บุรามาลี แบรนด์ใหม่จาก iberry group คอนเซ็ปต์แปลกใหม่ ร้านอาหารไทยในโรงน้ำชา
จาก “กับข้าวกับปลา” ขยายเป็นอาณาจักรอาหาร 20 แบรนด์ ในเครือ iberry group ที่เติบโตต่อเนื่องไม่หยุดนิ่ง ของ “ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์”
ในปี 2568 iBerry Group ยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตอาหารใหม่ ๆ เพื่อเติมเต็มช่องว่างของธุรกิจร้านอาหารอยู่ตลอด ปัจจุบันบริษัทมีแบรนด์ในมือ 18 แบรนด์ และเตรียมเปิดเพิ่มอีกสองแบรนด์เร็ว ๆ นี้ รวมปีนี้บริษัทมีแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอ 20 แบรนด์
จากจุดยืนในการเชิดชูและยกระดับอาหารไทย หวังสร้างเสน่ห์ให้กับกรุงเทพฯ ล่าสุด iBerry Group ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘BURAMARIE (Thai Rice & Tea Room)’ บุรามาลีเป็นร้านอาหารไทยในโรงน้ำชาคอนเซ็ปต์ใหม่ที่สยามพารากอน ถ่ายทอดความงดงามของอาหารไทยทั้งรสชาติและรูปลักษณ์ผ่านการจัดวางในบรรยากาศร่วมสมัยที่งดงาม
ชื่อ BURAMARIE มาจาก “บุรา” แปลว่าเมืองในภาษาสันสกฤต และยังเป็นนามสกุลของคุณอัจฉรา บุรารักษ์ ส่วน “มาลี” แปลว่าดอกไม้ พ้องเสียงกับ Marie ในภาษาอังกฤษซึ่งเป็นชื่อของคุณป้ามาลี ผู้เป็นหัวใจของครัวในบ้านบุรารักษ์ เมื่อสองคำมารวมกันจึงมีความหมายว่า “เมืองแห่งดอกไม้” ที่เก็บรสชาติและความทรงจำของครอบครัว โดยได้ชวนเชฟป๊อป-พิชชากร รวมบุตร ที่มีรสมือจัดจ้านมาร่วมรังสรรค์
แบรนด์ใหม่ลำดับที่ 18
คุณปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ ผู้บริหาร iberry Group กล่าวว่า อยากทำร้านอาหารที่แตกต่างจากสิ่งที่เคยทำมา จึงนึกถึง ‘อโรม่าไทย’ หรือ ‘กลิ่นไทย’ เครื่องหอมต่าง ๆ ที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ เป็นคอนเซ็ปต์ของร้าน ให้คนต่างชาตินึกถึงความหอมของไทย จึงหยิบเอา “ชา” รสไทยสื่อถึงดอกไม้ ผลไม้ และสมุนไพรไทย เสิร์ฟเครื่องดื่มเย็น ๆ คู่สำรับกับข้าวรสเข้มข้นที่มีความหอมจากเครื่องแกงกับสมุนไพร พร้อมชาเบลนด์จากดอกไม้และผลไม้ไทย
เอกลักษณ์ของ บุรามาลี กับชาเบลนด์พิเศษกว่าสิบชนิดจากวัตถุดิบธรรมชาติและพืชพรรณไทย เช่น โลตัส เดอ มาลี, กุหลาบมอญ, มะตูมกราเช่, สยามเอิร์ลเกรย์, น้ำดอกไม้, ลิ้นจี่อู่หลง และสวรรค์ไทยที เป็นต้น ทั้งรูปแบบชาร้อนและชาเย็น

“ปีหนึ่งเราไม่ได้กำหนดว่าต้องเปิดแบรนด์ใหม่เท่าใด บางครั้งเมื่อได้ทำเลที่ชอบ ก็ค่อยคิดต่อยอดว่าจะทำอะไรใหม่ ๆ ดี บางทีก็จะมีแบรนด์อยู่ในใจว่าอยากจะทำประมาณนี้ แล้วถ้าได้ทำเลที่เหมาะสมมาก็เอาสิ่งที่คิดมาลง กระบวนการเป็นอย่างนั้น กับบุรามาลีก็เช่นกัน”
ราคาดี รสชาติดี แบรนด์ดิ้งชัด
ธุรกิจร้านอาหารในเมืองไทยแข่งขันรุนแรงหมดทุกตลาด ทุกเซกเมนต์ ไทยเป็นเมืองที่แบรนด์ต่างประเทศจะเข้ามายังต้องทำการบ้านหนักเพราะแข่งกันดุเดือด การอยู่รอดไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากไทยเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่หลากหลาย มีให้เลือกรับประทานไม่ซ้ำวัน ใช้คำว่ารวยวัฒนธรรมอาหารมาก
การจะทำร้านอาหารให้อยู่รอดได้ สิ่งสำคัญคือต้องขายคุณภาพ วัดกันตรงที่ลูกค้ากลับมากินซ้ำหรือไม่ จะทำเพียงแค่แบรนด์ดิ้งสวย ตกแต่งร้านดี แต่ว่าโปรดักส์ไม่ได้รสชาติ ลูกค้าก็ไม่กลับมา
ทุกแบรนด์ต้องทำให้ชัด ให้ลูกค้านึกถึงให้ได้ ซึ่งการทำแบรนด์ให้ชัดอาศัยปัจจัยหลัก ๆ สองอย่างด้วยกัน คือ เมนูอาหารและแบรนด์ดิ้ง เริ่มตั้งแต่การออกแบบเมนูอาหารให้เป็นหนึ่งเดียวกัน การออกแบบแบรนด์ต้องชัด รวม Corporate Identity ประกอบกันเป็นคาแรกเตอร์ เพราะทุกวันนี้ธุรกิจอาหารไม่ใช่แค่ทานในร้าน แต่จะทำอย่างไรให้คนที่อยู่ในบ้านที่จะสั่งอาหารไปทาน ให้เขาคิดถึงเราแล้วกดสั่ง แบรนด์ยิ่งชัดยิ่งดี ยิ่งได้เปรียบ ร้านก็จะยั่งยืนไปได้
ทั้งนี้ เครือ iberry group ในปีที่ผ่านมา กวาดรายได้ไป 4,407 ล้านบาท ในปีนี้ที่หลายธุรกิจเป็นกังวลกับสภาพเศรษฐกิจ ในมุมของคุณอัจฉรา มองว่าไม่กระทบมากนัก ธุรกิจในเครือแม้จะไม่เติบโตหวือหวา แต่ยังคงเป็นบวก และจากนี้ iberry group ตั้งเป้าไม่อยากอยู่แค่ Thai food แต่คือ Food Scene in Thailand
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
