ยิบอินซอย ยืนยันสนใจ ฟู้ดแพนด้า และปีนี้มั่นใจว่า โรบินฮู้ด จะมีกำไรแน่นอน

หลังจากมีข่าวออกไปว่าบริษัทยิบอินซอยสนใจซื้อ ฟู้ดแพนด้า ที่จะยุติการให้บริการในวันที่ 23 พ.ค. 2568 นั้น

เมื่อวานนี้ มรกต ยิบอินซอย แม่ทัพใหญ่บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Marketeer ถึงประเด็นดังกล่าว โดยเธอย้ำว่า

“เราต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อจะได้ดูแลอีโคซิสเต็มของฟู้ดแพนด้าต่อให้ดีที่สุด แต่ไม่ได้คิดที่จะซื้อแน่นอน เราไม่มีเงินมากขนาดนั้น”

ดังนั้น จึงได้ติดต่อทางฟู้ดแพนด้าไปตั้งแต่วันแรกที่ประกาศจะปิดบริการ และมีโอกาสได้คุยกับผู้บริหารของเขาในประเทศเยอรมนีผ่านทางซูมในอีก 2 วันต่อมา และเขาบอกว่าถ้าเราสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีได้ก็พร้อมที่จะคุยกับเรา

ตอนนี้กำลังรอรายละเอียดตัวเลขต่าง ๆ จากฟู้ดแพนด้า เพื่อนำมาศึกษาและเสนอแนวทางชัดเจนในการร่วมมืออีกครั้ง ซึ่งทุกอย่างได้ย้ำไปแล้วว่ากระบวนการต่าง ๆ ต้องเร็ว

เมื่อปลายปี 2567 ยิบอินซอยเข้าไปซื้อกิจการ “โรบินฮู้ด” จากบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX มูลค่า 2,000 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่โรบินฮู้ดมีตัวเลขขาดทุนสะสม 5,500 ล้านบาท ปี 2566 ขาดทุนที่ 2,156 ล้านบาท และล่าสุดปี 2567 ตัวเลขขาดทุนยังอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท

วันนี้ เธอยังหวังจะร่วมมือกับฟู้ดแพนด้าเพื่อสานต่อกิจการของบริษัทที่ประกาศจะปิดตัวในวันที่ 23 พ.ค. 68 นี้ และเป็นบริษัทที่มีตัวเลขขาดทุนสะสมมากกว่า 10,000 ล้านบาท

อะไรที่ทำให้มรกต กล้าคิดการใหญ่อีกครั้ง  

เหตุผลสำคัญคือ

1. เพื่อจะได้เข้ามาช่วยดูแล Ecosystem ของฟู้ดแพนด้าต่อให้ดีที่สุด เป็นการช่วยเหลือลูกค้า ร้านค้า และไรเดอร์ ในระบบของฟู้ดแพนด้า

2. เป็นการผนึกกำลังร่วมกันของ 2 บริษัทเล็ก เพื่อสร้างให้เกิดวอลุ่มที่ใหญ่ขึ้น

3. โรบินฮู้ดตั้งใจพัฒนาแอปพลิเคชันให้รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยทำหน้าที่เสมือนรีเซฟชั่นของประเทศไทย แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารอร่อยทั่วไทย ซึ่งเป็นการต่อยอดจากฐานลูกค้าชาวต่างชาติที่ฟู้ดแพนด้ามีอยู่แล้ว

4. มีความมั่นใจ วันนี้เรายังรันธุรกิจของโรบินฮู้ดได้ ทำไมจะรันฟู้ดแพนด้าไม่ได้

สำหรับโรบินฮู้ด ดีลการจ่ายเงินก้อนแรก 400 ล้านจ่ายไปแล้วตามสัญญา ส่วนอีก 1,600 ล้านบาททยอยจ่ายเมื่อธุรกิจได้กำไร โดยไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าภายในกี่ปี

ปี 2567 ถึงแม้ยังมีตัวเลขขาดทุน แต่ในปี 2568 นี้เธอเชื่อว่าจะพลิกมาทำกำไรได้เป็นครั้งแรกแน่นอน ถึงแม้จำนวนร้านค้าจะลดลงมากจากการเรียกเก็บ GP 28% รวมทั้งตัวเลขไรเดอร์ และยอดสั่งซื้อยังน้อย  แต่กำลังเร่งพัฒนาแอปในบางจุด  มีแผนโปรโมตคนให้เข้ามาใช้มากขึ้น อาจจะใช้เวลาแต่มั่นใจว่าทำได้

“สำหรับเราฟู้ด เดลิเวอรีไม่ใช่โมเดลธุรกิจที่ซับซ้อน มีแค่คนทำอาหาร คนสั่งอาหาร และคนส่งอาหาร กับแพลตฟอร์ม แต่ที่บอกว่าเป็นธุรกิจเผาเงิน เพราะเอาเงินไปใช้กับการทำโปรโมชั่น เพื่อให้ลูกค้าติด ยอมขาดทุน เพื่อหวังจะมัดใจลูกค้าในระยะยาว ทั้งแจกคูปองส่วนลดค่าอาหารหรือค่าส่งฟรี  ลดราคาแบบ Flash Sale เฉพาะช่วงเวลา แถมอาหาร/เครื่องดื่มฟรีเมื่อซื้อครบตามเงื่อนไข จัดดีลพิเศษต่าง ๆ เฉพาะในแอป ซึ่งหมายถึงการขาดทุนทุกออเดอร์”

แต่แนวทางของยิบอินซอยจะไม่ลงไปแข่งกันทำในเรื่องโปรโมชั่นต่าง ๆ แน่นอน แต่จะให้ความสำคัญกับไรเดอร์ ร้านค้า และลูกค้าเพื่อให้ได้รับบริการที่ดีที่สุด

“เราตัวเล็กแต่ใจใหญ่นะคะ เรากล้าที่จะเข้าไปเปลี่ยนเกมธุรกิจ และต้องการที่จะผลักดันธุรกิจนี้ให้เป็น ‘Good Business Ecosystem’ อย่างแท้จริง”

การเข้ามาของกลุ่ม ยิบอินซอย อาจจะทำให้ผู้เล่นไทยมีบทบาทมากขึ้นในธุรกิจแพลตฟอร์ม แต่เธอจะทำสำเร็จหรือไม่ ไปไกลแค่ไหนกับวิธีคิดนี้ ต้องเอาใจช่วย

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer