ตลาดสมาร์ตวอตช์ ในไทย 3.6 พันล้านบาท ‘เวลเนส’ น่านน้ำใหญ่ แบรนด์หันโฟกัสหวังกวาดมาร์เก็ตแชร์ ‘Garmin’ ประเดิมด้วยการส่งแอปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ไตรมาส 3/2024 มุ่งลบภาพจำแบรนด์เฉพาะกลุ่ม   

Statista ประเมินตลาดสมาร์ตวอตช์ในไทย ปี 2024 อยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 2023-27 อยู่ที่ 9.10% ซึ่งสูงกว่าทั้งตลาดโลก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คุณมิสซี่ ยาง ผู้อำนวยการประจำ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตวอตช์ในไทยของแบรนด์ การ์มิน (Garmin) อยู่ในทอป 3

ยอดขายสินค้าช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของบริษัท เอาต์ดอร์ (Outdoor) กีฬาเฉพาะด้าน (Specialty) เวลเนส (Wellness) คิดเป็น 48%, 32%, 20% ตามลำดับ สัดส่วนลูกค้าส่วนใหญ่ที่อัปเกรดเครื่องใหม่ ยังใช้ Garmin ซ้ำ

โดย Garmin ยังคงแบรนดิ้งที่แข็งแรงในตลาดเอาต์ดอร์ และกีฬาเฉพาะด้าน อย่าง Garmin Connect ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 1 ล้านแอคทีฟต่อเดือน พบว่าสถิติการทำกิจกรรม (Activity) เติบโตขึ้นกว่า 39% ตั้งแต่ต้นปี 2024 และจะมีการทำ Activity สูงขึ้นเป็นพิเศษในช่วงที่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

สะท้อนให้เห็นว่า กระแสการออกกำลังกายในไทยยังคงเติบโต เพียงแต่ต้องการผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เข้ามาช่วยกระตุ้น อีกทั้งผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อ

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดสมาร์ตวอตช์ยังคงสูง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แมสที่แตกไลน์ออกมาจากพอร์ตสมาร์ตโฟนซึ่งต้องการรักษาส่วนแบ่งหลัก การแข่งขันด้านราคาของหลาย ๆ แบรนด์ที่เริ่มเข้ามาทำตลาดใหม่

‘เวลเนส’ หรือตลาดการดูแลสุขภาพ นับเป็นตลาดที่มีฐานผู้บริโภคใหญ่และกำลังเติบโตอย่างมาก สมาร์ตวอตช์เปิดตัวใหม่ในตลาดจะอยู่ในกลุ่มนี้เป็นส่วนใหญ่

จาก ตลาดสมาร์ตวอตช์ สู่ ตลาดการดูแลสุขภาพ

ปี 2024 บริษัทจึงรีเฟรชแบรนด์ Garmin เพื่อเจาะตลาดเวลเนสมากขึ้น ทำลายภาพจำเดิมที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ในฐานะสมาร์ตวอตช์สำหรับนักกีฬาและมืออาชีพ ด้วยการสื่อสารการตลาดที่เข้าใกล้ผู้บริโภคชาวไทยมากขึ้น

ผ่านกลยุทธ์หลักต่าง ๆ อาทิ การได้รับใบอนุญาตการใช้งานเครื่องมือแพทย์จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในเรื่องการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วยแอปพลิเคชัน (ECG App) เรียบร้อย

บริษัทเตรียมเปิดให้ใช้งาน ECG App ภายในไตรมาส 3/2024 โดยจะมีรุ่นรองรับอยู่ในทุกกลุ่ม ทั้งเอาต์ดอร์, กีฬาเฉพาะด้าน, เวลเนส และจะโฟกัสการสื่อสารเกี่ยวกับตัวแอปกับผู้บริโภคตลอดทั้งปี

การพัฒนาฟีเจอร์และประสบการณ์ใช้งานสมาร์ตวอตช์ รุ่นที่มีฟังก์ชันแรบบิท การ์ดต่อเนื่อง

ทั้งส่งมอบสินค้าภายใต้มาตรฐานความแม่นยำ อย่าง 24/7 Monitoring ระบบที่มอนิเตอร์ข้อมูลได้ต่อเนื่อง ตลอดจนความอึดของอายุแบตเตอรี่ใน Garmin ทุกรุ่นที่อยู่ได้ไม่ต่ำกว่า 5 วัน ทำให้สามารถมอนิเตอร์ข้อมูลสุขภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนั้น บริษัทยังจัดทัพสินค้าแบบมิกซ์โปรดักต์หลากหลายดีไซน์ และจะมีซีรีส์เปิดตัวใหม่ในทุกกลุ่ม โดยปรับมุมมองกลุ่มเป้าหมาย เพื่อทำการสื่อสารการตลาดให้ตรงกับแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ดังนี้

3 กลุ่มเป้าหมายหลัก กลุ่มมือใหม่ (Beginner) กลุ่มรักสุขภาพ (Health Concern) กลุ่มนักกีฬา (Athlete) ราคาสินค้าเริ่มต้น 5,290-57,990 บาท และขยายเวลารับประกันสินค้านาน 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2024

โดยวันที่ 7 พ.ค. 2024 บริษัทได้เชิญครีเอเตอร์ แป้น-Japan and friends ตัวแทนกลุ่มมือใหม่, มิ้นท์ – I Roam Alone ตัวแทนกลุ่มรักสุขภาพ และ เต้ย-พงศกร ตัวแทนกลุ่มนักกีฬา มาร่วมกิจกรรมสร้างการรับรู้ในงานแถลงข่าวแผนงานประจำปีอีกด้วย

กลยุทธ์ระยะยาว บริษัทมุ่งขยายธุรกิจแนวดิ่ง (Vertical Integration) โดยเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การพัฒนาด้านวิศวกรรม การผลิต การตลาด ตลอดจนการให้บริการ

คุณมิสซี่ ยาง เสริมว่า ไตรมาส 1/2024 บริษัทมียอดรับรู้รายได้ทั่วโลกประมาณ 49,680 ล้านบาท เติบโต 20% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่รายได้ในไทยเติบโตกว่า 25% ตั้งเป้าทั้งปี เติบโตซิงเกิลดิจิต

ทั้งนี้ การ์มิน เป็นบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติจากสหรัฐอเมริกา ผลิตดีไวซ์ที่มอบความหลากหลายทางเทคโนโลยี GPS ก่อตั้งขึ้น ปี 1989

ปัจจุบันดำเนินธุรกิจอยู่ใน 5 ประเภทหลัก การบิน, ยานยนต์, การเดินทะเล, ฟิตเนส, กิจกรรมเอาต์ดอร์ และเข้ามาเปิดสำนักงานในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2021

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer