ฮี-คยอง หัวเราะเบาๆ ขณะก้าวเข้าไปใน “ร้านสะดวกซื้อคลายเหงา” แห่งใหม่ในกรุงโซล และเธอก็ มา ที่นี่ทุกวันเพื่อรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปฟรี และใช้เวลาหลายชั่วโมงพูดคุยกับผู้เยี่ยมชมคนอื่นๆ และเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์
สาวชาวเกาหลีใต้ วัย 29 ที่หนีออกมาจากบ้านตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นและไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวอีกเลยเผยว่า นี่เป็นอีกวันที่ความเหงาลดลงไป ส่วนเพื่อนที่รู้จักกันผ่านออนไลน์จากความชื่นชอบวง K-pop อย่าง Super Junior ก็อาศัยอยู่ไกลกันหมด นอกจากนี้ เธอกำลังว่างงานจึงไม่มีเพื่อนร่วมงานให้คุยด้วย
ดังนั้นจึงไม่มีที่ไหนให้ไป มาที่นี่เป็นประจำ และยังเห็นว่าดีกว่าอยู่ในห้องคนเดียว นั่งดูคลิปแมวน่ารักๆ จนหมดวัน เป็นไหนๆ
นี่คือ ศูนย์คลายเหงา ให้คำปรึกษาทางสุขภาพจิตและเปิดโอกาสให้บรรดาคนเหงาได้เข้าสังคม ภายใต้คอนเซปต์คล้ายร้านสะดวกซื้อบวกร้านกาแฟกับร้านอาหาร จนอาจเรียกได้ว่าเป็น “ร้านสะดวกซื้อคลายเหงา” โดยเป็นไปตามแผนจัดการกับความเหงาเดียวดาย
ซึ่งหากปล่อยไว้จะทำให้เกิดการตายอย่างโดดเดี่ยวหรือ โกด็อกซา จนเมื่อปี 2024 ทางฝ่ายปกครองของกรุงโซลได้ทุ่มงบ 327 ล้านดอลลาร์ (ราว 11,000 ล้านบาท) เพื่อแก้ไขปัญหา
ปัจจุบันแม้มี “ร้านสะดวกซื้อคลายเหงา” อยู่เพียง 4 แห่งในกรุงโซล แต่จำนวนผู้มาใช้บริการก็มีกว่า 20,000 คนแล้ว เกินกว่า 5,000 คนที่ตั้งไว้ อันเป็นสัญญาณว่า โครงการนี้มาถูกทางและกระแสตอบรับดีมาก
งานวิจัยปี 2022 เผยว่ามีหนุ่ม-สาวในกรุงโซล (ช่วงอายุ 19-39 ปี) ประมาณ 130,000 คนที่โดดเดี่ยวทางสังคมหรือเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน นอกจากนี้ยังพบว่าสัดส่วนของครัวเรือนที่อยู่คนเดียวในเมืองหลวงพุ่งสูงถึงเกือบ 40% ซึ่งสร้างความกังวลให้แก่รัฐบาลที่พยายามแก้ปัญหานี้มาโดยตลอด
คิม เซ-ฮอน หัวหน้าทีมแก้ปัญหาความเหงาของกรุงโซลเผยว่า จัดให้มีวันดูหนังเพื่อส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์แบบเบาๆ โดยกระแสตอบรับดีมาก
เพราะนอกจากโซนดูหนังที่ผู้มาใช้บริการให้ความสนใจแล้ว ในมุมอื่นๆ ก็ยังมีผู้หญิงสูงวัยหลับตาพริ้มในเก้าอี้นวดไฟฟ้า ขณะที่อีกมุมหนึ่งมีชั้นวางบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสัญลักษณ์ของความผ่อนคลายและความอบอุ่นในเกาหลีใต้ก็คึกคักเช่นกัน
ซึ่งระหว่างที่รอบะหมี่สุก ผู้มาใช้บริการก็ได้รับการร้องขอให้กรอกแบบสำรวจสั้นๆ เกี่ยวกับอารมณ์และสภาพความเป็นอยู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการเข้าถึงกลุ่มคนที่โดดเดี่ยวที่เมืองกำลังพยายามช่วยเหลือ
สำหรับเกาหลีใต้เป็นประเทศที่เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากประเทศเน้นเกษตรกรรมที่บอบช้ำจากสงครามมาเป็นเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว โดยเมื่อหลายสิบปีก่อน การเห็นครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีลูก 6-8 คนอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันเป็นเรื่องปกติ
ทว่าการอพยพเข้าสู่เมืองทำให้ครอบครัวมีขนาดเล็กลง และเปลี่ยนให้กรุง โซล กลายเป็นมหานครอันกว้างใหญ่ มีความทันสมัยแต่กลับเต็มไปด้วยประชากรที่เหงา-โดดเดี่ยว
นอกจากนี้ราคาบ้านที่สูงขึ้น ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และชั่วโมงการทำงานที่หนักหน่วง ทำให้คนหนุ่มสาวจำนวนมากขึ้นปฏิเสธการแต่งงานหรือการมีลูก ส่วนอีกด้านหนึ่งคือประชากรสูงวัยที่รู้สึกถูกละเลยจากลูกๆ ที่ต้องทำงานหนักเพื่อเอาชีวิตรอด
ลี อิน-ซุก ที่ปรึกษาประจำศูนย์กล่าวว่า อาหารที่รสชาติแย่สุดคืออาหารที่กินคนเดียว และเมื่อถามสารทุกข์สุกดิบกับผู้สูงอายุที่มาเข้าศูนย์ หลายคนก็ถึงกับร้องไห้ออกมา ซึ่งเธอก็เข้าใจเรื่องนี้ดีเพราะเคยผ่านการหย่าร้างมาและลูกๆ ที่โตเป็นผู้ใหญ่ก็ย้ายออกไปมีชีวิตของตัวเองแล้ว
ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการสะท้อนว่าเกาหลีใต้กำลังเริ่มแก้ไขปัญหาความเหงาที่อาจนำไปสู่โกด็อกซาอย่างจริงจัง หลังมีการสะท้อนให้เห็นผ่านหนังหรือซีรีส์อย่างเช่นเรื่อง Move to Heaven บ้าง แต่เกาหลีใต้ไม่ได้เป็นประเทศแรกที่แก้ไขปัญหาดังกล่าว
ในปี 2018 สหราชอาณาจักร ได้แต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความเหงาขึ้นมา ส่วนญี่ปุ่นก็ทำตามโดยจัดตั้งหน่วยงานเพื่อรับมือกับปัญหาที่รุนแรงขึ้นในช่วงโควิด-19 ปรากฏการณ์การปลีกตัวจากสังคมทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องปกติในญี่ปุ่นจนมีคำเรียกเฉพาะว่า ฮิกิโคโมริ
ส่วนในเกาหลีใต้เองก็มีคนหนุ่มสาวจำนวนมากขึ้นที่เลือกตัดขาดตัวเองออกจากสังคมที่มีการแข่งขันสูงเช่นกันจนที่มีการตั้ง “ร้านสะดวกซื้อคลายเหงา” ขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหา / bbc
