สยาโม ทำความรู้จักสาวน้อยหัวใจวินเทจ จากเด็กต่างจังหวัด บ้านล้มละลาย สู่ TikTok Star ผู้คว้ารางวัล TikTok Creator of the Year 2024

“หนูเองก็ไม่คิดค่ะ ว่าจะได้เป็น CEO ตอนอายุ 23” น้ำเสียงใส ๆ ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจดังขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มของ “สยาโม” ชื่อที่คุ้นหูใครหลายคนในโลกโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม TikTok สาวน้อยหัวใจวินเทจวัย 23 ปี เจ้าของช่อง “สยาโม” ผู้ติดตาม 3 ล้าน กำลังเริ่มเล่าเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของเธอให้เราฟัง

จากเด็กสาวต่างจังหวัดที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากทางการเงิน “บ้านล้มละลาย” ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวย้ายมาใช้ชีวิตคนเดียวในกรุงเทพฯ สยาโมกลับกลายมาเป็น TikTok Star ที่มีผู้ติดตาม 3 ล้านคน เธอเป็นที่สนใจในการทำคอนเทนต์ย้อนยุค แต่งตัวโบราณรุ่นคุณยาย พุ่งทะยานสู่ยอดวิวล้านแตกในชั่วข้ามคืน

และล่าสุดเธอสามารถคว้ารางวัล TikTok Creator of the Year 2024 ในหมวด Beauty and Fashion มาครองได้สำเร็จ

เรื่องราวชีวิตเปรียบเสมือนนิยายชีวิตที่น่าทึ่งเล่มหนึ่ง ใครจะไปรู้กว่าจะมาเป็นสยาโมทุกวันนี้ เธอเองก็ผ่านบทเรียนชีวิตที่แสนราคาแพงมาไม่น้อย

ชวนมาถอดรหัสเรื่องราวเส้นทางชีวิตของผู้หญิงที่ชื่อว่า “สยาโม” ไปพร้อมกัน

วัยเด็กที่เต็มไปด้วยความฝัน

สยาโม หรือชื่อจริง สยาภา สิงห์ชู ชื่อเล่น “แตงโม” เกิดและเติบโตในจังหวัดกระบี่ในครอบครัวอบอุ่น หัวใจลูกทุ่ง ที่บ้านทำธุรกิจอู่ซ่อมรถและขายอะไหล่รถยนต์ ถือว่ามีกินมีใช้ระดับหนึ่ง

“คือตั้งแต่เด็กแล้วหนูมีความฝันอยากเป็นนักร้อง หรือดาราค่ะ” สยาโมเข้าศึกษาอยู่ในโรงเรียนประจำอำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดกระบี่ และเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรมร้องเพลงตั้งแต่เด็ก มักจะเป็นดาวเด่นในหมู่เพื่อน ๆ มีคุณครูคอยผลักดันให้ร่วมเวทีการประกวดอยู่หลายครั้ง เธอเล่าว่าชีวิตของเธอเต็มไปด้วยเสียงเพลงมาตั้งแต่เด็กเพราะคุณพ่อชอบร้องเพลง แต่ถึงแม้คุณแม่จะร้องเพลงไม่ได้แต่ก็ฟังเก่งสามารถคอมเมนต์ได้ เพลงลูกทุ่งวนเวียนในหัวเธอซ้ำ ๆ เพราะคุณพ่อชอบเปิดให้ฟัง ที่ฟังและร้องบ่อยสุดคือเพลงของ แม่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ และชอบแต่งตัวเลียนแบบนักร้องลูกทุ่งสมัยก่อน ก็แม่ผึ้งนี่แหละ เรียกว่าเป็นไอดอลต้นแบบของคอนเทนต์การแต่งวินเทจของสยาโมในตอนนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยความสามารถด้านร้องเพลงนี้ สาวน้อยในวัย 13 ปี ณ ตอนนั้น สามารถพาตัวเองเข้าร่วมการประกวด The Voice Kids ตั้งแต่ปี 2016 เข้าไปถึงในรอบ Semi-Final ได้ด้วย

วิกฤตบ้านล้มละลายสู่ทางเลือกชีวิตใหม่

สีสันความสุขในวัยไร้เดียงสามันช่างสั้นเหลือเกิน เมื่อเธออายุได้เพียง 15 ปี ที่บ้านต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ธุรกิจครอบครัวประสบปัญหา “ล้มละลาย” พ่อแม่ตัดสินใจแยกทางกัน เธอต้องเลือกระหว่างอยู่กระบี่กับคุณพ่อ หรือ ไปอยู่เพชรบุรีกับคุณแม่ แต่เธอกลับตัดสินใจย้ายมาเรียนต่อในกรุงเทพฯ อาศัยคนเดียวในห้องเช่าเล็ก ๆ โทรม ๆ ได้รับการส่งเสียจากพ่อแท้ ๆ เดือนละไม่กี่บาทพอประทังชีวิต นี่คือบททดสอบที่สำคัญในชีวิตของเธอ

“ตอนนั้นรู้สึกกลัวและกังวลมาก แต่ต้องพยายามอยู่ให้ได้ ประหยัดให้ถึงที่สุด เพราะแต่ละเดือนเรามีเงินน้อย” สยาโมเล่าถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต “การได้มาอยู่คนเดียวในเมืองใหญ่ทำให้ต้องเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเอง และรับผิดชอบต่อชีวิตของตัวเองมากขึ้น”

“ทำไมเด็กอายุ 15 จากต่างจังหวัดถึงกล้าตัดสินใจมาใช้ชีวิตคนเดียวในเมืองใหญ่” เสียงนักข่าว Marketeer online ถามออกไปด้วยความสงสัย

“เพราะหนูมองเห็นโอกาสค่ะ หนูมองเห็นนักร้องเก่ง ๆ หนูมองเห็นคนประสบความสำเร็จอีกมากมาย และหนูเชื่อว่าจะไปถึงจุดนั้นได้” สยาโมตอบด้วยความมั่นใจ พร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ เธอยังบอกอีกว่าครั้งแรกที่เธอคิดแบบนี้คือ สมัยที่เธอมาประกวด The Voice Kids เธอได้เห็นเด็กหรือผู้คนมากมายได้รับโอกาสจากจุดนี้ และเชื่อเหลือเกินว่าเมืองศิวิไลซ์ที่เธอเลือกเดินนี้จะมอบโอกาสสำคัญมาให้ในเร็ววัน การตัดสินใจด้วยหัวใจที่เด็ดเดี่ยวและเปี่ยมด้วยความหวังนั้นเอง ไม่นานเส้นทางความฝันก็ได้เริ่มต้นขึ้นจากนี้

จากเวทีประกวดที่ยากสำเร็จ สู่โลก TikTok Star

ความรักในเสียงเพลงเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสยาโมมาตั้งแต่เด็ก การเข้าร่วมประกวดรายการ The Voice ทั้งในรุ่นเด็กและรุ่นผู้ใหญ่ ตอนสมัยเรียนมัธยมปลายที่กรุงเทพฯ ครั้งหนึ่งก็ได้กลับมาประกวด The Voice Thailand 2018 อีกครั้ง จนเข้าสู่รอบ Final ด้วยจุดเด่นในการร้องเพลงสไตล์ไทยเดิมร่วมสมัย และเริ่มมีผลงานเพลงมากขึ้นด้วย

ถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จในระดับที่หวังไว้ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่เปิดโลกทัศน์ให้เธอได้รู้จักกับวงการบันเทิงมากขึ้น

หลังจากเรียนจบ ม.ปลาย เข้ามหาวิทยาลัยศิลปากร สาขาธุรกิจดนตรี และบันเทิง

สยาโมก็หันมาทำคอนเทนต์บน TikTok ตอนเรียนอยู่ปี 2 ในการทำคลิปแรก คือคลิปร้องเพลง cover ไปเรื่อย ๆ ยังไม่มีคนดู

จนกระทั่งมาถึงคลิปที่เป็นตัวจุดประกาย คือด้วยความที่เธอชอบแต่งตัววินเทจ ชอบสินค้ามือสองอยู่แล้วเลยนึกสนุกอัดคลิปตัวเองแต่งวินเทจย้อนวัยสมัยคุณย่า และดัดผมหยิกทรงผมยอดฮิตในยุคแม่ ๆ ที่เคยผ่านกันมา แล้วใส่เพลงย้อนยุคของแม่ผ่องศรี วรนุช โดยไม่คิดอะไร กลายเป็นว่าคลิปนั้นผ่านไป 1 วันคนดูพุ่ง 3 ล้าน มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ห

ลังจากนั้นชื่อ สยาโม ก็เป็นที่พูดถึง ดังเปรี้ยงในชั่วข้ามคืน คอนเทนต์เกี่ยวกับสาวน้อยแฟชั่นวินเทจ หนึ่งเดียวใน TikTok จึงถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่นั้น

ความยั่งยืนของความเป็นตัวตน “สยาโม” ในยุคโซเชียล

“จะคงความเป็นสยาโมไปได้อีกนานแค่ไหน?” ในยุคที่โซเชียลมาไวไปไว ดังได้ก็ดับได้ สองปีที่ผ่านมา สยาโมได้สร้างสรรค์คอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง จนมีผู้ติดตามกว่า 3 ล้านคน ความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นและความตั้งใจของเธอในการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นตัวของตัวเอง เพราะ…

ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ

“ช่วงแรก ๆ ที่ทำ TikTok หนูต้องลงคลิปทุกวันเลยค่ะ ถึงแม้ว่าบางทีจะคิดคอนเทนต์ไม่ออกก็ตาม เพราะอยากให้คนได้เห็นผลงานของหนูบ่อย ๆ” สยาโมเล่าถึงช่วงเวลาเริ่มต้นการเป็นครีเอเตอร์

ความสม่ำเสมอในการโพสต์คลิปเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่ง ทำให้ผู้ชมคุ้นเคยกับสไตล์และคาแรกเตอร์ของสยาโมมากขึ้น และกลับมาติดตามผลงานใหม่ ๆ ของเธออยู่เสมอ และ …

ความเป็นตัวของตัวเอง คือจุดแข็งที่ยั่งยืน

แม้ว่ากระแสบนโลกโซเชียลจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็คือความเป็นตัวของตัวเอง สยาโมเลือกที่จะสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่สะท้อนตัวตนที่แท้จริงของเธอ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ หรือการนำเสนอเรื่องราวที่เป็นไลฟ์สไตล์ส่วนตัว

“หนูว่าสิ่งที่ทำให้คนติดตามหนูก็คือความต่างนี่แหละค่ะ หนูไม่ได้พยายามที่จะเป็นแบบใคร ทำคอนเทนต์ที่เป็นตัวของหนูเอง คิดว่าคนรักหนูจากตรงนี้” สยาโมกล่าว

หนูไม่ได้พยายามที่จะเป็นแบบใคร ทำคอนเทนต์ที่เป็นตัวของหนูเอง คิดว่าคนรักหนูจากตรงนี้”

รางวัลที่น่าภูมิใจ กลับมาพร้อมกับดราม่า

ถึงแม้ สยาโม อาจจะไม่ค่อยจะประสบความเร็จในด้านการร้องเพลงสักเท่าไร แต่การตัดสินใจมาทำคอนเทนต์บน TikTok เปลี่ยนชีวิตของสยาโมไปอย่างสิ้นเชิง คลิปวิดีโอของเธอได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และทำให้เธอมีผู้ติดตามหลายล้านคนทั่วโลก ล่าสุดเธอได้คว้ารางวัล TikTok Creator of the Year 2024 ของ TikTok Awards ในหมวดรางวัล Beauty and Fashion ไปครอง

หลังจากได้รับรางวัล TikTok Creator of the Year 2024 สยาโมก็ต้องเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์และดราม่าต่าง ๆ ในกระแสที่ว่า “สยาโมไม่เหมาะกับรางวัลนี้”

“ตอนแรกก็รู้สึกเสียใจ ร้องไห้ และท้อแท้เหมือนกันค่ะ แต่พอได้อ่านคอมเมนต์ที่แฟน ๆ ส่งมาให้กำลังใจ ก็ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาเยอะเลยค่ะ” สยาโมเล่าความรู้สึกในช่วงเวลานั้น

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา สยาโมได้เรียนรู้ที่จะเข้มแข็งมากขึ้น และรู้จักที่จะรับมือกับความกดดันต่าง ๆ “หนูคิดว่าทุกคนต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ค่ะ แต่สิ่งสำคัญคือเราจะรับมือกับมันยังไง เพราะคนเราไม่สามารถทำให้ทุกคนบนโลกถูกใจเราได้ทั้งหมด…”

จาก TikToker สู่ CEO บริษัทของตัวเอง

“หนูเองก็ไม่คิดค่ะ ว่าจะได้เป็น CEO ตอนอายุ 23” ความสำเร็จบน TikTok ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ สยาโมยังก้าวขึ้นมาเป็น CEO ของบริษัทของตัวเอง คือ บริษัท สยาโม จำกัด การเป็น CEO เป็นบทเรียนในคัมภีร์เล่มใหม่ที่เธอกำลังเรียนรู้โลกของธุรกิจอีกมากมาย ทั้งเรื่องการบริหารจัดการ การตลาด และการเงิน โดยนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการทำคอนเทนต์มาต่อยอด

นอกจากนี้ เธอยังมีโอกาสได้แสดงเป็นนางเอกเอ็มวีเพลงดัง และมีผลงานเพลงร่วมกับค่ายเพลงชั้นนำอย่าง Sony Music อีกด้วย

ไม่คิดว่า TikTok จะเป็นช่องทางสร้างรายได้หลัก

“หนูจำได้ว่าหนูเคยรับงานรีวิวแค่คลิปละ 1,000 บาท จนตอนนี้รับงานอยู่ที่คลิปละ 80,000-90,000 บาทแล้วค่ะ” สยาโมกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ ความสามารถและชื่อเสียงเพิ่มขึ้น ค่าตัวก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย สินค้าที่เข้ามาให้เธอรีวิว ส่วนใหญ่ค่อนข้างกว้าง มีทุกรูปแบบ เฉลี่ยเดือนหนึ่งมีประมาณ 10-20 งาน 80% ของรายได้หลักมาจากการเป็นครีเอเตอร์ใน TikTok บางคนเขาอาจจะมองว่าเรตราคานี้แพงเกินไปหรือไม่ สยาโมยิ้มแล้วบอกกับเราว่า

“8-9 หมื่นหนูมองว่ามันคุ้มค่า เราไม่ได้ทำแค่คลิป 1 นาทีจบ แต่เราต้องคิดค่าออกแบบ เราใช้ไอเดียกว่าจะคิดออกมา ไหนจะค่า Branding เพราะทุกอย่างย่อมมีมูลค่า และมีต้นทุนค่ะ” สยาโมค่อย ๆ แจกแจงรายละเอียดที่ควรคำนึงให้ฟัง

รายได้/ค่าตัวไม่ใช่สิ่งที่เราต้องมานั่งเกรงใจ แต่มันคือสิ่งที่เราควรได้”

 

แรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ

เมื่อถามถึงไอดอลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับสยาโมมากที่สุด คำตอบที่ได้คือ “แม่พุ่มพวง ดวงจันทร์” นักร้องลูกทุ่งระดับตำนาน

“หนูรู้สึกว่าแม่พุ่มพวงกับหนูมีอะไรที่คล้ายกันนะคะ คือต่างก็เป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาสู่เมืองหลวง แล้วก็ประสบความสำเร็จได้ด้วยความสามารถของตัวเอง” สยาโมเล่าถึงความชื่นชมที่มีต่อแม่พุ่มพวง

“แม่พุ่มพวงเปลี่ยนวงการเพลงลูกทุ่งไปเลยนะคะ ทำให้คนทั่วประเทศหันมาสนใจเพลงลูกทุ่งมากขึ้น หนูก็อยากเป็นแบบแม่พุ่มพวง อยากสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ที่เป็นของตัวเอง”

ต่อมาคือ รวิศ หาญอุตสาหะ: กูรูที่จุดประกายความคิด

ชื่อนี้ฟังดูไปคนละทางกับแม่พุ่มพวงโดยสิ้นเชิง แต่นอกจากแม่พุ่มพวงแล้ว สยาโมยังได้แรงบันดาลใจจาก รวิศ หาญอุตสาหะ CEO แบรนด์ศรีจันทร์ และครีเอเตอร์พอดแคสต์สร้างแรงบันดาลใจที่กำลังมาแรงเช่นกัน

“หนูชอบฟังพอดแคสต์ของพี่รวิศมากเลยค่ะ คำพูดของพี่เขาเหมือนเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้หนูเลย” สยาโมเล่า “พี่รวิศสอนให้หนูรู้จักคิดวิเคราะห์ และกล้าที่จะลงมือทำ”

สยาโมบอกว่า การฟังพอดแคสต์ของพี่รวิศทำให้เธอเข้าใจเรื่องธุรกิจมากขึ้น และเป็นแรงผลักดันให้เธอกล้าที่จะเปิดบริษัทของตัวเอง

เป้าหมายในอนาคต

เมื่อถามถึงเป้าหมายในอนาคต สยาโมตอบอย่างมั่นใจว่า “หนูอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองค่ะ อยากสร้างแบรนด์ที่คนรู้จักและจดจำ”

“หนูคิดว่าการเป็น TikToker มันก็เหมือนกับการเป็นนักแสดงคนหนึ่ง เราต้องมีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา และเมื่อถึงจุดหนึ่งกระแสอาจจะเปลี่ยนไป แต่ถ้าเรามีธุรกิจเป็นของตัวเอง เราก็ยังสามารถสร้างรายได้และดูแลครอบครัวได้”

เพราะแรงบันดาลใจจากอดีต

แรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจของสยาโมมาจากประสบการณ์ในวัยเด็กที่ต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงิน “หนูไม่อยากให้ครอบครัวต้องลำบากอีกแล้วค่ะ การมีธุรกิจเป็นของตัวเองจะทำให้หนูมีรายได้ที่มั่นคง และสามารถดูแลครอบครัวได้อย่างสบายใจ” สยาโมกล่าวทิ้งท้าย

“ดราม่าในชีวิต ทำลายความสดใสของเธอคนนี้ไม่ได้เลยจริงๆ” ความคิดที่ผุดขึ้นในหัวของเรา หลังจากสัมภาษณ์น้องสยาโมเสร็จสิ้น สิ่งที่สัมผัสได้จากตัวของเธอ คือ ความคิดของความเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่พร้อมเดินไปข้างหน้า จากเด็กสาวที่เคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก สยาโมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความสำเร็จไม่ได้มาง่าย แต่ถ้าเรามีความพยายามและไม่ย่อท้อ ความฝันของเราก็สามารถเป็นจริงได้

สไตล์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ ความมุ่งมั่น และความไม่ยอมแพ้ คือกุญแจสำคัญนำพาผู้หญิงที่ชื่อ สยาโม มาสู่ความสำเร็จในทุกวันนี้

แล้วคุณล่ะ ชอบอะไรที่สุดในเรื่องราวของสยาโม?

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer