หลังจากที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวจากช่วงวิกฤต ธุรกิจโรงแรมหลายแห่งก็เริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ แทนที่จะเพียงแค่รอให้เกิดการฟื้นตัว หลายแบรนด์เลือกที่จะเดินหน้าเชิงรุกอย่างเต็มตัว
หนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตามอง คือ ONYX Hospitality Group บริษัทบริหารจัดการโรงแรมจากไทยที่วางเป้าหมายไว้ชัดเจน ว่าอยากเป็น “บริษัทบริหารโรงแรมขนาดกลางที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ภายในปี 2025
.
รู้จัก ONYX Hospitality Group
ONYX เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแบรนด์ในเครือหลายตัว เช่น Amari, OZO, Shama และ Oriental Residence
จุดแข็งที่เห็นได้ชัด คือการนำเอาความเข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่นมาผสมผสานกับมาตรฐานการบริการระดับสากล ทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้หลายกลุ่ม ขณะนี้ดูแลโครงการมากกว่า 40 แห่งในหลายประเทศ ทั้งไทย ลาว มาเลเซีย ศรีลังกา และฮ่องกง
.
4 ยุทธศาสตร์หลักสู่เป้าหมายระดับภูมิภาค
1. ขยายพอร์ตโฟลิโอให้ครอบคลุมมากขึ้น
เป้าหมายที่ ONYX ตั้งไว้คือ มีโรงแรมและที่พักในเครือมากกว่า 50 แห่งภายในปี 2025 และเพิ่มเป็น 70 แห่งในปี 2028
แต่การขยายตัวครั้งนี้ไม่ได้เน้นแค่ตัวเลข แต่เป็นการเลือกทำเลที่มีศักยภาพทั้งด้านธุรกิจและการท่องเที่ยว และเป็นการยกระดับบทบาทให้กลายเป็นผู้บริหารแบรนด์โรงแรมระดับภูมิภาคอย่างแท้จริง
โรงแรมใหม่ที่กำลังจะเปิดให้บริการ:
- Amari Colombo ประเทศศรีลังกา (เปิดธันวาคม 2024)
- Amari Vientiane ประเทศลาว (เปิดมีนาคม 2025)
- Amari Bangsaen ประเทศไทย (เปิดมิถุนายน 2025)
- OZO Medini ประเทศมาเลเซีย (เน้นกลุ่มนักเดินทางรุ่นใหม่)
2. เสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์หลัก
แม้ว่า ONYX จะมีแบรนด์ในเครือ 4 ตัว แต่ในยุทธศาสตร์ปี 2025 จะเน้นไปที่ 2 แบรนด์หลัก:
Amari – โรงแรมระดับ Upper-upscale ที่ให้บริการเต็มรูปแบบสำหรับทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว อมารีมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่มีความหมายและน่าจดจำ โดยผสมผสานความเป็นท้องถิ่นเข้ากับความทันสมัย ไม่ว่าจะตั้งอยู่ริมทะเล กลางเมือง หรือท่ามกลางธรรมชาติ
OZO – โรงแรมระดับ Upper-middle scale ที่เจาะตลาดนักเดินทางรุ่นใหม่ ด้วยแนวคิด “Unpack. Good. Vibes.” โดยเน้น 3 จุดหลัก:
- Sleep: ห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนที่ดีที่สุด
- Connect: ระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย
- Explore: ส่งเสริมให้ออกไปสัมผัสและเชื่อมต่อกับท้องถิ่นอย่างแท้จริง
OZO ถือเป็นแบรนด์ที่มีโอกาสขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มนักเดินทางอิสระ คนทำงาน และครอบครัวที่มองหาประสบการณ์ที่ผ่อนคลายแต่ครบครัน
3. ยกระดับมาตรฐานการบริการผ่านเทคโนโลยี
ในยุคนี้ การแข่งขันของธุรกิจโรงแรมไม่ได้อยู่ที่ห้องพักเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ประสบการณ์ของลูกค้าตั้งแต่การค้นหาโรงแรมจนถึงหลังเช็คเอาท์
ONYX ลงทุนในระบบ CRM และ Martech เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าแบบเจาะลึก (personalization) พร้อมทั้งพัฒนาระบบจองตรงผ่านแพลตฟอร์มของตัวเองให้สะดวกและใช้งานง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เชิงกลยุทธ์ เช่น ธนาคาร บัตรเครดิต สายการบิน ร้านค้าปลีก และแบรนด์ไลฟ์สไตล์ เพื่อสร้าง ecosystem ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบองค์รวมของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการใช้คะแนนสะสมแลกห้องพัก ร้านอาหาร หรือสปา
ในด้านการปรับปรุงสถานที่ โรงแรมหลักอย่าง Amari Phuket และ Amari Don Muang Airport Bangkok กำลังได้รับการรีโนเวทครั้งใหญ่ เพื่อยกระดับมาตรฐานให้ตอบโจทย์ตลาดโลก
4. เปิดตัวกองทรัสต์ ONYXRT
หนึ่งในก้าวสำคัญของปี 2025 คือการจัดตั้ง ONYXRT กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าโรงแรมของ ONYX
กองทรัสต์นี้จะทำหน้าที่เป็นแหล่งทุนที่ช่วยให้บริษัทขยายโรงแรมใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินทุนจากบริษัทแม่เพียงอย่างเดียว
ทรัพย์สินเริ่มต้นที่เข้าลงทุนมี 4 แห่ง:
- Amari Bangkok – ใกล้แยกราชประสงค์
- Amari Pattaya – ใจกลางพัทยาเหนือ
- OZO Pattaya – ติดชายหาด ใกล้ศูนย์การค้า
- OZO Phuket – ใกล้หาดกะตะ เพียง 150 เมตร
จุดเด่นของ ONYXRT คือการเลือกลงทุนเฉพาะทรัพย์สินคุณภาพที่อยู่ในทำเลทอง และมีสถิติการเข้าพักเฉลี่ยสูง (80–89%) อีกทั้งยังมีทีมบริหารมืออาชีพและประสบการณ์กว่า 50 ปีในอุตสาหกรรมโรงแรม
.
ในช่วงที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมมีการแข่งขันสูง แบรนด์ที่ปรับตัวเร็วและวางกลยุทธ์ระยะยาวย่อมมีความได้เปรียบมากกว่าแบรนด์ที่เพียงแค่รอกระแสการฟื้นตัว
ONYX กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าแบรนด์ไทยสามารถก้าวสู่ระดับภูมิภาคได้อย่างมีศักยภาพ โดยอาศัยความเข้าใจตลาด ภูมิภาค และลูกค้าอย่างแท้จริง
