วุ้นน้ำมะพร้าวแม่ละมาย พลิกชีวิตธุรกิจเถ้าแก่โรงพิมพ์ล้ม สู่เอสเอ็มอีขนมหวานร้อยล้าน ที่กำไรไม่สำคัญเท่าโตไปด้วยกัน
“วุ้นน้ำมะพร้าวเซเว่น” หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า “วุ้นน้ำมะพร้าวผสมเม็ดแมงลักบรรจุถ้วยแม่ละมาย” น่าจะเป็นอีกหนึ่งขนมหวานสามัญประจำเชนร้านเซเว่นฯ ที่ได้รับการหยิบจับติดมือไปกินจากผู้บริโภคอยู่เสมอ
โดยแบรนด์ “แม่ละมาย” นับเป็นอีกหนึ่งเอสเอ็มอีตัวอย่างที่จำหน่ายสินค้าผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่น หลังได้รับรางวัล SME ยั่งยืน จากเวทีเซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอียั่งยืน 2566
คุณวีระ ตั้งวุทฒิไกรวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุพรรณคิวฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตขนมหวานแบรนด์ “แม่ละมาย” ได้เล่าเส้นทางของแบรนด์ให้ Marketeer ฟัง ทั้งความกล้าที่จะแตกต่างในการสร้างผลิตภัณฑ์ และจังหวะธุรกิจที่มาถูกเวลา จนปัจจุบันสามารถสร้างยอดขายหลักหลายร้อยล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ คีย์วัดความสำเร็จของธุรกิจของวีระไม่ใช่เรื่องกำไร แต่เป็นการเติบโตไปพร้อมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ ตลอดจนการสร้างสุพรรณบุรีให้เป็นแซนด์บ็อกซ์สำหรับเอสเอ็มอีในจังหวัด ที่ได้มีโอกาสเติบโตสู่การเป็นซัปพลายเออร์ของเซเว่นฯ อย่างยั่งยืนอีกด้วย
เริ่มเป็นวุ้น
วีระเล่าว่าตนเองเริ่มต้นทำธุรกิจโรงพิมพ์ในปี 2535 แต่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่แตกในปี 2540 หรือวิกฤตต้มยำกุ้ง จึงตัดสินใจกลับมาที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยา และเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่เพียงสี่หมื่นบาท
เนื่องจากเป็นคนที่ชอบทำอาหารเป็นทุนเดิม วีระจึงเริ่มต้นหาเลี้ยงชีพด้วยการเปิดร้านขายไก่ปิ้งริมทาง ก่อนจะทดลองทำธุรกิจเล็ก ๆ ภายใต้แบรนด์ “แม่ละมาย” ซึ่งเป็นชื่อของแม่ยาย เพื่อความเป็นสิริมงคล
เริ่มแรก แบรนด์แม่ละมายผลิตผลไม้แช่อิ่ม แต่เนื่องจากความผันผวนในการจัดหาวัตถุดิบ วีระจึงหันมาผลิตวุ้นน้ำมะพร้าว ซึ่งในขณะนั้นวุ้นน้ำมะพร้าวที่ขายทั่วไปมักจะมีแบบใส่ถุงและใส่แก้ว พร้อมทั้งเติมกลิ่นและสีสันเพื่อให้แตกต่าง แต่ส่วนใหญ่จะมีการใส่สารฟอกขาวในกระบวนการผลิต
วุ้นน้ำมะพร้าวผสมเม็ดแมงลักบรรจุถ้วยแม่ละมาย
วีระเผยว่าตอนเริ่มต้น ความรู้ด้านการทำธุรกิจอาหารของเขาเป็นศูนย์ จึงต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอย่างหนัก จนพบวิธีการทำวุ้นน้ำมะพร้าว Nata de coco โดยใช้แบคทีเรียกรดน้ำส้ม Acetobacter xylinus ที่พบได้ทั่วไปในกระบวนการทำน้ำส้มสายชูหมักตามธรรมชาติ มาหมักกับน้ำมะพร้าว ซึ่งผลที่ได้คือวุ้นที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและมีไฟเบอร์สูง วุ้นประเภทนี้ถูกจัดให้อยู่ในหมวดสารอาหารประเภทเส้นใย และไม่มีการใช้สารฟอกสี ทำให้สีของวุ้นดูขุ่นกว่าวุ้นทั่วไป
เมื่อได้วัตถุดิบหลักแล้ว วีระคิดต่อว่าหากขายเพียงวุ้นน้ำมะพร้าวอย่างเดียวก็อาจไม่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นในตลาด จึงต้องมองหาสินค้าทางการเกษตรตัวอื่นมาใส่เสริม และพบว่าเม็ดแมงลักน่าจะเข้ากันได้ดีกับวุ้นน้ำมะพร้าว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญของเม็ดแมงลักคือการปนเปื้อนสารอะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ดังนั้น เขาจึงได้นำเครื่องนวดฝัดเม็ดแมงลักแบบแห้งของสถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาใช้ เพื่อให้เม็ดแมงลักปราศจากสารปนเปื้อน
ผลลัพธ์ที่ได้คือ วุ้นน้ำมะพร้าวผสมเม็ดแมงลักที่มีรสชาติหวานน้อยกว่าขนมหวานทั่วไป บรรจุในถ้วยที่มีฝาปิดมิดชิด และผ่านการฆ่าเชื้อด้วยกระบวนการ Thermal shock สามารถแช่เก็บในตู้เย็นและนำออกมารับประทานได้อย่างสะดวกทุกเวลา
วุ้นน้ำมะพร้าวผสมเม็ดแมงลักบรรจุถ้วยนี้เริ่มวางจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2541 ใน 20 สาขา ครอบคลุมเฉพาะในจังหวัดสุพรรณบุรีและอยุธยา
จังหวะที่เหมาะเจาะ
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้แบรนด์แม่ละมายประสบความสำเร็จ คือการอยู่ในจังหวะที่เหมาะเจาะ ในช่วงเวลาที่บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กำลังเริ่มทรานส์ฟอร์มร้านเซเว่นฯ จาก “ร้านสะดวกซื้อ” มาเป็น “ร้านอิ่มสะดวก”
ซีพี ออลล์ได้จัดให้มีการอบรมสำหรับซัปพลายเออร์เอสเอ็มอีทุก ๆ รายที่ผลิตสินค้าจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ โดยอบรมในหลายเรื่อง เช่น บรรจุภัณฑ์ การตลาด การควบคุมการผลิตสินค้า ระบบขนส่ง ฯลฯ อย่างน้อยปีละสองครั้ง เพื่อผลักดันให้ซัปพลายเออร์สามารถพัฒนาตนเอง และยกระดับมาตรฐานในทุกด้าน
การส่งเสริมเหล่านี้ช่วยให้ซัปพลายเออร์มีศักยภาพในการสร้างยอดขายที่เติบโตขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์แม่ละมายสามารถประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้
กินแห้ว
หลังจากที่วุ้นน้ำมะพร้าวผสมเม็ดแมงลักประสบความสำเร็จและวางจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ ทั่วประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2551 วีระก็เดินหน้าพัฒนาสินค้าอื่น ๆ ภายใต้แบรนด์แม่ละมายอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งมั่นที่จะยกระดับพืชผลทางการเกษตรให้มีคุณภาพ
ปัจจุบัน แบรนด์แม่ละมายมีสินค้าทั้งหมด 10 รายการ โดยวางจำหน่ายในราคาหลักสิบบาทต่อชิ้น แบ่งเป็นขนมหวาน 7 รายการ เครื่องดื่ม 2 รายการ และธัญพืช (แห้ว) 1 รายการ
สำหรับผลิตภัณฑ์แห้วพร้อมรับประทาน ซึ่งเพิ่งวางจำหน่ายเมื่อเดือนเมษายน 2567 นั้น เป็นธัญพืชที่หากินได้ยาก เพราะแห้วที่ดีต้องเป็นผลผลิตจากจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งได้รับการรับรองเครื่องหมายสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI)
ราคาขายของแห้วในจังหวัดสุพรรณบุรีในอดีตอยู่ที่ประมาณ 160 บาทต่อ 15-16 กิโลกรัม แต่การเข้ามารับซื้อของสุพรรณคิวฟู้ดส์มีส่วนช่วยให้ราคาขยับขึ้นมาถึง 300 บาทในปัจจุบัน
ทั้งนี้ แบรนด์แม่ละมายยังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ ให้มีคุณภาพ และส่งต่อให้กับผู้บริโภค เช่น ลูกตาล ลูกลาน ใบเตย โดยจะเลือกรับซื้อจากเกษตรกรที่เพาะปลูกแบบไร้สารเคมี และผ่านการตรวจสอบจากบริษัทก่อนนำมาแปรรูปเพื่อจำหน่าย
วีระเล่าอย่างภาคภูมิใจว่าปัจจุบันบริษัทสุพรรณคิวฟู้ดส์รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรทั่วประเทศ และสามารถสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชนปีละหลายสิบล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของยอดขาย ซึ่งยังช่วยสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนไปในตัว
วีระมองว่ากำไรเป็นเพียงแค่องค์ประกอบหนึ่งของธุรกิจ แต่ไม่ใช่ Key success ที่แท้จริง
สุพรรณคิวฟู้ดส์มียอดขายเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละประมาณ 20% – 40% โดยในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 150 ล้านบาท
กลยุทธ์การดำเนินงานที่สำคัญคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบรนด์แม่ละมาย โดยใช้วัตถุดิบที่หลากหลายเพื่อลดความผันผวนของผลผลิตจากเกษตรกร และขยายกำลังการผลิตของโรงงานในจังหวัดสุพรรณบุรีอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันโรงงานมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 120,000 ชิ้นต่อวัน โดยตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตเป็น 200,000 – 250,000 ชิ้นต่อวันภายในปี 2569 ซึ่งการขยายนี้ต้องการการลงทุนต่อเนื่องราว 50-60 ล้านบาท
วีระมองว่ากำไรนั้นเป็นเพียงองค์ประกอบของธุรกิจ แต่ไม่ใช่ Key success ที่แท้จริง สิ่งสำคัญคือการทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ตั้งแต่เกษตรกรผู้ผลิต ซัปพลายเออร์ ไปจนถึงผู้บริโภค ได้เติบโตไปพร้อมกับบริษัทต่างหาก จึงจะเรียกได้ว่าธุรกิจของตนประสบความสำเร็จและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ไม่ว่าจะเป็นทีมต้นทางอย่างเกษตรกรและซัปพลายเออร์ ที่ต้องดูแลผลผลิตให้มีคุณภาพตามความต้องการ หรือทีมกลางทางอย่างบริษัทเอง ก็ต้องมีระบบบริหารจัดการที่ดีและมีคุณภาพ ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบไปจนถึงการมีพันธมิตรที่คอยสนับสนุนและประสานงานในทุกด้าน
ซีพี ออลล์ ถือเป็นพันธมิตรสำคัญที่อยู่เคียงข้างบริษัทมาโดยตลอด ทำให้บริษัทสามารถส่งต่อความรู้ที่ได้รับไปยังทีมต้นทาง เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถผลิตวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงและพร้อมส่งต่อไปยังผู้บริโภค เมื่อผู้บริโภคได้รับสินค้าที่ดีและมีคุณภาพ ก็จะเกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อ เป็นการสร้างการเติบโตไปพร้อมกันในทุกมิติ
โค้ชมวยเวทีเซเว่นฯ
วุ้นน้ำมะพร้าวแม่ละมาย
ในฐานะเอสเอ็มอีตัวอย่าง วีระได้เล่าถึงการทำงานเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยกล่าวว่า เซเว่น อีเลฟเว่น เปรียบเสมือนเวทีมวยราชดำเนิน ที่มีนักมวยฝีมือดีมากมาย หากเอสเอ็มอีต้องการขึ้นไปชกในเวทีนี้ ก็จำเป็นต้องมีหมัดเด็ดของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม วีระได้นำประสบการณ์ต่าง ๆ เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในร้านเซเว่นฯ การบริหารจัดการวัตถุดิบ และอื่น ๆ มาช่วยส่งเสริมเอสเอ็มอีรายอื่น ให้สามารถปรับใช้จนประสบความสำเร็จในการนำสินค้าวางจำหน่ายในเซเว่นฯ และเติบโตอย่างยั่งยืนได้แล้วหลายราย ซึ่งในทางกลับกัน ยังช่วยให้วีระได้เรียนรู้กระบวนการและแนวทางใหม่ ๆ ไปด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ โรงงานสุพรรณคิวฟู้ดส์ของวีระยังเป็นแหล่งศึกษาดูงานที่สำคัญสำหรับเอสเอ็มอีและผู้ที่สนใจจากทุกภาคส่วน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาให้จังหวัดสุพรรณบุรีกลายเป็นแซนด์บ็อกซ์สำหรับเอสเอ็มอี ที่มีศักยภาพจะเติบโตไปเป็นซัปพลายเออร์ระยะยาวให้กับเซเว่น อีเลฟเว่น ในอนาคต
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /





