Market Targeting หรือ การกำหนดตลาดเป้าหมาย หมายถึงกระบวนการเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่องค์กรต้องการมุ่งเน้นไปให้บริการหรือจำหน่ายสินค้า โดยพิจารณาจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการแบ่งส่วนตลาด (Market Segmentation) การกำหนดเป้าหมายนี้ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างกลยุทธ์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของMarket Targeting

  1. เพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
    การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมช่วยให้องค์กรสามารถมุ่งเน้นทรัพยากรและกลยุทธ์ไปที่กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพสูงสุดในการสร้างรายได้และความภักดีต่อแบรนด์
  2. ช่วยลดต้นทุน
    การมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะทำให้องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดที่ไม่จำเป็นลง และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)
  3. สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
    องค์กรที่สามารถเข้าใจและตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดจะสามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด
  4. ปรับปรุงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การตลาด
    การกำหนดตลาดเป้าหมายทำให้การวางแผนกลยุทธ์การตลาดมีความชัดเจนและเจาะจงมากขึ้น เช่น การเลือกช่องทางการสื่อสาร การกำหนดราคา หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์

ประเภทของMarket Targetingตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
Market Targetingสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ได้ดังนี้:

  1. Undifferentiated Targeting (การตลาดไม่แบ่งแยก)
    แนวคิดนี้ใช้เมื่อองค์กรเลือกที่จะไม่แบ่งกลุ่มลูกค้า แต่เสนอสินค้าและบริการแบบเดียวกันให้กับตลาดทั้งหมด โดยมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการทั่วไปของผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
  2. Differentiated Targeting (การตลาดแบ่งแยก)
    เป็นการเลือกหลายกลุ่มเป้าหมายและพัฒนากลยุทธ์เฉพาะสำหรับแต่ละกลุ่ม ตัวอย่างเช่น บริษัทเครื่องสำอางที่ผลิตสินค้าหลายประเภทเพื่อเจาะตลาดทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่
  3. Concentrated Targeting (การตลาดเน้นกลุ่มเดียว)
    เป็นการมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายเพียงกลุ่มเดียวที่มีศักยภาพสูงสุด วิธีนี้เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจที่มีทรัพยากรจำกัด
  4. Micromarketing (การตลาดรายบุคคล)
    ในยุคปัจจุบัน การตลาดแบบรายบุคคลได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับแต่งสินค้าและบริการให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ตัวอย่างเช่น การใช้ข้อมูลจากแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสร้างข้อเสนอที่เฉพาะเจาะจง
  5. Behavioral Targeting (การตลาดตามพฤติกรรม)
    แนวคิดนี้ใช้ข้อมูลจากพฤติกรรมการซื้อและการใช้งานของลูกค้า เช่น ประวัติการซื้อหรือการเข้าชมเว็บไซต์ เพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสสูงในการตอบสนองต่อการตลาด

วิวัฒนาการของ Market Targeting

  • ยุคเริ่มต้น: การตลาดไม่แบ่งแยก (Undifferentiated Targeting) เป็นวิธีที่นิยมในยุคแรก ๆ เนื่องจากตลาดยังไม่ซับซ้อน
  • ยุคต่อมา: มีการใช้การตลาดแบ่งแยก (Differentiated Targeting) และการตลาดเน้นกลุ่มเดียว (Concentrated Targeting) เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น
  • ยุคดิจิทัล: ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น Big Data และ AI การตลาดแบบ Micromarketing และ Behavioral Targeting ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้ในระดับรายบุคคล

สรุป
Market Targetingเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมและสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ การปรับตัวให้เข้ากับวิวัฒนาการของแนวคิดนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างความได้เปรียบและตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน ♦

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer