มีความสุขแล้ว”

ช่วงนี้ชีวิตของคุณยายแต๋วอาจจะต่างจากเดิม ต้องเดินสายโปรโมตหนัง พบปะผู้คน มีงานสัมภาษณ์ของสื่อต่าง ๆ

แต่เมื่อผ่านช่วงนี้ไป ชีวิตของเธอก็จะกลับเข้าสู่โหมดปกติ ตื่นเช้ามาหาอะไรรับประทาน ออกมารดน้ำต้นไม้  ฟังเพลง เปิดทีวีดูหนัง ดูข่าวเรื่อยไป เย็น ๆ ก็ออกมาเดินออกกำลังกายในถนนในหมู่บ้านบ้าง บางวันก็ออกไปรำไทย พบปะเพื่อนฝูง ที่ศูนย์ออกกำลังกายสะพานสูง เสร็จแล้วก็ชวนกันไปหาอะไรรับประทานแล้วกลับบ้าน

“เป็นความสุขที่เราหาได้ด้วยตัวเอง คือสมัยนี้ต้องเป็นอย่างนี้ ทำความเข้าใจกับมัน และก้าวข้ามไปให้ได้ บางคนเขาไม่เข้าใจเลยเป็นทุกข์ สำหรับเราแค่คิดถึงลูกก็มีความสุขแล้วค่ะ”

อุษา เสมคำ ย้ำและฝากเป็นข้อคิด ก่อนที่ทีมงานจะขอตัวเธอไปทำกิจกรรมอื่นต่อไป

วิธีคิดของอาม่านอกจอนี่ล่ะค่ะ ที่จะทำให้คนสัมภาษณ์ต้องเสียน้ำตา


อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online