Midea ตั้งเป้ายอดขาย 3.8 พัน ลบ. เติบโตบนตำแหน่งลูกค้าเดิม แต่ถึงเวลาสร้างตัวตนในโลกออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ขยาย Brand awareness คนรุ่นใหม่ กลุ่มขับเคลื่อนผู้บริโภคขนาดกลาง ตลาดหลักของแบรนด์
ตลาดเครื่องปรับอากาศในไทย มูลค่าประมาณ 34,000 ล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยปัจจัยส่งเสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเข้าถึงของครัวเรือนไทยซึ่งยังอยู่เพียง 34%, สภาพอากาศที่ร้อนชื้น, มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ตลอดจนเทรนด์ความต้องการของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของกลุ่มผู้บริโภคขนาดกลาง และความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันใหม่ ๆ และประหยัดพลังงานสูงขึ้น
คุณธนวัฒน์ วงศ์ชาญวุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็มดี คอนซูเมอร์ แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) หรือ Midea (ไมเดีย) กล่าวว่า บริษัทยังวางตำแหน่งการเติบโตของไมเดียผ่านฐานลูกค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์มาตรฐานใช้งานทั่วไปถึงกลุ่มกลาง โดยคงสื่อสารภาพลักษณ์สินค้าผ่านคอนเซ็ปต์ ‘แกร่ง ทน ครบเครื่อง’ ซึ่งเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 36 รายการจาก 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ในปี 2025 ตั้งแต่เครื่องปรับอากาศไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านครบวงจร โดยมีการนำ AI มาใช้ตอบสนองความต้องการใช้งานผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มหลักของบริษัทอย่างเครื่องปรับอากาศ
ยอดขายบริษัท ปี 2023 อยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท, ปี 2024 อยู่ที่ 1,900 ล้านบาท, เป้าปี 2025 อยู่ที่ 3,800 ล้านบาท และตั้งเป้าการเติบโตเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแอร์ ปีนี้อยู่ที่ 200%
กลยุทธ์การดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามเป้ายอดขายปีนี้ ตั้งแต่แพลนขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกความต้องการ และยังชูจุดขายในเรื่องของราคาย่อมเยา การยกระดับบริการหลังการขายด้วยการรับประกัน 5 ปีเต็ม พร้อมเป้าบริการจบเคสกรณีเกิดปัญหาในการใช้งานทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ 80% ของเคสภายใน 24 ชั่วโมง จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 48 ชั่วโมง
บริษัทยังวางงบการตลาดเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การประกาศร่วมงานกับ ‘บัวขาว บัญชาเมฆ’ พรีเซนเตอร์เครื่องปรับอากาศไมเดีย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความแกร่งและทนทานของไมเดีย พร้อมการเป็นผู้สนับสนุนระดับโลก (Global sponsorship) ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5
ทั้งการจัดงาน Midea Convention 2025 เพื่อประกาศความสำเร็จ แผนธุรกิจ และกลยุทธ์สำคัญสำหรับปีนี้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพาร์ตเนอร์ โดยมีพาร์ตเนอร์เข้าร่วมงานกว่า 600 รายจากทั่วประเทศ เนื่องจากตลาดลูกค้าสำคัญของบริษัทอยู่ในกลุ่มต่างจังหวัด คิดเป็นสัดส่วนยอดขาย 80% และกรุงเทพฯ 20% โดยบริษัทตั้งเป้าสัดส่วนการจัดวางผลิตภัณฑ์ในกลุ่มร้านค้าดีลเลอร์ให้ได้เพิ่มขึ้น 10% จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 5%
ส่วนการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงสื่อโฆษณาแบบ Out of Home บนรถไฟฟ้าจำนวน 6 สาย สื่อโฆษณาแบบ Building Wrap จำนวน 3 แห่ง (I Tower a3, 253 อโศก, อาคารปัญจธานี ทาวเวอร์) และบิลบอร์ด 13 จุดทั่วประเทศไทย เพื่อสร้าง Brand awareness ในตลาดกรุงเทพฯ ซึ่งไมเดียยังไม่แข็งแรง
โดยบริษัทยังจะกลับมาให้ความสำคัญกับช่องทางโมเดิร์นเทรด ซึ่งจะนำผลิตภัณฑ์กลับเข้าไปวางในกลุ่มดังกล่าวมากขึ้น ตลอดจนการขยายศักยภาพการขายของกลุ่มแอร์เชิงพาณิชย์อีกเท่าตัว
อีกทั้งการขยายตัวของกลุ่มผู้บริโภคขนาดกลาง ซึ่งกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ทำให้บริษัทต้องเริ่มให้ความสำคัญในการทำตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มดังกล่าว ผ่านการสร้างตัวตนในโลกออนไลน์และโซเชียลมีเดียต่อเนื่อง อาทิ การใช้อินฟลูเอนเซอร์, เปิดตัวหนังโฆษณาที่ร่วมมือกับครีเอทีฟเอเจนซี หลังปัจจุบันฐานลูกค้าบริษัทยังเกาะอยู่ที่กลุ่มผู้ใหญ่
นอกจากนั้น ปี 2025 บริษัทยังลงทุนต่อเนื่องสำหรับการจัดตั้งโรงงานผลิตในประเทศแห่งใหม่ ที่นิคมอุตสาหกรรม CPGC จังหวัดระยอง ในเขตเศรษฐกิจ EEC มูลค่าลงทุนสะสม 2,260 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จในช่วงกลางปีนี้ เพื่อรองรับการผลิตเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ ทั้งปัจจุบันบริษัทมีฐานการผลิตในไทยอยู่แล้วประมาณ 7 แห่ง
–
Website : Marketeeronline.co /
