ไม่มีใครเก่งไปหมดทุกอย่าง ทว่าขณะเดียวกันทุกคนต่างก็ต้องทำเรื่องที่ไม่ถนัดเช่นกัน อาจจะด้วยทักษะไม่มากพอ ขาดความมั่นใจ หรือเป็นเรื่องที่ขัดกับลักษณะนิสัย

เช่น ในกรณีของคนช่างคิด เก็บตัว และพูดไม่เก่ง หรือ Introvert ที่บางโอกาสต้องไปทำงานของคนที่ชอบออกสังคมและพูดเก่ง หรือ Extrovert

สถานการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้นหรือได้ไปครองเก้าอี้เบอร์ใหญ่ ๆ ของบริษัท ที่ต้องขึ้นพูดบนเวทีสาธารณะต่าง ๆ

ถ้าเป็นแค่การพรีเซนต์งานในแผนกหรือเสนอขายงานลูกค้าที่มีผู้ฟังน้อยก็คงไม่น่ากังวล แต่หากเป็นเวทีใหญ่ที่ผู้ฟังหลักร้อยหลักพันขึ้นไป เช่น งานแต่ง การหาเสียง หรือพรีเซนต์งานใหญ่ระดับประเทศ คงทำให้ผู้พูดต้องเครียดพอสมควร

สถานการณ์ดังกล่าวอาจถึงขั้นเป็นฝันร้ายหรือหายนะ แบบที่เรียกกันว่า ตายไมค์ ถ้าผู้ที่ต้องขึ้นเวที คือ Introvert

ทว่าอาการตายไมค์สามารถป้องกันได้ผ่านการเตรียมตัว ทำสมาธิกับตั้งสติก่อนให้ดีก่อน และพูดออกไปให้ชัดถ้อยชัดคำรวมไปถึงอย่าทำพลาด 3 อย่างต่อไปนี้บนเวที 

 

หลุดปากว่าไม่มั่นใจ: อย่างแรกที่ห้ามทำเลยเมื่อขึ้นพูดในที่สาธารณะคือพูดว่า “ประหม่าอยู่เหมือนกัน” หรือ “ยังสั่น ๆ อยู่เลยก่อนขึ้นเวที” เพราะเป็นการยอมรับว่า ไม่มั่นใจเอาเสียเลยกับการพูดครั้งนี้

นี่คือความผิดพลาด เนื่องจากจะยิ่งไปลดทอนความมั่นใจที่คุณมีน้อยอยู่แล้วให้ยิ่งน้อยลงไป และทำให้การเรียกความสนใจจากผู้ชมผู้ฟังยากขึ้นไปอีก

ความผิดพลาดนี้จะยิ่งรุนแรงถ้าเป็นงานแฟร์ ที่ผู้ฟังไม่ได้นั่งอยู่กับที่ เพราะนั่นหมายความว่า คนเดินผ่านไปผ่านมาจะไม่เข้ามาซื้อสินค้าของคุณ

 

ยกเวทีให้ “ฉัน” มากกว่า “พวกเรา”: เรื่องต่อมาที่อย่าทำพลาดหากต้องขึ้นพูดในที่สาธารณะคือ ใช้สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง อย่าง “ผม” หรือ “ฉัน” บ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผู้ฟังผู้ชมมองว่า คุณพูดถึงแต่เรื่องตัวเอง และไม่สนใจผู้ฟัง

ดังนั้น สิ่งที่ควรคือพูด “เรา” ให้บ่อยเข้าไว้เพื่อสร้างความมีส่วนร่วมกับผู้ชมผู้ฟัง และจากนั้นถ้าจะโน้มน้าวให้ทำอะไรก็จะง่ายขึ้นอย่างมาก  

 

เอาแต่ใช้ศัพท์เทคนิค: เรื่องสุดท้ายที่ไม่ควรเลยเมื่อพูดบนเวทีสาธารณะ ที่ชุมชนหรือ แหล่งที่มีคนหมู่มาก คือการใช้ศัพท์เทคนิคมากเกินไปเพราะจะทำให้ผู้ฟังผู้ชมเกิด Cognitive Bias เบือนหน้าหนี

จากความไม่เข้าใจ เข้าไม่ถึง หรือคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวในกรณีที่จำเป็นก็ใช้ได้ แต่ควรมีการยกตัวอย่างให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ผู้ฟังผู้ชมเข้าใจ หรือทำการบ้านล่วงหน้า

เพื่อให้ได้รู้ว่าศัพท์เทคนิคดังกล่าว คือคำไหนตามภาษาของผู้ฟังผู้ชม แม้อาจเสียเวลาไปบ้าง แต่นี่คือการลงทุนที่จะผลิดอกออกผล เป็นความมั่นใจเมื่อขึ้นพูด

ทำให้คุณเข้าใจผู้ฟังผู้ชมมากขึ้น เพราะพูดภาษาเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมายจนเหมือนไปนั่งในใจของพวกเขาแล้วนั่นเอง/cnbc


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer