มิชลิน ถอดรหัสแคมเปญ On the Road and Beyond! มากกว่านวัตกรรมบนท้องถนน (วิเคราะห์)

ตื่นตาตื่นใจอย่างมากกับการเปิดแคมเปญล่าสุดของ มิชลิน ในชื่อว่า On the Road and Beyond!” ทั้งในแง่มุมของเรื่องราวการเดินทางบทใหม่ที่สะท้อนความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมของมิชลินที่ก้าวล้ำอีกขั้น เรียกว่า ไปไกลถึงอวกาศ” ตลอดจนการแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ เป้าหมาย และการขับเคลื่อนเพื่ออนาคตของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน 

ภายใต้แคมเปญนี้มีหลายแง่มุมที่น่าสนใจ Marketeer ได้รับเกียรติจาก คุณสรพงษ์ จันทร์นฤกุล Thailand B2C Commercial Director บริษัท สยามมิชลิน จำกัด มาให้ข้อมูลแบบเจาะลึก

สร้างสรรค์นวัตกรรม ต่อยอดธุรกิจที่ไปไกลกว่าแค่ยาง

หลังเปิดตัวแคมเปญโฆษณาระดับโลกที่ใช้ชื่อว่า Motion for Life” ไปเมื่อปี 2020 เพื่อสื่อให้เห็นว่า มิชลินตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของ “การเคลื่อนที่” จึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลายรูปแบบ 

ล่าสุด มิชลินออกแคมเปญชุดใหม่ On the Road and Beyond! ที่มุ่งตอกย้ำจิตวิญญาณด้านนวัตกรรมของแบรนด์ ซึ่งคุณสรพงษ์ อธิบายให้ฟังว่า เป็นการฉายภาพของมิชลินให้เห็นว่าแบรนด์ไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำ แต่ยังเป็นผู้นำในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลาย เพื่อขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนในทุกมิติอย่างครอบคลุม

“แคมเปญ Motion for Life นำเสนอการร่วมออกเดินทางอีกครั้งเพื่อค้นหาการใช้ชีวิตที่ดีกว่า ซึ่งมิชลินโฟกัสเรื่องการที่จะทำให้ทุกคนเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยวิธีที่ดีขึ้นกว่าเดิม จะเห็นว่าในโฆษณานั้น จะมียางคู่กับแทบทุกประเภท ตั้งแต่รถจักรยานไปจนถึงรถบรรทุก รถขนส่งขนาดใหญ่ รถราง หรือรถไฟฟ้า 

มาจนถึงแคมเปญ ‘On the Road and Beyond!’ เป็นเสมือนการต่อยอดโดยโฟกัสไปที่ความโดดเด่นด้านนวัตกรรมของมิชลินที่อยากสื่อสารให้ผู้บริโภคเห็นถึงศักยภาพของมิชลินอย่างลึกซึ้ง ว่าเรา Go Beyond ไปแล้ว โดยมุ่งเน้นขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนในธุรกิจ 3 หลัก ได้แก่ 

  1. ธุรกิจที่เกี่ยวกับยาง ธุรกิจ Mainstream ที่โฟกัสอย่างต่อเนื่อง เน้นในเรื่องนวัตกรรมเพื่อยางประสิทธิภาพสูงสุด ปลอดภัย มั่นใจ ตั้งแต่วันแรกที่ใช้จนถึงวันที่เปลี่ยนยางรอบถัดไป ช่วยลดขยะจากการเปลี่ยนยางบ่อยเกินความจำเป็น 
  2. Connected Solution เป็นอีกสายธุรกิจที่มิชลินกําลังเติบโตและต่อยอดต่อธุรกิจไปพร้อม ๆ กับคู่ค้า หลัก ๆ คือ วิทยาการข้อมูลที่ทำงานร่วมกับระบบ Fleet โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นรถขนส่งรถบรรทุกขนาดใหญ่ ไม่ใช่แค่ยางติดเซนเซอร์ แต่มีทั้งเซนเซอร์และกล้องในรถ รวมถึงการมอนิเตอร์ต่าง ๆ เช่น พฤติกรรมการขับขี่ ลมยางแต่ละล้อ ที่เราสามารถจะประเมินอันตรายที่จะเกิดขึ้นหรือประเมินการบํารุงรักษาล่วงหน้าได้ เพื่อลดความเสียหายระหว่างขับขี่ นี่เป็นแค่ตัวอย่าง เพราะในระบบจะมี Total Solution ที่ Connected ทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมด และมี Data เยอะมาก ๆ  ที่เรา Offer ให้กับคู่ค้าของเรา 
  3. วัสดุที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (High Tech Materials) ต่อยอดความเชี่ยวชาญด้าน Life-Changing Composites and Experiences หรือการรวมของสสารต่าง ๆ ที่มาประกอบกันมากกว่า 2 อย่างขึ้นไปจนเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษขึ้นมาใหม่ เป็นความเชี่ยวชาญของมิชลิน เพราะการผลิตยางเองนั้นประกอบด้วยวัตถุดิบมากกว่า 200 ชนิดอยู่แล้ว เราต่อยอดส่วนนี้ไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ไปทำอย่างอื่นได้อีก เช่น ใบเรือเดินสมุทรมิชลิน (WISAMO) นวัตกรรมที่ช่วยให้ท้องทะเลสะอาดขึ้น ด้วยใบเรือขนาดใหญ่ที่สามารถกางแล้วพับเก็บได้ เพื่อทำให้เรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ลดการใช้พลังงานถ่านหินที่จะก่อให้เกิด CO2 ขึ้นมากถึง 20% ช่วยประหยัดพลังงานในการเดินทางข้ามสมุทรได้ หรือ นอกจากนี้ยังมี Medical Equipment หรือวัสดุทางการแพทย์ ขาเทียมที่ใช้ยางคุณสมบัติพิเศษด้านใน ทำให้คนไข้สามารถจะเดินหรือกายภาพฟื้นฟูได้ดีขึ้น เป็นต้น

แคมเปญ On the road and Beyond! จะฉายภาพความเป็น แบรนด์แห่งการสร้างนวัตกรรม ของมิชลินให้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งมุมกว้างและลึกขึ้น ว่าจะสามารถนำนวัตกรรมที่มี ไปต่อยอดขนาดตรงไหนได้บ้าง ซึ่งเราไม่หยุดแค่การคิดค้นนวัตกรรมยางบนถนน แต่ยังสร้างยางไร้ลมที่ออกแบบมาเพื่อสำรวจดาวเคราะห์ดวงใหม่อีกด้วย ซึ่งอวกาศไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับมิชลิน เราเป็นผู้จัดหายางเพียงรายเดียวสำหรับกระสวยอวกาศและร่วมภารกิจกับ NASA ถึง 135 ภารกิจ ระหว่างปี 1981 ถึง 2011

ม่ว่าจะเดินทางรูปแบบไหน ถ้าไปกับมิชลิน คุณจะสามารถมั่นใจในสมรรถนะยาง และความปลอดภัยตลอดการเดินทางได้เลย

เรามุ่งเน้นเรื่องการสร้างนวัตกรรมมาตลอด 135 ปี ตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งบริษัท ใช้เงินลงทุนไปมากกว่า 1.2 พันล้านยูโร วันนี้เรามีศูนย์วิจัยอยู่ทั่วโลกมากมาย นักวิจัยอยู่ประมาณ 6,000 คน การวิจัยและนวัตกรรมของ Michelin Group ครอบคลุมไม่น้อยกว่า 350 สาขาความเชี่ยวชาญ และในปี 2023 มิชลินได้ยื่นจดสิทธิบัตร 269 ฉบับ โดยมีสิทธิบัตรที่ใช้งานได้ทั่วโลกทั้งหมดมากกว่า 11,000 ฉบับ ซึ่งมิชลินถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน ‘100 บริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก’ จาก ClarivateTM อีกด้วย”

พลังนวัตกรรมขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน 

ภายใต้แก่นที่ว่าอนาคตที่ยั่งยืนและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต้องดำเนินควบคู่กันไป” มิชลินคิดค้นนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง โดย “มุ่งเน้นการใช้วัสดุทดแทน” ด้วยแนวคิด All Sustainable Vision 2050 ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของมิชลินที่ตั้งเป้าผลิตยางโดยใช้วัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุหมุนเวียนในการผลิต 100% ภายในปี 2050

ซึ่งเป็นความท้าทายด้านนวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน เรากำหนดแนวคิดนี้ขึ้นเป็นเป้าหมายหลักเพื่อรังสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งสำหรับธุรกิจยางและธุรกิจอื่น ๆ ภายใต้ข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มมิชลินทั่วโลก

“มิชลิน เรามุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์การเดินทางหลายรูปแบบให้มีความปลอดภัย ไม่ว่าจะบนท้องถนน สนามแข่ง หรือแม้แต่บนอวกาศ เพื่อมอบประสบการณ์สัญจรที่ดีต่อคุณและเป็นมิตรที่ดีต่อโลก สู่เป้าหมายการผลิตยางด้วยวัสดุยั่งยืน 100% ในปี 2050 

ซึ่งนี่เป็นแค่เพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น เพราะมิชลินมีโปรเจกต์ นวัตกรรมความยั่งยืน ที่เราจัดการและดูแลผลกระทบตลอดอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อโลก  เรามีการทำ Life Cycle Analysis ของผลิตภัณฑ์ มีการวิจัยตั้งแต่การออกแบบว่าวัสดุที่ต้องใช้น้ำยางธรรมชาติจากสวนยางที่ไม่ได้มาจากการตัดไม้ทำลายป่า เมื่อมาสู่กระบวนการผลิตเราก็เน้นควบคุมในส่วนโรงงาน เราจัดทำ KPI ที่ตั้งเป้าจัดการเรื่องการลดของเสียอย่างครบวงจร 

จากนั้นเราลดขั้นตอนการขนส่งที่ก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์โดยลงทุนเปิดโรงงานใหม่แบบ Local to Local เช่น โรงงานมิชลินในประเทศไทย เราเป็น HUB ดูแลการผลิตและส่งออกในภูมิภาคนี้ ทดแทนการขนส่งยางข้ามภูมิภาคหรือนำเข้าจากสหรัฐอเมริกาและยุโรปแบบเดิม เมื่อมาถึงกระบวนการนำยางไปใช้ นวัตกรรมยางมิชลินเป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะมิชลินทำงานร่วมกับสูตรเนื้อยางพิเศษช่วยให้ยางมิชลินมีอายุการใช้งานนานกว่าเดิม

แต่ยังคงสมรรถนะดีเยี่ยมยาวนาน ปลอดภัย มั่นใจตั้งแต่วันแรกที่ใช้ จนวันเปลี่ยนยางรอบถัดไป ซึ่งมีส่วนช่วยลดขยะจากการเปลี่ยนยางบ่อยเกินความจำเป็น และเมื่อยางสิ้นอายุเราออกแบบมาด้วยวัสดุที่สามารถนำกลับมา Recycle หรือ Reuse ได้ ซึ่งอาจจะมีตัวที่เป็นกากอุตสาหกรรมบ้าง แต่เราก็มีพาร์ตเนอร์ที่รับไปกําจัดอย่างเหมาะสมในกระบวนการที่สมบูรณ์  

ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า เราคํานึงและลงทุนในเรื่องความยั่งยืนอย่างเต็มรูปแบบ เราทำสิ่งนี้เพื่อผู้บริโภค เพื่อสิ่งแวดล้อม และเพื่อโลกของเราทุกคน”

การเคลื่อนที่ไปได้ไกลกว่า เพื่อความยั่งยืนของโลกและมนุษยชาติ 

Marketeer ได้หยอดคำถามถึงนิยามของประโยคที่ว่า “ยางล้อจะทำให้เราเคลื่อนที่ไปได้ไกลแค่ไหน” ในมุมมองของมิชลินคืออะไร คุณสรพงษ์ได้ตอบว่า คือ “การเคลื่อนที่ไปได้ไกล” ซึ่งหมายถึง “ความยั่งยืนของโลกและมนุษย์” ที่มิชลินดำเนินแนวทางความยั่งยืนทุกอย่างครบลูปจริง ๆ ทั้ง People, Profit, Planet และไปด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์ 

“เราลงลึกไปในทุก ๆ หลายละเอียดของการดำเนินการทั้งภายในและภายนอก People ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องสามารถที่จะเติบโตไปด้วยกันได้ Profit แม้เราจะดำเนินการหลาย ๆ อย่างที่มีต้นทุนสูง แต่เราต้องสามารถขายสินค้าและขายคุณค่าได้ในที่เหมาะสม Planet ก็เช่นที่กล่าวไปข้างต้นคือเรื่องของนวัตกรรมความยั่งยืน ที่ออกแบบให้มีผลกระทบต่อโลกให้น้อยที่สุด 

ยกตัวอย่างหนึ่งที่เมื่อเราพูดถึง People-Profit-Planet รวมเป็นเรื่องเดียวกัน มันเกิดขึ้นอย่างไร อย่างเช่น ล่าสุดแบรนด์ในเครือมิชลินเปิดตัวยางใหม่ ‘BFGOODRICH ALL-TERRAIN T/A KO3’ เป็นรุ่นที่ต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้าหรือ รุ่น KO2 สำหรับสาย Off Road รุ่นนี้ผลิตที่ไทยเป็นหลักแทนการนำเข้าแบบ KO2 แน่นอนว่าช่วยเรื่อง Planet ชัดเจนมากเพราะไม่ต้องขนส่ง ลดมลพิษ ประหยัดพลังงาน และเสริมเรื่อง Profit ทางธุรกิจได้เพราะลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าระยะไกลได้มาก

อีกทั้งส่งผลต่อไปถึงราคา ที่เราสามารถตั้งราคาให้กับผู้คนในตลาดได้อย่างเหมาะสม  People ก็ได้ประโยชน์ตรงนี้ไปด้วย ซึ่งยังรวมไปถึง People ที่ไม่ใช่ผู้ใช้ หมายถึง พนักงานฝ่ายผลิตของเรา ก็ได้ทักษะที่มากขึ้น ในการร่วมพัฒนาการผลิตยางชั้นนำระดับโลก เมื่อคนไทยมีทักษะมากขึ้นเขาจะเติบโต ก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากขึ้น เปิดโอกาสในการเรียนรู้งานใหม่ในต่างประเทศ ช่วยยกระดับวิศวกรและสายการผลิตจากเมืองไทยได้อีกทางหนึ่ง นี่เป็นแค่ตัวอย่างง่าย ๆ ถึงการดำเนินการ โดยนึกถึงการสร้างคุณค่าและผลกระทบในภาพใหญ่อย่างรอบด้านเพื่อความยั่งยืนในทุก ๆ ด้านตามแนวคิดของมิชลินในทุกประเทศทั่วโลก 

นอกจากนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของโลกใบนี้ เรายังมีนวัตกรรมอวกาศสำหรับการขับเคลื่อนในอนาคต ที่ถูกนำเสนอในแคมเปญ On the Road and Beyond!  จริง ๆ มิชลินทำงานร่วมกับ NASA มานานในฐานะผู้จัดหายางเพียงรายเดียวสำหรับกระสวยอวกาศดังที่กล่าวไป ซึ่ง NASA มีความตั้งใจที่จะสำรวจดวงจันทร์ให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น

และมันเป็นความท้าทายให้เราผลิตยางที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกการเดินทางนอกอวกาศที่มีความผันผวน ทั้งทางพื้นผิวและอุณหภูมิที่คาดเดาไม่ได้ เพื่อปูทางส่งต่อไปยังการพัฒนานวัตกรรมในโปรเจกต์อื่น ๆ ตลอดจนโปรเจกต์ในการที่จะทำให้คนใช้ชีวิตอยู่บนดวงจันทร์หรือดาวอังคารได้ระยะเวลานานขึ้น และด้วยศักยภาพนวัตกรรมและเทคโนโลยีของมิชลิน เรามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้รับมอบหมายได้ และเราจะไม่หยุดคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับมวลมนุษยชาติอย่างยั่งยืนต่อไป”

ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ “มิชลิน” ได้ที่: https://www.facebook.com/MichelinThailand

ค้นหานวัตกรรมใหม่ ๆ จาก “มิชลิน” ได้ที่: https://bit.ly/3YhSRzE

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer