ในประเทศที่ประชากรมีมากกว่า 1.4 พันล้านคน แต่โอกาสมีอยู่อย่างจำกัด ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่การแข่งขันจะสูงตามไปด้วย และการแข่งขันที่หนักหน่วงก็มีอยู่ทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่ ‘วงการบันเทิง’ อันได้ชื่อว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มอบความอภิรมย์แก่ผู้คน

วงการที่สร้างเสียงหัวเราะ มอบความสุข สนุกสนาน ที่ฉายให้เห็นความรื่นรมย์ งดงาม ชวนฝัน กลับกลายเป็นเพียงฉากหน้าที่สะท้อนผ่านหน้าจอโทรทัศน์  ใครเลยจะกล้าเผยมุมอันรันทด โหดร้าย การกลั่นแกล้ง ทารุณกรรม ข้อเท็จจริงเหล่านี้ล้วนถูกเหยียบไว้ใต้พรม

ข่าวของ “Zhao Lusi” ซูเปอร์สตาร์สาวชาวจีนที่มีชื่อเสียงทั่วเอเชีย เพื่อนสนิทของเธอได้ออกมากล่าวอ้างว่า ลู่ซือถูกทารุณกรรมและบูลลี่จากทีมงาน ตั้งแต่ช่วงปี 2019 ซึ่งขณะนั้นเธออายุเพียง 20 ปี ทีมงานคนนั้นได้ด่าทอและทุบตีลู่ซือด้วยเหตุผลเพียงว่า เธออ้วนทำให้แคสงานไม่ผ่าน กลายเป็นปมฝังลึกในจิตใจ จนค่อย ๆ ทำให้เธอกลายเป็นโรคซึมเศร้า โรคนี้ทำให้ร่างกายลู่ซืออ่อนแอลง ป่วยง่าย เป็นสารตั้งต้นให้เกิดโรคอื่นตามมา ซึ่งล่าสุด เธอมีอาการ  conversion disorder ถึงขั้นสูญเสียการทรงตัว พูดไม่ได้ ต้องหัดเดิน หัดใช้ช้อนรับประทานอาหาร แต่ผู้ก่อเหตุคนดังกล่าวกลับไม่เคยได้รับการลงโทษ และยังมีหน้าที่การงานที่ดี ทำให้เกิดการถกเถียงในวงกว้าง จนกลายเป็นข่าวใหญ่เขย่าอุตสาหกรรมบันเทิงจีนรับปีใหม่

กรณีของจ้าวลู่ซือเป็นการเปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวของเพื่อนสนิท เนื่องจากลู่ซือไม่สามารถเข้าใช้งานแอคเคาต์ของตัวเองได้เพราะบริษัทควบคุมบัญชีของเธอ ซึ่งการออกมาเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวทำให้ชื่อของจ้าวลู่ซือติดคำค้นหาเป็นประเด็นฮอตปีใหม่

จะเป็นดวงดาวเจิดจรัส Vs อับแสง มีเส้นบาง ๆ กั้นอยู่

สะท้อนปัญหาระดับชาติ เพราะอุตสาหกรรมบันเทิงจีนเต็มไปด้วยความกดดัน คนที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดได้ต้องแตกต่างและโดดเด่นจากกลุ่มคนเป็นพันล้าน  ต้องมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ทั้งความสามารถ เสน่ห์ รูปลักษณ์ การสนับสนุนจากค่ายใหญ่  ด้วยการแข่งขันที่สูง เดิมพันที่ได้รับก็มากตามไปด้วย  หากประสบความสำเร็จผลตอบแทนที่ได้รับจะมีค่ามหาศาล

แต่การเป็นคนดังในวงการบันเทิงจีนไม่ง่าย ต้องยอมแลกชีวิตส่วนตัวไปเลย เพราะคนที่จะขึ้นมาอยู่ในระดับซูเปอร์สตาร์ได้ ต้องเพียบพร้อมทั้งรูปร่าง หน้าตา กิริยา ความสามารถ บารมี บางคนต้องรักษาน้ำหนักไม่ให้เกิน 39 กิโลกรัม ต้องผอมเพรียว รักษารอบเอวให้ 23 นิ้วตลอด  ไปทำศัลยกรรมก็ต้องห้ามถูกจับได้ ความสวยต้องห้ามดรอปมิฉะนั้นความนิยมจะลดลงทันที จากมนุษย์กลายเป็นสินค้า เอเจนซีก็พยายามจะดูแลศิลปินราวกับเป็นเครื่องจักรให้ความบันเทิง สั่งศิลปินห้ามน้ำหนักขึ้น ห้ามแสดงความรู้สึก จะทำอะไรก็ต้องผ่านการอนุมัติจากค่ายก่อน

ที่ต้องเป็นเช่นนั้นเพราะการแข่งขันในวงการนี้มีสูง ผิดพลาดเพียงนิดจะมีคนใหม่มาแทนที่คุณทันที ซึ่งการที่วงการอยู่ภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์อีกทีนั้น ยังส่งผลให้ศิลปินต้องระมัดระวังการวางตัวทุกฝีก้าว ตัวอย่างเช่น “ฟ่านปิงปิง” ปมเลี่ยงภาษี ก็ถูกรัฐสั่งเชือดใช้อำนาจสั่งแบนจากหน้าจอ จนเกือบไม่มีที่ยืนในสังคม เพราะทำตัวขัดกับนโยบายที่พยายามปลูกฝังเรื่องคอร์รัปชัน จากซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของจีน ต้องกลายเป็นคนที่ถูกคนทั้งประเทศก่นด่า 

หรือจะเป็นกรณี “จางเจ๋อฮั่น” พระเอกดัง โพสต์รูปเว่ยป๋อ ที่เจ้าตัวอยู่ในศาลเจ้ายาสุคุนิประเทศญี่ปุ่น

เพียงโพสต์เดียวทำให้ชีวิตเขาดำดิ่งในทันที เพราะศาลเจ้าดังกล่าวเป็นที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การรบระหว่างจีน-ญี่ปุ่น ชาวเน็ตจึงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาไม่รักชาติ กระแสร้อนแรงจนหลายแบรนด์สินค้าต้องประกาศยุติการร่วมงานกับเจ๋อฮั่นทันที จากพระเอกขวัญใจ ก็ติดแบล็กลิสต์ทางการถูกแบนตลอดชีพทันที

ความบันเทิง ภายใต้ ความกดดัน จากระบอบคอมมิวนิสต์

คนบันเทิงต้องเผชิญการแข่งขันที่หนักหน่วงไม่พอ ยังถูกกดทับด้วยระบอบคอมมิวนิสต์อีกชั้น  บทเพลง หนัง ซีรีส์ กลายเป็นเครื่องมือของพรรคในการสร้างค่านิยมตามนโยบายรัฐบาล ตัวอย่างมีช่วงหนึ่งที่จีนมีซีรีส์เกี่ยวกับตำรวจทหารออกฉายหลายเรื่องติดกัน  และในซีรีส์จะวางคาแรกเตอร์ให้ตัวเอกเป็นเจ้าหน้าที่ผู้กล้าหาญ รักชาติ  เคารพกฎหมาย เสียสละตนเพื่อผู้อ่อนแอกว่า พร้อมทั้งโชว์ความก้าวหน้าของยุทโธปกรณ์ทางการทหาร ก็เพื่อกล่อมให้ประชาชนอยู่ในกรอบสังคมที่รัฐบาลต้องการ

“ศิลปะต้องรับใช้ประชาชนและรับใช้สังคมนิยม” สี จิ้นผิง เคยกล่าวในงานประชุมศินปินแห่งชาติครั้งใหญ่

แม้จีนจะพยายามเลียนแบบกลยุทธ์ซอฟต์เพาเวอร์เกาหลี ทั้งการผลิตนักร้อง วงไอดอล ซีรีส์พรีเซนต์จีนให้ละมุน แต่สิ่งหนึ่งที่จีนเลียนแบบไม่ได้คือ ‘เสรีภาพ’  

เสรีภาพแก่การผลิตผลงาน เสรีภาพด้านความคิดสร้างสรรค์  เราจึงจะเห็นว่าพลอตเรื่องจีนมีแต่ความซ้ำเดิม ไม่ทำแฟนตาซี ย้อนยุค ปราบมาร ก็ต้องทำเรื่องโรแมนติก ความรักหนุ่มสาว วนอยู่อย่างนั้น ขาดความสดใหม่ จิกกัดสังคม จะไม่มีพลอตฉีกแบบเกาหลี อาทิ เล่าความเน่าเฟะของระบบการเมืองกินรวบ แฉการคอร์รัปชันวงการสีกากี อะไรที่ไม่ส่งเสริมภาพลักษณ์รัฐบาล จีนจะไม่อนุมัติให้ฉายเลย

ตัวอย่างซีรีส์ที่จีนยกให้เป็นละครโทรทัศน์ยอดเยี่ยม “The Age of Awakening” ก็บอกเล่าแต่ด้านดีเกี่ยวกับการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือภาพยนตร์เรื่อง “The Battle of Lake Changjin” ก็เกี่ยวกับการแทรกแซงของจีนในสงครามเกาหลี 

จีนเสิร์ฟ จีนป้อน 

ในตอนต้นจีนอาจจะต้องการทำอุตสาหกรรมบันเทิงของตัวเองเสิร์ฟคนในประเทศก่อน แต่เมื่อเห็น Case Success ของเกาหลี จึงปรับมาส่งออกบ้าง แม้จะยังแข่งกับบันเทิงตะวันตกได้ยาก แต่ถือว่าประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ไม่น้อย โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เริ่มเห็นว่าซีรีส์จีนแผ่อิทธิพลในอาเซียนแข่งกับเกาหลีใต้แล้ว

ช่วงปี 2021 หน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้ออกเอกสารหลายฉบับที่มีวัตถุประสงค์ กำหนดมาตรฐานการผลิตสินค้าทางวัฒนธรรมใหม่ รวมถึงตีกรอบบุคคลสาธารณะให้ต้องอยู่ในหลักจริยธรรม  เช่น รักมาตุภูมิและสนับสนุนแนวพรรค รับใช้ลัทธิสังคมนิยม ไม่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของชาติ และไม่มีส่วนร่วมในการโฆษณาที่ทำให้เข้าใจผิด

อย่างไรก็ตาม ยังมีคำสั่งส่วนตัวอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การรักษาภาพลักษณ์ที่ดี การไม่เสพยา และการไม่มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงและอนาจาร ด้วยเหตุผลดังกล่าว ในช่วงปี 2021 จึงมีดาราดังจีนถูกเชือดไก่ให้ลิงดู  เช่น เจิ้งซวงถูกปรับและถูกขึ้นบัญชีดำฐานฉ้อโกงภาษี ในขณะที่คริสวู อดีตสมาชิกวง exo ถูกแบนหลังเผชิญคดีล่วงละเมิดทางเพศ 

และข้อกำหนดที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมบันเทิงจีนมากที่สุด เห็นจะเป็นกฎระเบียบ 8 ประการที่ออกโดยสำนักงานวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติ  ที่สั่งให้ผู้ออกอากาศต่อต้าน ‘สุนทรียภาพที่ผิดปกติ’ และสนับสนุนวัฒนธรรมดั้งเดิม การปฏิวัติ หรือสังคมนิยมขั้นสูง

เนื้อหาความบันเทิงใดที่ขัดต่อนโยบายรัฐ จะถูกลบจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปต่าง ๆ ทันที เนื่องจากจะมีหน่วยงานเฝ้าระวังทางวินัยคอยควบคุมอยู่โดยเฉพาะ ทุกอย่างจะต้องสอดคล้องกับยุคสีจิ้นผิงสังคมนิยมใหม่


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer