ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข่าวคราวที่ทำให้วงการอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของอินเดียต้องสั่นคลอนเมื่อสำนักข่าวรอยเตอร์ทำสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ Foxconn บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลกและเป็นซัปพลายเออร์หลักของ Apple ปฏิเสธการรับสมัครผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเข้าทำงานในโรงงานประกอบ iPhone ในรัฐทมิฬนาฑูของอินเดีย ข่าวนี้สร้างความตื่นตระหนกและความกังวลเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติทางเพศในสถานที่ทำงาน ซึ่งนำไปสู่การตอบสนองจากรัฐบาลอินเดีย
รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ออกมาเรียกร้องให้รัฐทมิฬนาฑูส่งรายงานโดยละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว หลังจากที่สำนักข่าว Reuters เปิดเผยเรื่องราวนี้สู่สาธารณะ แอคชั่นนี้ของนายกฯ นเรนทราแสดงให้เห็นความจริงจังของรัฐบาลกลางในการจัดการกับปัญหาการเลือกปฏิบัติในภาคอุตสาหกรรม และยังสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่อินเดียกำลังเผชิญในการสร้างสมดุลระหว่างการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและการปกป้องสิทธิของแรงงานในประเทศ ในบทความนี้เราจะมาลองจับแว่นขยายแล้วส่องเข้าไปในปัญหาดังกล่าวว่าที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น และเรื่องราวต่อจากนี้มีแนวโน้มจะจบลงอย่างไร
Foxconn อินเดีย
Foxconn หรือชื่อเต็มคือ Hon Hai Precision Industry Co., Ltd. เป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ไต้หวัน Foxconn มีชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตสินค้าให้กับแบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Apple ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ Foxconn
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Foxconn ได้ขยายการดำเนินงาน (ตั้งโรงงาน) มายังประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์ และเพื่อตอบสนองต่อนโยบาย “Made in India” ของรัฐบาลอินเดีย ที่มุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตภายในประเทศ
Foxconn เริ่มไปตั้งโรงงานแห่งแรกในอินเดียในช่วงปี 2014 ในรัฐอานธรประเทศ, ทมิฬนาฑู, รัฐกรณาฏกะ , รัฐเตลังกานา ช่วงแรกของการลงทุนของ Foxconn ในอินเดียได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลาง เนื่องจากเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ดังนั้น จึงมีศักยภาพในการสร้างงานจำนวนมากและสามารถช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตของอินเดียได้
ภาพบรรยากาศภายในโรงงานประกอบชิ้นส่วน iPhone ในรัฐทมิฬนาฑู: Deccan Herald
Apple เดิมพันว่าอินเดียจะเป็นเหมือนพรมแดนแห่งการเติบโตแห่งใหม่และเป็นเสาหลักของความพยายามในการกระจายการผลิตออกไปจากจีนบ้าง การผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของ Apple ในอินเดียคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 9% ถึง 14% ของการผลิต iPhone ทั่วโลกในปีนี้ เทียบกับ 86% ถึง 91% ในจีน ตามรายงานของ Isaiah Research ในไต้หวัน Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก TF International Securities คาดการณ์ว่าส่วนแบ่งของอินเดียจะสูงถึงและเกิน 20% ในปีนี้
นอกจาก Foxconn จะสำคัญกับอินเดียแล้ว อินเดียก็มีความสำคัญต่อ Foxconn ไม่แพ้กัน อย่างปี 2023 ที่ผ่านมา Foxconn ส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตในอินเดียเป็นมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์
ต้องบอกว่าโรงงานของ Foxconn โดยเฉพาะในรัฐทมิฬนาฑูซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการผลิต iPhone ของอินเดีย ซึ่งไม่เพียงแต่ผลิตเพื่อจำหน่ายตลาดภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังผลิตเพื่อการส่งออกด้วย การเข้ามาตั้งโรงงานของ Foxconn ในอินเดียนั้นสอดคล้องกับความพยายามของ Apple ในการกระจายห่วงโซ่อุปทานให้พ้นจากการพึ่งพาจีนมากเกินไป
ไม่รับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเข้าทำงาน
แต่เรื่องใหญ่ที่แดงขึ้นมาในช่วงนี้ ก็คือ Reuters ออกมาเปิดเผยว่าโรงงาน Foxconn ที่เมือง ศรีปริมพุทร์ (Sriperumbudur) รัฐทมิฬนาฑู ปฏิเสธการรับสมัครผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ในตำแหน่งงานในสายการประกอบ iPhone การเปิดเผยข้อเท็จจริงนี้ของ Reuter สร้างความตกใจให้กับสาธารณชนและเหล่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางอินเดียเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิแรงงานและกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติของอินเดียอย่างชัดเจน
ภาพหญิงชาวอินเดียที่มีสถานภาพสมรสแล้วถูกกันไม่ให้เข้าไปสมัครงานในโรงงาน Foxconn ประเทศอินเดีย: Reuter
การปฏิเสธผู้สมัครงานด้วยเหตุผลด้านสถานภาพการสมรสนั้นถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยตรงและรุนแรง และขัดต่อหลักการพื้นฐานของความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงาน นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นทัศนคติที่ล้าสมัยเกี่ยวกับบทบาทของผู้หญิงในสังคมและในตลาดแรงงาน
มีการคาดการณ์ว่าเหตุผลเบื้องหลังนโยบายนี้อาจเกี่ยวข้องกับความกังวลของบริษัทเกี่ยวกับการลาคลอดและภาระความรับผิดชอบในครอบครัวที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน อย่างไรก็ตาม แนวคิดเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเหมารวมที่ไม่ยุติธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้หญิงในการทำงานและมีครอบครัวโดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ
เหตุผลอะไรทำให้ Foxconn ทำแบบนี้
“ปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้นเมื่อคุณจ้างผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว”
Paul อดีตผู้บริหาร Foxconn HR กล่าวถึงจุดยืนของบริษัทในการเลือกที่จะไม่จ้างหญิงอินเดียที่แต่งงานแล้ว
รายงานจาก Reuters ระบุว่าที่ Foxconn ตัดสินใจที่จะออกนโยบาย “ไม่จ้าง” หญิงที่แต่งงานแล้ว (ชาวอินเดีย) เนื่องจาก “ปัญหาทางวัฒนธรรม” และความกดดันทางสังคม S. Paul ให้สัมภาษณ์ว่า เขาออกจากบริษัทเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2023 เพื่อรับบทบาทที่ได้รับค่าตอบแทนดีกว่าในบริษัทที่ปรึกษากล่าว ความเห็นของบริษัทคือ “มีปัญหามากมายหลังการแต่งงาน” หนึ่งในนั้นคือ ผู้หญิง “มีลูกหลังแต่งงาน”
เจ้าหน้าที่และแหล่งข่าวสายใกล้ชิดของ Foxconn HR อ้างว่า หญิงอินเดียที่แต่งงานแล้วมีโอกาสสูงมากที่จะต้องรับผิดชอบภาระหน้าที่ในฐานะภรรยา ไหนจะต้องตั้งครรภ์ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการขาดงานที่สูงขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Foxconn ถึงไม่จ้างผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังระบุอีกว่าเครื่องประดับที่ผู้หญิงฮินดูที่แต่งงานแล้วสวมใส่อาจไปรบกวนการผลิตได้
ของสิ่งนี้เรียกว่า Thaali ซึ่งหญิงที่แต่งงานแล้วชาวฮินดูจะสวมใส่มันไว้ตลอดเวลาทำให้ Foxconn อ้างว่าสิ่งนี้ไม่สามารถอนุญาตให้นำเข้าไปใน line การผลิตได้: Reuters
นอกจากนี้ Reuters ยังเจาะไปจนได้ข้อมูลอีกว่า ที่จริงแล้ว Foxconn ก็ไม่ได้ถึงกับ “ไม่จ้างผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเลยทั้งสิ้น” เพราะในบางครั้งโรงงานก็อาจมีการปิดตาข้างเดียวบ้างในช่วงที่มีการผลิตสูงซึ่งบางครั้งโรงงานต้องประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน หรือในบางกรณีบริษัทหรือเอเจนซี่จัดหางานก็ช่วยปกปิดข้อมูลสถานะการสมรสให้กับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเพื่อให้หญิงสาวเหล่านั้นได้มีงานทำ
ที่จริงเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ย้อนกลับไปในปี 2022 เหตุการณ์ทำนองนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว โดยสำนักข่าว Reuters เจ้าเดิมเป็นผู้ลงพื้นที่ไปสำรวจข้อเท็จจริงดังกล่าว
ปฏิกิริยาของรัฐบาลอินเดีย
ทันทีที่ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด โดยเรียกร้องให้รัฐบาลของรัฐทมิฬนาฑูส่งรายงานชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ การดำเนินการนี้แสดงให้เห็นความจริงจังของรัฐบาลกลางในการจัดการกับปัญหาการเลือกปฏิบัติในภาคอุตสาหกรรม และความมุ่งมั่นในการปกป้องสิทธิของแรงงาน
นายกฯ นเรนทรา เรียกร้องให้รัฐทมิฬนาฑู เร่งสอบสวนข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าวและส่งรายงานโดยละเอียดมาให้รัฐบาล: CNBC
ในแถลงการณ์ของนายกนเรนทรา เรียกร้องให้มีการสอบสวน กระทรวงแรงงานและการจ้างงานของรัฐบาลกลาง อ้างถึงพระราชบัญญัติค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกันปี 1976( Equal Remuneration Act of 1976) โดยกล่าวว่ากฎหมาย “กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าจะไม่มีการเลือกปฏิบัติในการสรรหาคนงานชายและหญิง”
ทั้งนี้กระทรวงแรงงานและการจ้างงาน ระบุว่า ได้ขอรายงานโดยละเอียดจากกระทรวงแรงงานของรัฐทมิฬนาฑูไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้สั่งให้สำนักงานหัวหน้ากรรมาธิการแรงงานประจำภูมิภาคจัดทำ “รายงานข้อเท็จจริง” มารายงานตรงต่อกระทรวงฯ อีกด้วย
ครั้งหนึ่งในการประชุมการเพิ่มขีดความสามารถของสตรีเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2023 นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เคยกล่าวว่า “เมื่อผู้หญิงเจริญรุ่งเรือง โลกก็เจริญรุ่งเรือง” ดังนั้น นายกฯ นเรนทราจึงค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว ทำให้เห็นว่ารัฐบาลกลางของอินเดียต้องการที่จะปกป้องภาคแรงงานของประเทศจากการถูกเอารัดเอาเปรียบจริง ๆ แล้วเรื่องนี้เราได้เห็นอะไรบ้างจากท่าทีของรัฐบาลอินเดีย
1. แสดงให้เห็นการตอบสนองที่รวดเร็วของรัฐบาลต่อปัญหาด้านแรงงาน
2. เป็นการส่งสัญญาณถึงบริษัทต่างชาติว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานของอินเดียอย่างเคร่งครัด
3. เป็นการยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงาน
4. แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นในการจัดการกับปัญหาระดับชาติ
การตอบสนองของรัฐบาลอินเดียสะท้อนให้เห็นความท้าทายที่อินเดียกำลังเผชิญในการสร้างสมดุลระหว่างการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและการปกป้องสิทธิของแรงงานในประเทศ ในขณะที่อินเดียพยายามที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลก ก็จำเป็นต้องสร้างความมั่นใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะไม่มาพร้อมกับการละเมิดสิทธิแรงงานหรือการเลือกปฏิบัติ
ผลกระทบที่อาจจะตามมา
นี่อาจเป็นโดมิโนชิ้นแรกที่จะส่งผลให้เกิดการปูพรมตรวจสอบนโยบายการจ้างงานบริษัทข้ามชาติอย่างเข้มงวดจากรัฐบาล เพราะเหตุการณ์นี้มีผลกระทบและนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีของอินเดียและนโยบายแรงงานของประเทศ และอาจจะสร้างแรงกระเพื่อมตามมาได้อีกหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น
1. ความกังวลด้านการเลือกปฏิบัติ กรณีนี้ได้ยกระดับความกังวลเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติทางเพศในภาคอุตสาหกรรมของอินเดีย โดยเฉพาะในบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ซึ่งอาจนำไปสู่การตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้นในอนาคต
2. ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ เหตุการณ์นี้อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของ Foxconn และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของบริษัทกับรัฐบาลอินเดียและชุมชนท้องถิ่น
3. การทบทวนนโยบายการจ้างงาน บริษัทต่างๆ ในอินเดียอาจต้องทบทวนและปรับปรุงนโยบายการจ้างงานของตนเพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานด้านความเท่าเทียมทางเพศ
4. การเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายแรงงาน รัฐบาลอาจเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายแรงงานและกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ ในมุมมองทางกฎหมาย การปฏิเสธการจ้างงานบนพื้นฐานของสถานภาพการสมรสถือเป็นการละเมิดกฎหมายแรงงานของอินเดียอย่างชัดเจน รัฐธรรมนูญอินเดียรับประกันสิทธิในความเท่าเทียมกันและห้ามการเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของเพศ นอกจากนี้ พระราชบัญญัติความเท่าเทียมในการจ้างงาน (Equal Remuneration Act) ปี 1976 ยังห้ามการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงในการจ้างงานและการเลื่อนตำแหน่ง
เหตุการณ์ที่ Foxconn ปฏิเสธการจ้างงานผู้หญิงที่แต่งงานแล้วในโรงงานประกอบ iPhone ในอินเดียได้เผยให้เห็นความท้าทายที่ซับซ้อนของประเทศที่กำลังเผชิญในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและการปกป้องสิทธิแรงงาน การตอบสนองอย่างรวดเร็วของรัฐบาลอินเดียแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการจัดการกับปัญหานี้
เหตุการณ์นี้เน้นย้ำความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและการปกป้องสิทธิของแรงงานในประเทศ ในขณะที่อินเดียมุ่งหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลก จำเป็นต้องมีการพัฒนานโยบายและแนวปฏิบัติที่ส่งเสริมทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีของแรงงาน
สำหรับ Foxconn และบริษัทข้ามชาติอื่น ๆ ที่ดำเนินงานในอินเดีย เหตุการณ์นี้น่าจะเป็นสัญญาณเตือนให้ทบทวนนโยบายการจ้างงานและวัฒนธรรมองค์กร การปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นและการเคารพค่านิยมทางสังคมของประเทศเจ้าบ้านไม่เพียงแต่เป็นข้อบังคับทางกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จทางธุรกิจในระยะยาว
ในขณะที่อินเดียก้าวไปข้างหน้า การรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความยุติธรรมทางสังคมจะยังคงเป็นที่ความท้าทายความสามารถในการแก้ปัญหาของรัฐบาลทุกประเทศ ซึ่งถ้าหากทำได้ก็จะเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
เรื่อง: ณัฐศกรณ์ แสงลับ
อ้างอิง
https://www.reuters.com/investigates/special-report/foxconn-apple-india-women/
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ