ไทน์ Valentines จากอินฟลูเอนเซอร์สู่เจ้าของแบรนด์ Valichain เครื่องประดับรายได้ 38 ล้านบาท กับการสร้างอาณาจักรแฟชั่นบน Shopee
ในยุคที่ตลาดแฟชั่นและไลฟ์สไตล์เต็มไปด้วยการแข่งขัน การสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทว่ามีบางแบรนด์ที่สามารถก้าวขึ้นมาโดดเด่นด้วยแนวคิดที่แตกต่าง และหนึ่งในนั้นคือแบรนด์จิวเวลรี ‘Valichain’ ที่ก่อตั้งโดย ไทน์-กรกนก วรรณกิจ หรือที่หลายคนรู้จักในนาม “Vvalentines” บิวตี้อินฟลูเอนเซอร์ที่เปลี่ยนความหลงใหลในเครื่องประดับให้กลายเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคง
‘Valichain’ ภายใต้บริษัท วาลิเชน จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2564 ในระยะเวลาเพียง 2 ปี หรือปี พ.ศ. 2566 ‘Valichain’ สามารถสร้างรายได้รวมกว่า 38 ล้านบาท มีช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ล่าสุดกับการเดินหน้าสร้างความเติบโตของธุรกิจบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee ที่สร้างปรากฏการณ์เปิดตัว Exclusive Collection เฉพาะใน Shopee และขายหมดในเวลาไม่ถึงเดือน
ก่อนพาไปเจาะลึกเบื้องหลังความสำเร็จ Marketeer ชวนมาทำความรู้จักกับ ไทน์-กรกนก วรรณกิจ และที่มาของการสร้างธุรกิจจิวเวลรีแบรนด์ ‘Valichain’ กันก่อน

จากความหลงใหลสู่การสร้างแบรนด์ที่แก้ Pain Point คนรักเครื่องประดับ
หลายคนรู้จัก ไทน์ Valentine-กรกนก วรรณกิจ ในบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงในแวดวง Beauty Blogger และ Fashion Influencer ด้วยบุคลิกและสไตล์การนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงไปตรงมาและเข้าใจง่ายทำให้เธอโดดเด่นและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
อีกหนึ่งบทบาทสำคัญคือ นักธุรกิจหญิงเจ้าของแบรนด์ ‘Valichain’ เครื่องประดับที่กลายเป็นไอเทมฮอตฮิตที่สุด
จุดเริ่มต้นของแบรนด์จิวเวลรีของไทน์ ไม่ได้เกิดขึ้นจากความคิดทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความรักและความหลงใหลในเครื่องประดับที่เธอมีมาตลอดชีวิต ประสบการณ์ส่วนตัวของเธอในการสวมใส่เครื่องประดับหลากหลายแบรนด์ ทำให้เธอพบเจอกับปัญหาที่ผู้บริโภคหลายคนต้องเผชิญ เช่น เครื่องประดับลอก ดำ หรือทำให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งกลายเป็นแรงผลักดันให้เธอเริ่มต้นศึกษาค้นคว้าวัสดุที่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
“จากการทดลองและพัฒนา ในที่สุดไทน์ก็ค้นพบวัสดุเกรดทางการแพทย์ ซึ่งปกติใช้ในวงการเจาะร่างกาย (Piercing) ที่ทนทาน ไม่ลอก ไม่ดำ และไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ จึงนำมาพัฒนาและผลิตเป็นเครื่องประดับแฟชั่นที่สามารถใส่ได้ทุกวัน
“โดยในช่วงทดลองนอกจากไทน์จะใช้เองยังส่งให้เพื่อน ๆ Influencer ที่มีทั้งคนที่แพ้ง่าย ที่ชอบใส่ติดตัวตลอดเวลา ปรากฏว่าเพื่อนใส่เป็นเดือน และเครื่องประดับของเราก็ไม่ลอก ไม่ดำ ไม่เกิดอาการแพ้ ตอนนั้นเองที่ทำให้รู้ว่า นี่คือสิ่งที่เราอยากขาย เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ Pain Point ได้อย่างแท้จริง”
คุณภาพและความสร้างสรรค์ จุดเด่นที่ทำให้ Valichain โดดเด่นและแตกต่าง
สิ่งที่ทำ Valichain โดดเด่นและแตกต่าง ไทน์บอกกับเราว่านั่นคือเรื่องคุณภาพและความสร้างสรรค์ในทุก ๆ กระบวนการ
“จุดแข็งที่ทำให้ Valichain โดดเด่นในตลาดเครื่องประดับคือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่สามารถกันน้ำ กันเหงื่อ ไม่ลอก ไม่ดำ และไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ ลูกค้าหลายรายที่ซื้อไปตั้งแต่คอลเลกชันแรกยังคงพึงพอใจและกลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสามารถสวมใส่ได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องคอยถอดเข้า-ถอดออกให้ยุ่งยาก
“อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญคือความครีเอทีฟเราใส่ใจในการเล่าเรื่องของแต่ละคอลเลกชัน แบรนด์ไม่ได้มองว่าเครื่องประดับเป็นเพียงสินค้าแฟชั่น แต่เป็นสิ่งที่มีความหมายและสามารถเชื่อมโยงกับอารมณ์ของผู้บริโภคได้ ทีมงานของ Valichain ให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาแคมเปญและคอนเทนต์ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงความพิเศษของแต่ละชิ้นที่ได้เลือกซื้อ”
แม้ว่า Valichain จะเป็นหนึ่งในแบรนด์แรก ๆ ในไทยที่นำเสนอเครื่องประดับแบบกันน้ำ (Waterproof Jewelry) แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มมีแบรนด์อื่น ๆ เข้ามาในตลาด ทำให้ความท้าทายหลักในตอนนี้คือ การยืนหยัดและรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ แม้ว่าจะมีคู่แข่งมากขึ้น แต่ Valichain ยังคงโดดเด่นในด้านความคิดสร้างสรรค์และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้จริง อีกทั้งยังมีการรับประกันสีของเครื่องประดับนานถึง 1 ปี หากสินค้าลอก ดำ หรือเปลี่ยนสี สามารถนำมาเคลมเปลี่ยนเป็นชิ้นใหม่ได้ทันที
ก้าวสู่ Shopee จาก Demand ของลูกค้า แต่กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยติดสปริงให้ธุรกิจ
แม้จะประสบความสำเร็จทั้งในมุมการขายและสร้างแบรนด์แล้ว แต่ Valichain ยังคงเดินหน้ามองหาโอกาสและการเติบโตใหม่ ๆ อยู่เสมอ
อย่างที่เกริ่นในข้างต้นกับเปิดบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าดังอย่าง Shopee ซึ่งไทน์กล่าวคำแรกว่า “รู้อย่างนี้เปิดตั้งนานแล้ว”
เธอบอกว่าเหตุผลแรกที่เลือกแพลตฟอร์ม Shopee มาจาก Demand ของลูกค้า
“ลูกค้าขอให้เปิดร้านใน Shopee มานานมาก ทั้งลูกค้าหน้าร้านและที่ Direct Message ในโซเชียลต่าง ๆ หนึ่งเดือนมีไม่ต่ำกว่า 5-6 คน เป็นสาเหตุที่ทำให้เราตัดสินใจเปิดร้านใน Shopee
“หลังจากเปิดได้ไม่ถึงเดือนยอดขายถล่มทลายโดยที่ไม่ต้อง Build อะไรเลยสักนิดเดียว ที่สำคัญคือไม่ไปแย่งกับช่องทางอื่น ๆ นั่นทำให้เรามานั่งคิดว่า ทำไมไม่เปิดร้านบน Shopee ตั้งแต่แรก ไม่รู้ว่าเราไปทำอะไรอยู่”
ล่าสุดกับการทำแคมเปญเปิดตัว Exclusive Collection เฉพาะช่องทาง Shopee ที่เดียว ไทน์บอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า ‘คอลเลกชันนั้นหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นาน’
“ตอนแรกที่เริ่มทำ Shopee เราคิดว่าต้องใช้เวลาสร้างฐานลูกค้าก่อน แต่ปรากฏว่าเรามีลูกค้าในแพลตฟอร์มนี้มากมาย พอรู้แล้วว่ามีฐานลูกค้าอยู่ก็เลยลองปล่อย Exclusive Launch ผลลัพธ์คือ Sold Out อย่างรวดเร็ว รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก”
ไทน์ให้ความเห็นถึงจุดแข็งของ Shopee ว่า แพลตฟอร์มนี้มีทีมการตลาดที่มีประสิทธิภาพและระบบสนับสนุนผู้ขายที่ยอดเยี่ยม ตั้งแต่ช่วงแรกที่ Valichain เข้าร่วมแพลตฟอร์ม Shopee มีการให้คำปรึกษาและสอบถามถึงแนวทางที่แบรนด์ต้องการนำเสนอ ทำให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น
“หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้ผลดีมากคือการไลฟ์สดก่อนเปิดตัวแคมเปญ ทีม Shopee แนะนำให้ Valichain ไลฟ์ก่อนเวลาปล่อยสินค้า ทำให้ลูกค้าเตรียมตัวซื้อได้ล่วงหน้า และช่วยสร้างความตื่นเต้น นอกจากนี้ Shopee ยังให้การสนับสนุนด้านโค้ดส่วนลด แม้ว่า Valichain จะไม่เน้นโปรโมชั่นลดราคามากนัก แต่การมอบสิทธิพิเศษในช่วงเปิดตัวก็ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือ ยอดขายพุ่งสูงตั้งแต่เดือนแรก และจำนวนผู้ติดตามร้านค้าบน Shopee เติบโตอย่างรวดเร็ว”
“อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ Shopee มีบทบาทสำคัญ คือระบบ SPayLater ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น ทำให้การตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อธุรกิจ โดยเฉพาะในยุคที่พฤติกรรมการจับจ่ายเปลี่ยนไป ผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจออนไลน์จึงไม่ควรมองข้าม Shopee และ Valichain เองก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ดีจากการเข้าร่วมแพลตฟอร์มนี้”

ในตอนท้าย ไทน์ Valentines ฝากถึงคนที่อยากทำธุรกิจ สรุปเป็น 3 หัวข้อหลักคือ
1. เริ่มต้นทันที อย่าคิดเยอะเกินไป
“หลายคนมัวแต่หาข้อมูลหรือกังวลเรื่องความพร้อม จนไม่ได้เริ่มทำธุรกิจจริง ๆ แต่ความจริงแล้ว การลงมือทำคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเรียนรู้ แม้จะผิดพลาด ก็สามารถนำมาปรับปรุงและพัฒนาต่อไปได้”
2. ค้นหาจุดเด่นของแบรนด์ให้เจอ
“สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจ Pain Point ของลูกค้าและสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ Valichain เองก็เติบโตจากการเน้นคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก ซึ่งช่วยให้ลูกค้าเชื่อมั่นและกลับมาซื้อซ้ำ”
3. ไม่หยุดพัฒนาและเดินหน้าต่ออย่างต่อเนื่อง “การทำธุรกิจไม่มีคำว่าหยุดพัก ทุกแคมเปญที่เปิดตัวต้องมีแผนล่วงหน้าสำหรับก้าวต่อไป การสร้างแบรนด์ต้องอาศัยความต่อเนื่องและความสม่ำเสมอในการทำตลาด”
–
อัปเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website: Marketeeronline.co /
