แรบบิท โฮลดิ้งส์ คืบหน้าบูรณะ ‘โรงภาษีร้อยชักสาม’ ตั้ง แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป เข้าบริหารจัดการ อัปเดตมูลค่ารวมพัฒนาสู่โรงแรมห้าดาว 6,000 ลบ. วางเป็นหน้าต่างสำคัญย่านพหุวัฒนธรรมแห่งบางรัก ซึ่งจะพร้อมเปิดปลายปี 2026

ภาพคอนเซปต์ โรงแรม เดอะ แลงแฮม แบงค็อก ณ โรงภาษีร้อยชักสาม

แรบบิท โฮลดิ้งส์ บริษัทในเครือ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เผยความคืบหน้าโครงการบูรณะ ศุลกสถาน (Customs House) หรือ โรงภาษีร้อยชักสาม ณ ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซอยเจริญกรุง 36 ย่านพหุวัฒนธรรมอย่างบางรัก สู่ โรงแรม เดอะ แลงแฮม แบงค็อก (The Langham Bangkok)

วันที่ 2 ก.ย. 2024 บริษัทประกาศความร่วมมือกับ แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป (Langham Hospitality Group: LHG) เข้าร่วมพัฒนาและรับหน้าที่บริหารจัดการโรงแรม

คุณกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการของแรบบิท โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า เนื่องจากความทุ่มเทของแลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ ในการสร้างโรงแรมหรูเหนือกาลเวลาและความสำเร็จในการอนุรักษ์มรดกตกทอดต่าง ๆ ทำให้เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งและเหมาะสมในการดำเนินโครงการในลักษณะนี้ จึงได้รับเลือกให้เข้ามาดูแลการบริหารเดอะ แลงแฮม แบงค็อก ในที่สุด

เดอะ แลงแฮม แบงค็อก มีจุดมุ่งหมายไม่เพียงเพื่อสร้างสถานที่พักผ่อนระดับโลก แต่มุ่งเน้นที่จะเติมเต็มคุณค่าทางวัฒนธรรมและเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับย่านบางรัก ซึ่งสอดคล้องกับโครงการในกลุ่มธุรกิจ MATCH ของบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูเมืองและชุมชน

คุณ Bob van den Oord ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า เดอะ แลงแฮม แบงค็อก ณ โรงภาษีร้อยชักสาม ดำเนินการตามโครงการอนุรักษ์มรดกที่ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายแห่งของบริษัท

อาทิ เดอะ แลงแฮม บอสตัน ซึ่งเป็นโรงแรมหรูที่ตั้งอยู่ในอาคารเก่าของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เดอะ แลงแฮม ชิคาโก สถานที่พักผ่อนอันหรูหราตั้งอยู่ในอาคาร Mies van der Rohe อันเป็นเอกลักษณ์ และ เดอะ แลงแฮม แพซาดีนา ซึ่งเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ฮอลลีวูดซึ่งมีอายุย้อนไปถึงปี 1907

นอกจากนี้ ล่าสุด บริษัทยังได้เข้าไปบูรณะโรงงานกระจกเก่าบนเกาะมูราโน ในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนอันหรูหราเหนือกาลเวลา

เช่นเดียวกับ ‘เดอะ แลงแฮม แบงค็อก’ ที่นำเอาอาคารศุลกสถาน รวมถึงอาคารที่ทำการไปรษณีย์เก่าที่เสื่อมโทรมตามการใช้งาน มาบูรณะ โดยรักษาโครงสร้างทางกายภาพของอาคารไว้อย่างสมบูรณ์ ควบคู่ไปกับการเสริมการออกแบบร่วมสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกตามศาสตร์และศิลป์อันทันสมัย

งบการปรับปรุงพัฒนาอยู่ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท วางโพสิชั่นนิ่งเป็นโรงแรม 5 ดาว สไตล์เนเบอร์ฮูดรวม 78 ห้องพัก ไฮไลท์ อาทิ ภัตตาคาร ถัง คอร์ท (T’ang Court) ร้านอาหารกวางตุ้งระดับมิชลินสามดาวจากฮ่องกง หรือ ฉวน สปา (Chuan Spa) สถานที่พักผ่อนเพื่อสุขภาพชั้นนำของแบรนด์เดอะ แลงแฮม 

โรงแรมจะพร้อมเปิดภายในปลายปี 2026 เน้นเจาะกลุ่มผู้เข้าพักที่มาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในย่านบางรัก มากกว่าการเข้าพักในเชิงบิสิเนส ราคาที่พักวางอยู่มาตรฐานเดียวกับลักชัวรีโฮเทลริมแม่น้ำเจ้าพระยา 

ขณะที่ภาพรวมตลาดลักชัวรีโฮเทลในกรุงเทพฯ การแข่งขันสูง แต่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของโรงแรมสร้างใหม่ แต่ แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป (Langham Hospitality Group: LHG) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ Great Eagle Holdings ถือหุ้นทั้งหมด

โดยประกอบด้วยกลุ่มแบรนด์ที่โดดเด่น ดังนี้ The Langham Hotels and Resorts, Cordis Hotels, Eaton Workshop และ Ying’nFlo รวมโรงแรมและที่พักอาศัยมากกว่า 40 แห่งในการดำเนินงานหรือการพัฒนา ซึ่งกระจายอยู่ทั่วเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และตะวันออกกลาง

ซึ่งแบรนด์ Langham Hotels and Resorts มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นที่อาคารที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของเมืองหลักต่าง ๆ ให้เป็นหน้าต่างที่เปิดประสบการณ์ให้ผู้เข้าพักและชุมชนประจำย่านที่ตั้ง

Marketeer FYI

ศุลกสถาน หรือ โรงภาษีร้อยชักสาม ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราชพัสดุเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ บริเวณซอยเจริญกรุง 36 เป็นอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกสูง 3 ชั้น โครงสร้างตัวอาคารมีพื้นไม้สัก บันไดกลางขนาดใหญ่ และโถงทางเดินสี่ชั้น ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน โยคาอิม กราซี (Joachim Grassi) สร้างขึ้นในปี 1888 ภายหลังสนธิสัญญาบาวริงกับรัฐบาลอังกฤษเมื่อปี 1855

อาคารทำหน้าที่เก็บภาษีขาเข้าและขาออก จึงถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่าโรงภาษีร้อยชักสาม จากอัตราการเก็บภาษีตามราคาสินค้าร้อยละ 3 เกิดเป็นตัวแทนของความรุ่งเรืองด้านการค้า ยุคเปลี่ยนจากระบบเศรษฐกิจแบบผูกขาด เป็นการค้าเสรี และแก้ไขปัญหาสินค้าหนีภาษี

ก่อนกลายมาเป็นหน้าเป็นตาของกรุงเทพฯ และมีเรื่องราวในอดีตที่เคยเป็นที่จัดงานสังสรรค์ของราชวงศ์ รวมถึงยังเคยเป็นสถานที่เฝ้ารับเสด็จรัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินกลับจากการประพาสทวีปยุโรปเมื่อปี 1907

โครงการบูรณะอาคารเริ่มดำเนินงานมาโดย บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (เดิมชื่อ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน)) และกรมธนารักษ์ ในสังกัดของกระทรวงการคลัง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเริ่มต้นการบูรณะอาคารที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลในทุกขั้นตอนมาตั้งแต่ปี 2019


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer