ธุรกิจเช่าเรือถือเป็นธุรกิจความฝันของผม จากชีวิตที่ผูกพันกับแม่น้ำและเรือตั้งแต่เด็ก ขจร เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู ลีสซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ กล่าวในวันเปิดบริการเช่าเรือพร้อมคนขับ เดอะ วันเดอร์ บลู คลาสสิก โบตเฮาส์ อยุธยา อย่างเป็นทางการ

การเปิดธุรกิจเช่าเรือของทรู ลีสซิ่ง ที่อยุธยาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ต่อยอดธุรกิจเรือที่เคยเปิดให้บริการล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยามาตั้งแต่ปี 2561 ผ่านจุดเด่นเรือไม้แฮคเกอร์ คราฟต์ ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทยระดับไฮเอนด์ ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการท่องเที่ยว ถ่ายภาพ ชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำ ผ่านบริการที่เป็น Exclusive เช่าเรือพร้อมคนขับตามเส้นทางที่มีอยู่ในแพ็กเกจ หรือลูกค้ากำหนดจำนวน 12 ลำ ที่กรุงเทพฯ ก่อนที่จะต่อยอดไปยังจังหวัดอยุธยา จากการนำเรือที่ให้บริการที่กรุงเทพฯ จำนวน 6 ลำมาสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น

การสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจเช่าเรือของทรู ลีสซิ่ง ถือเป็นการต่อยอดรายได้และผลกำไรให้กับธุรกิจเพิ่มขึ้น

เนื่องจากทรู ลีสซิ่งดำเนินธุรกิจรถเช่ามานานกว่า 33 ปี โดยเริ่มจากธุรกิจรถเช่าให้กับองค์กรมายาวนาน ก่อนที่จะขยายบริการไปยังรถเช่าส่วนบุคคล รถมินิบัส รถพร้อมคนขับ รถสไลด์ (รถยก) และเช่าเรือบริการล่าสุด

โดยที่ผ่านมาทรู ลีสซิ่งเคยเป็นบริษัทในเครือทรู คอร์ปอเรชั่น ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นบริษัทในเครือซีพี จากการที่ซีพีเข้ามาถือหุ้น 100% หลังทรู คอร์ปอเรชั่น ควบรวมดีแทค

ซึ่งการเข้าสู่ธุรกิจเช่าเรือของทรู ลีสซิ่ง นอกจากการเติมเต็มความฝันให้กับขจรแล้ว ยังเป็นการเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ที่ขยายจากบริการทางบกไปทางน้ำที่เป็นช่องว่างในตลาด จากปัจจุบันธุรกิจเช่าเรือไม้แฮคเกอร์ คราฟต์ เพื่อการท่องเที่ยวยังเป็นธุรกิจที่แทบไม่มีคู่แข่งในตลาด เพราะส่วนใหญ่แล้วธุรกิจเช่าเรือในประเทศไทยจะอยู่ในรูปแบบเรือเอี้ยมจุ๊น เรือหางยาว เรือไฟเบอร์กลาส เป็นต้น

และการต่อยอดธุรกิจเรือเช่ามายังจังหวัดอยุธยายังมองเห็นโอกาสในเรื่องของ

1. การล่องเรือในอยุธยาสามารถให้บริการลูกค้าได้ทุกฤดู จากเดิมกรุงเทพฯ มีฤดูที่ให้บริการ และอยุธยาเป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำรายล้อม มีแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมต่อการเดินทางไปยังกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกสบาย มีโบราณสถานและสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำที่เหมาะกับการนั่งชมและถ่ายรูปได้เป็นอย่างดี

 นอกจากนี้ เมื่อเดินทางด้วยรถยนต์อยุธยามีระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่สามารถดึงดูดลูกค้าที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ มาใช้บริการได้

2. พื้นที่ที่เป็นจุดลงเรือ อยู่ในพื้นที่ให้บริการเช่ารถของทรู ลีสซิ่ง ทำให้สามารถต่อยอดนำเสนอแพ็กเกจเช่ารถอื่น ๆ ให้กับลูกค้าที่สนใจ รวมถึงยังสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในธุรกิจรถเช่าด้วยกัน เพื่อให้เอเยนซีนำไปต่อยอดเป็นแพ็กเกจเสนอขายลูกค้าต่างชาติที่ซื้อแพ็กเกจบันเดิ้ลรถเช่าและเรือได้อย่างเบ็ดเสร็จ

ซึ่งในปัจจุบันขจรให้ข้อมูลว่า ลูกค้าที่ใช้บริการเช่าเรือในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนอยุธยาในช่วงซอฟต์ลอนช์ ที่ผ่านมาเป็นกลุ่มคนไทยที่เช่าเรือทำคอนเทนต์โพสต์ลงโซเชียลต่าง ๆ และมีแผนจับมือกับเอเยนซีต่าง ๆ ให้เป็นกระบอกเสียงแนะนำบริการเดอะ วันเดอร์ บลู คลาสสิก โบตเฮาส์ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

3. มีการจับมือกับแบรนด์ร้านอาหารซัมเมอร์ เฮาส์ เปิดจำหน่ายอาหาร ที่สามารถดึงดูดฐานลูกค้าซัมเมอร์ เฮาส์ เข้ามานั่งรับประทานให้รู้จักกับบริการเช่ารถ และเรือของทรู ลีสซิ่งเพิ่มขึ้น พร้อมกับสร้างการรับรู้

รวมถึงการจัดบริการอาหารและเครื่องดื่มให้กับลูกค้านำไปนั่งรับประทานในเรือ หรือนั่งรับประทานที่ร้านก่อนหรือหลังลงเรือได้

4. แม้ธุรกิจบริการเช่าเรือในวันนี้ยังเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ส่วนเล็ก ๆ ให้กับทรู ลีสซิ่ง เนื่องจากทรู ลีสซิ่งมีเรือเช่าให้บริการ 12 ลำ ส่วนรถยนต์ที่ให้บริการมีมากถึง 14,000 คันในปัจจุบัน แต่ในแง่มุมการลงทุน เรือ 1 ลำ มีอายุของเรือที่สามารถปล่อยเช่าได้ยาวนานกว่าในกรณีที่ดูแลรักษาอย่างดี สามารถจำหน่ายเป็นเรือมือสองได้ราคาสูงเมื่อมีการรักษาให้ดูดีเสมอ ซึ่งต่างจากรถยนต์ที่รถใหม่ 1 คัน มีอายุที่สามารถปล่อยเช่าได้เพียง 5-10 ปี และหลังจากนั้นต้องจำหน่ายเป็นรถมือสองที่มีราคาลดลงตามอายุและสภาพการใช้งาน

ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในพลังที่สามารถสร้างรายได้และกำไรใหม่ ๆ ที่สามารถสร้างการเติบโตได้ในระยะยาว เมื่อบริการนี้ติดตลาดและมีผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับต่อยอดไปยังเส้นทางให้บริการใหม่ ๆ เช่นพัทยา ภูเก็ต ที่มีผู้สนใจมาติดต่อและหาความเป็นไปได้ในการเปิดบริการ นอกจากนี้ ขจรมองเห็นโอกาสของประเทศลาวและกำลังศึกษากฎหมายและความเป็นไปได้ในการเปิดธุรกิจ

ซึ่งการเปิดธุรกิจเช่าเรือเป็นบริการผ่านเรือ แฮคเกอร์ คราฟต์ ทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการดีไซน์สเปกเรือ และจัดทำส่งมอบ

อย่างไรก็ดี ถ้ามองไปที่ผลประกอบการของทรู ลีสซิ่ง จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า มีรายได้และกำไรในแต่ละปีดังนี้

 

2564     รายได้รวม 2,795.81 ล้านบาท กำไร 5.16 ล้านบาท

2565     รายได้รวม 3,385.74 ล้านบาท กำไร 33.81 ล้านบาท

2566     รายได้รวม 3,661.96 ล้านบาท กำไร 49.62 ล้านบาท

 

ส่วนตลาดรถเช่าในปัจจุบัน ทรู ลีสซิ่ง มีสัดส่วนรายได้จากรถเช่าสำหรับองค์กรในสัดส่วน 80% และลูกค้าทั่วไป 20% โดยลูกค้าองค์กรที่มีอายุการเช่าเฉลี่ย 3-5 ปีต่อสัญญา

ซึ่งการมีสัดส่วนลูกค้าองค์กรเป็นจำนวนมาก เป็นหนึ่งในการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากการเช่าระยะยาว

และสัดส่วนลูกค้าองค์กรของทรู ลีสซิ่ง ยังเป็นสัดส่วนที่มากกว่าตลาดเช่ารถรวม

โดยข้อมูลจาก SECAP พบว่าตลาดรถเช่าในปี 2567 มีมูลค่า 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ลูกค้า 70% ลูกค้าส่วนบุคคล 30%

และที่ผ่านมาข้อมูลจากธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์​พบว่า ตลาดรถเช่ามีการเติบโตในทุก ๆ ปี 

2562     46,998 ล้านบาท

2563   44,050 ล้านบาท

2564     43,108 ล้านบาท

2565     46,520 ล้านบาท

2566     49,089 ล้านบาท


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer