3 เรื่องราวแห่งความสำเร็จ จากเวที PM’s Export Award 2025 สัญลักษณ์แห่งศักยภาพผู้ประกอบการไทย บนเวทีการค้าสากล

PM’s Export Award 2025 สัญลักษณ์แห่งศักยภาพผู้ประกอบการไทย กับ 3 เรื่องราวความสำเร็จที่น่าสนใจ

ผ่านไปแล้วกับการประกาศรางวัล Prime Minister’s Export Award (PM’s Export Award) 2025 รางวัลสูงสุดของรัฐบาลไทยที่ยกย่องผู้ประกอบการซึ่งประสบความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพธุรกิจส่งออก ปีนี้ถือเป็นปีที่ 33 ของรางวัลอันทรงเกียรติ โดยมีผู้ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 42 รางวัล จาก 39 บริษัท ครอบคลุม 18 จังหวัดทั่วประเทศ

นี่ไม่ใช่เพียงรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ แต่คือ “สัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และศักยภาพของผู้ประกอบการไทย” ในการยืนหยัดแข่งขันบนเวทีโลก ทั้งด้านคุณภาพสินค้าและบริการ การสร้างนวัตกรรมที่แตกต่าง การสร้างแบรนด์ที่แข็งแรง และการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ผู้ที่ได้รับ PM’s Export Award จะได้รับสิทธิ์ในการใช้ตราสัญลักษณ์รางวัลนี้ เพื่อยืนยันกับคู่ค้าต่างประเทศว่า “นี่คือคุณภาพที่โลกเชื่อมั่น” จึงไม่แปลกที่รางวัลนี้จะเป็นทั้ง เกียรติยศสูงสุดและใบเบิกทางสำคัญ ในการต่อยอดศักยภาพของผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดสากล

PM’s Export Award : รางวัลที่สร้างคุณค่าใหม่ให้ผู้ประกอบการ

Prime Minister’s Export Award ถูกจัดขึ้นเพื่อผลักดันผู้ประกอบการไทยในทุกมิติ ตั้งแต่สินค้า บริการ ไปจนถึงกระบวนการบริหารจัดการและการสร้างแบรนด์ ปีนี้แบ่งออกเป็น 7 ประเภทรางวัล

1. รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) จำนวน 9 รางวัล
2. รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) จำนวน 8 รางวัล
3. รางวัลผู้ส่งออกยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืน (Best Green & Sustainable Exporter) จำนวน 7 รางวัล
4. รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) จำนวน 7 รางวัล
5. รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award) จำนวน 6 รางวัล แบ่งออกเป็น 4 สาขา

• สาขาโรงพยาบาล/คลินิก (Health Services) จำนวน 1 รางวัล
• สาขาดิจิทัลคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ (Digital Content & Software) จำนวน 1 รางวัล
• สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (Printing & Packaging) จำนวน 2 รางวัล
• สาขาโลจิสติกส์การค้า (Trade Logistics) จำนวน 2 รางวัล

6. รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP) จำนวน 2 รางวัล
7. รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal) จำนวน 3 รางวัล

ซึ่งทุกมิติรางวัลล้วนมีความหมาย เพราะสะท้อนว่า ผู้ประกอบการไทยไม่ได้หยุดอยู่แค่การผลิตเพื่อขาย แต่กำลัง “พัฒนาศักยภาพครบวงจร” ที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมที่ยั่งยืน การออกแบบที่สร้างคุณค่าเพิ่ม หรือบริการที่ช่วยต่อยอดธุรกิจของคู่ค้าในระดับนานาชาติ

บริษัท พิงค์ บลู แบล็ค แอนด์ ออเร้จน์ จำกัด :
รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design)

หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือการออกแบบ Key Visual ของงาน Bangkok Design Week 2025 ที่ บริษัท พิงค์ บลู แบล็ค แอนด์ ออเร้จน์ จำกัด รับหน้าที่สร้างสรรค์ ความท้าทายคือการทำให้งานดีไซน์ที่เคยสื่อสารกับคนในวงการออกแบบ สามารถขยายวงกว้างไปยังคนทั่วไป และทำให้ทุกคนเห็นว่า “งานออกแบบไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้”

ด้วยการหยิบจับสิ่งใกล้ตัวในสังคมไทย เช่น ลวดลายเหล็กดัด นางกวัก ยันต์ จ่าเฉย หรือแม้แต่เมนูหมูเด้ง ผสมเข้ากับแรงบันดาลใจจากศิลปะหลายวัฒนธรรม บริษัทสามารถสร้างผลงานที่ทั้งสนุก เข้าถึงง่าย และมีสีสัน สะท้อนแนวคิดว่างานออกแบบคือกระบวนการที่ทุกคนสามารถทดลอง เรียนรู้ และพัฒนาได้

ผลลัพธ์คือผู้คนมีส่วนร่วมกับงานมากกว่าทุกปี ทั้งการเข้าชมงาน การพูดถึงบนสื่อสังคมออนไลน์ และการแชร์ Key Visual ที่กลายเป็นไวรัล รางวัล PM’s Export Award หมวด Best Design จึงไม่เพียงยืนยันว่าบริษัทมีความคิดสร้างสรรค์ในระดับสูง แต่ยังยืนยันคุณค่าของงานออกแบบ และสะท้อนว่าดีไซน์คือพลังในการสร้างความแตกต่าง ตลอดจนยังช่วย “ยกระดับความน่าเชื่อถือ” ของงานออกแบบไทยในตลาดต่างประเทศ

เพราะดีไซน์ที่ได้รับการการันตีจากรัฐบาลไทย คือหลักฐานว่ามันสามารถสร้างคุณค่าใหม่ให้กับธุรกิจและต่อยอดสู่เวทีโลกได้จริง

บริษัท ไทยนำ โพลีแพค จำกัด :
รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award) สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (Printing & Packaging)

กว่า 50 ปีที่ “ไทยนำ โพลีแพค” ดำเนินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ บริษัทเชื่อมั่นว่า “การพัฒนาเทคโนโลยีคือหัวใจสำคัญในการทำให้บรรจุภัณฑ์ไทยก้าวสู่มาตรฐานโลก” จึงลงทุนต่อเนื่องในด้านนวัตกรรม ทั้งการใช้ฟิล์มหลายชั้น (Multi-layer structures) ที่ยืดอายุสินค้าและรักษาคุณภาพ ไปจนถึงการเลือกใช้วัตถุดิบที่สอดคล้องกับแนวคิด Circular Economy

ที่สำคัญ ไทยนำ โพลีแพคยังเป็น รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำ เทคโนโลยี Digital Printing เข้ามาใช้กับบรรจุภัณฑ์แบบยืดหยุ่น (Flexible Packaging) ทำให้ผู้ประกอบการสามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่าง สั่งผลิตในปริมาณที่เหมาะสม และเข้าสู่ตลาดได้รวดเร็ว ตอบโจทย์ยุคที่ผู้บริโภคต้องการสินค้าที่ Personalized และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

และยังยึดมั่นในมาตรฐานความยั่งยืนระดับโลก เช่น ISCC Plus และ GRS (Global Recycled Standard) ที่ยืนยันการใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่โปร่งใสและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แนวทางนี้สะท้อนถึงการผสมผสาน “คุณภาพ” และ “ความรับผิดชอบ” ไว้ในบรรจุภัณฑ์ทุกชิ้น

รางวัล PM’s Export Award 2025 คือการยืนยันถึงความแข็งแกร่งด้านคุณภาพและมาตรฐานสากล ที่สะท้อนว่าบริษัทไม่เพียงมีคุณภาพในระดับสากล แต่ยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่พร้อมต่อยอดสู่ตลาดโลก และรางวัลนี้จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและเป็น “ใบเบิกทาง” ให้ลูกค้าต่างประเทศมั่นใจในศักยภาพของบรรจุภัณฑ์ไทยที่ทั้งปลอดภัย มีคุณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และพร้อมเป็นพันธมิตรที่คู่ค้าทั่วโลกมั่นใจได้

บริษัท คอลเลคทีฟ วัน จำกัด :
รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award) สาขาดิจิทัลคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ (Digital Content & Software)

เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุค Creator Commerce “บริษัท คอลเลคทีฟ วัน จำกัด” (Kollective) จึงพัฒนา “แพลตฟอร์ม Kolify” ที่ผสาน AI และ Data Personalization เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อช่วยแบรนด์เลือก Creator ที่เหมาะสมที่สุด สร้างการตลาดที่คุ้มค่าทุกงบประมาณ และติดตามผลได้แบบเรียลไทม์

การทำงานกับแบรนด์ไทยกว่า 500 แบรนด์ทำให้ Kollective เห็นโอกาสในการต่อยอดสู่ตลาดภูมิภาค แต่ละประเทศมีพฤติกรรมผู้บริโภคและระดับความพร้อมของ Creator Commerce ไม่เหมือนกัน บริษัทจึงต้องอาศัยทั้ง Data, Social Monitoring และการทำงานกับ Local Partner เพื่อหาสูตรสำเร็จที่เหมาะสมในแต่ละตลาด

ด้วยจุดเด่น 3 ข้อที่เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน คือ

1. Full-funnel Creator Commerce การวางแผนเชิงกลยุทธ์ตั้งแต่การศึกษา Insight ของตลาด ไปจนถึงการออกแบบการสื่อสารเชิงลึกให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละประเทศ

2. Data-driven Personalization การใช้ข้อมูลเพื่อช่วยให้แบรนด์สามารถเลือก Creator ได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น พร้อมปรับแต่งการนำเสนอ (personalize) ให้สอดคล้องกับสินค้าและภาพลักษณ์ของบริษัท

3. Local Creator Network การสร้างเครือข่ายครีเอเตอร์ท้องถิ่นที่แข็งแรงในแต่ละประเทศ เพื่อช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคได้แม่นยำยิ่งขึ้น

จุดแข็งทั้งสามด้านนี้ทำให้ Kollective ไม่ได้เป็นเพียงตัวกลางในการจับคู่ระหว่างแบรนด์กับครีเอเตอร์ แต่ก้าวไปสู่การเป็น Strategic Partner ที่สามารถปักธงในตลาดต่างประเทศอย่างยั่งยืน

ความแตกต่างของ Kollective คือการสร้าง ระบบที่วิเคราะห์คุณภาพ Creator ได้อย่างแม่นยำ พร้อมระบบคำนวณ Performance ล่วงหน้า เพื่อลดความเสี่ยงให้แบรนด์ คู่ค้าในต่างประเทศจึงมั่นใจได้ว่าทุกแคมเปญที่ทำกับ Kolify จะมีคุณภาพและสร้างผลลัพธ์จริง

รางวัล PM’s Export Award ครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นเกียรติยศ แต่ยังเป็น “หมุดหมายสำคัญ” ที่ตอกย้ำว่าบริษัทพร้อมเป็น Growth Engine ที่ช่วยติดปีกให้แบรนด์ไทยขยายธุรกิจแบบไร้พรมแดน และสร้าง Ecosystem ของ Creator Commerce ที่แข็งแรงในระดับสากล

ตราสัญลักษณ์แห่งความเชื่อมั่น

รางวัล PM’s Export Award 2025 ไม่ได้สะท้อนเพียงความสำเร็จของแต่ละบริษัท แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันว่าผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการแข่งขันบนเวทีโลก ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบที่สร้างคุณค่าใหม่ บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนและมีนวัตกรรม หรือแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยขยายตลาด ทั้งหมดคือบทพิสูจน์ว่าไทยไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิต แต่คือ “ผู้สร้างคุณค่าที่โลกยอมรับ”

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและสร้างโอกาสเหล่านี้ รางวัล PM’s Export Award จึงเป็นมากกว่ารางวัลแห่งความภาคภูมิใจ แต่คือ “สัญลักษณ์แห่งความเชื่อมั่น” ที่จะช่วยยกระดับสินค้าและบริการไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนบนเวทีสากล

รายละเอียดเกี่ยวกับ Prime Minister’s Export Award : https://pmaward.ditp.go.th/

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

---