กลุ่มบริษัทดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เดินหมากโครงการสำคัญปักธงรบ ณ หัวหิน เปิดโครงการครั้งสำคัญ “ดุสิต อจารา หัวหิน” (Dusit Ajara Hua Hin) มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท ตอบโจทย์ความสุขของ Multi-generational Living แห่งการอยู่อาศัย บัญญัติมาตรฐานบทใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์
คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลุ่มดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล มุ่งยกระดับมาตรฐานบริการ ผสมผสานความหรูหราแบบไทยกับความทันสมัยไปให้คนทั่วโลกได้รู้จัก โดยวางกลยุทธ์เพิ่มการพัฒนาศักยภาพสินทรัพย์ และธุรกิจในเครือให้มีขีดความสามารถแข่งขันในตลาดไทยและตลาดโลก
โครงการดุสิต อจารา หัวหิน เป็นแบรนด์ใหม่ที่ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล จะใช้ขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตราลักชัวรี ในรูปแบบ Branded Residences ตอบโจทย์ความต้องการด้าน Well-being สร้างสุขภาพกายและใจ สำหรับทุกเจเนอเรชัน (Multi-generational Living Concept) ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตในประเทศไทยและทั่วโลก สอดรับกับความเชี่ยวชาญของกลุ่มดุสิตธานีทั้งด้านการบริหารโรงแรม (Hotel Management) และการบริการ (Hospitality Services Management)
“บริษัทใช้ประโยชน์จากที่ดินรอการพัฒนา (Land Bank) ที่มีศักยภาพสูงมาพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ 3 ประการของกลุ่มดุสิตธานี ได้แก่ สร้างสมดุล สร้างการเติบโต และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ นำร่องในหัวหินที่มีแนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มดุสิตมีที่ดิน 114 ไร่ ในส่วนนี้เป็นที่ตั้งโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ที่อยู่คู่หัวหินมากว่าสามสิบปี และส่วนที่ใช้ทำโรงแรมแบรนด์อจาราอีก 20 ไร่ ตรงพื้นที่ด้านหน้าของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน”
โครงการแรกของแบรนด์ “อจารา”
โครงการ ดุสิต อจารา หัวหิน (Dusit Ajara Hua Hin) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ปักธงนำร่องหัวหินอันเป็นเมืองท่องเที่ยวทอปลิสต์ของไทย ชายหาดที่สวยงามและบรรยากาศเงียบสงบ เป็นที่นิยมในกลุ่มชาวไทยและต่างชาติ ที่มองเป็นจุดหมายปลายทางการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ระดับอัลตราลักชัวรี ที่สำคัญยังคงมีแนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เพราะการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐภายใต้นโยบายของการพัฒนาให้เป็น Smart City การขยายตัวของเมือง
รวมถึงการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งระยะสั้นและระยะยาว ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของตลาด โดยเฉพาะในตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงอัลตราลักชัวรี ที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมไปถึงโครงการแบบ Branded Residences ที่ได้ความสนใจเป็นพิเศษ ซึ่ง Branded Residences ในหัวหินจะมีมูลค่าอยู่ที่ราว 2-2.5 แสนต่อตารางเมตร ขณะที่ Non-Branded Residences จะอยู่ที่เพียง 1 แสนต่อตารางเมตร หัวหินจึงเป็นโลเคชั่นแรกในการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ “อจารา”
รายละเอียดโครงการ
คุณณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต เอสเตท จำกัด กล่าวว่า ดุสิต อจารา หัวหิน วางแผนพัฒนาที่พักอาศัยเป็นแบบ ‘Low Rise, Low Density’ ที่นำเสนอความเป็น ‘Multi-generational Living’ เหมาะสำหรับทุกช่วงวัยในครอบครัวสามารถอยู่อาศัยและใช้เวลาอันหรูหราร่วมกัน จะเปิดเป็นโครงการแบบ Leasehold หรือการเช่าแบบระยะยาว คาดการณ์ว่าลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติ 60% ที่ส่วนใหญ่ลูกค้ามาจากฝั่งสแกนดิเนเวียและยุโรป ขณะที่ชาวไทยอยู่ที่ 40%
ประกอบไปด้วย 7 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น จำนวน 4 อาคาร และอาคาร 6 ชั้น จำนวน 3 อาคาร
รวมทั้งสิ้น 96 ยูนิต โดยยูนิตจะมีขนาดตั้งแต่
1 ห้องนอน ขนาด 70 – 90 ตารางเมตร
2 ห้องนอน ขนาด 120 – 180 ตารางเมตร
3 ห้องนอน ขนาด 250 ตารางเมตร
และเพนท์เฮาส์ ซึ่งในทุกอาคารได้ออกแบบให้บริเวณยูนิตชั้น 1 มีพื้นที่สวนสีเขียวส่วนตัว ขนาด 25-35 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่จอดรถติดกับที่พักอาศัย
โดยได้บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49), PIA Interior และ P Landscape (PLA) มาร่วมดีไซน์สถาปัตยกรรมรับผิดชอบจัดวางองค์ประกอบและเลย์เอาต์ของโครงการ ผ่านการดึงความงดงามสไตล์ ‘Bridging Oasis’ สร้างที่อยู่อาศัยให้แนบชิดธรรมชาติท่ามกลางสวนที่เขียวชอุ่มเสมือนต้นไม้กำลังโอบกอดผู้พักอาศัย แบ่งสัดส่วนพื้นที่ของตัวอาคาร พื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบ คำนึงถึงอารยสถาปัตย์ ‘Universal Design’ รองรับผู้ใช้งานทุกเจเนอเรชัน ยังมีการออกแบบเส้นทางเดินที่เชื่อมโยงอาคารและพื้นที่สีเขียว สร้างความรู้สึกสงบและความเป็นส่วนตัวสูง
อาทิ Main Courtyard สวนกลางบ้าน โซนไลฟ์สไตล์กลางแจ้ง สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สนามเด็กเล่น ห้องนั่งเล่น ห้องเอนเตอร์เทนเมนต์ ห้องรับประทานอาหาร พื้นที่สำหรับคลับเฮาส์ทั้งในร่มและกลางแจ้ง สไตล์สวนทรอปิคอลมากกว่า 60% ของพื้นที่โครงการ ผสาน Branded Residences สไตล์ The Only Thai Branded Residences ที่นับว่าเป็นจุดแข็งด้านการบริการแบบ Gracious Hospitality ระดับเวิลด์คลาส
โดยผู้อยู่อาศัยสามารถเรียกใช้บริการระดับโรงแรม 5 ดาว ได้จาก ดุสิต ฮอสพิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส (Dusit Hospitality Services) ที่นำเสนอผ่านการบริการ Concierge 24 ชั่วโมง บริการแม่บ้านทำความสะอาดที่พักอาศัย สัปดาห์ละ 2 ครั้ง และกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ และสิทธิประโยชน์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ Dusit Gold Platinum ที่สามารถใช้บริการโรงแรมและรีสอร์ตในเครือดุสิตธานีที่ร่วมสิทธิ์ทั่วโลก
แผนการเปิดโครงการใหม่เป็นการลงทุนตามแผนงานที่สอดรับกับจังหวะของระบบเศรษฐกิจโลก ทั้งประเทศมหาอำนาจที่กำลังอยู่ในช่วงจัดระเบียบ และปัญหาทั่วโลกที่ยังไม่มั่นคง ซึ่งแผนโครงการที่กลุ่มดุสิตวางไว้จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในช่วงที่หลายสถานการณ์น่าจะเข้าที่เข้าทางแล้ว คุณศุภจีกล่าว
–
