ลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์ที่ฝรั่งเศสภูมิใจ แต่ก็ต้องปวดหัวจากเหตุปล้น และปัญหามากมาย
หนึ่งในสถานที่ซึ่งชาวฝรั่งเศสสามารถภาคภูมิใจได้มากสุดคือ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เพราะเต็มไปด้วยศิลปะและของโบราณมากมาย จนทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยอดเข้าชมมากสุดในโลกต่อเนื่องหลายปี
ปี 2024 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวมาเข้าชมมากถึง 8.7 ล้านคน ตอกย้ำตำแหน่งสถานที่ท่องเที่ยวดังของฝรั่งเศส
มาปี 2025 พิพิธภัณฑ์ ลูฟวร์ เรียกความสนใจจากทั่วโลกได้อีกครั้ง แต่กลับมาจากข่าวน่าตกใจ สร้างความอับอาย และชี้ให้เห็นถึงปัญหามากมายที่เผชิญอยู่

19 ตุลาคมที่ผ่านมา มิจฉาชีพเพียง 4 คนปล้นมงกุฎสมัยนโปเลียนและอัญมณีเก่าแก่ชุดใหญ่ไปช่วงกลางวันแสกๆ จากนั้นก็ใช้รถติดตั้งบันไดแบบที่บริษัทขนของหรือก่อสร้างใช้กันหนีไปได้อย่างลอยนวล
เหตุการณ์ปล้นสะท้านโลกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ประเด็นเรื่องความปลอดภัยถูกหยิบยกมาพูดถึงทันที แม้รัฐบาลฝรั่งเศสจะระบุว่าได้เริ่มทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานที่แห่งนี้ก่อนที่จะเกิดเหตุ แต่สหภาพแรงงานกลับชี้เป้าไปที่ปัญหาที่ใหญ่กว่า นั่นคือการตัดลดพนักงาน
แหล่งข่าวในสหภาพแรงงาน SUD ในฝรั่งเศสเผยว่า ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา มีการปลดพนักงานไปแล้ว 200 คนจากพนักงานเกือบ 2,000 คน ส่งผลให้การรักษาความปลอดภัยอ่อนแอลง จนทาง SUD ต้องออกแถลงการณ์ประณาม พร้อมย้ำว่า นี่คือคนที่ทำงานในตำแหน่งนั้นจำเป็นมาก
ย้อนไปเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พนักงานพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เพิ่งนัดหยุดงานประท้วงช่วงสั้นๆ เพื่อชี้ให้เห็นถึงปัญหา การขาดแคลนบุคลากร ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่
ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยในปี 1998 หลังจากภาพวาดของ กามีย์ กอโร (จิตรกรชาวฝรั่งเศส) ถูกขโมยไปกลางวันแสกๆ ปิแอร์ โรเซนเบิร์ก ผู้อำนวยการลูฟวร์ในขณะนั้น ก็เคยเตือนแล้วว่าระบบรักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์หละหลวม
ต่อมาเมื่อ โลรองซ์ เดส์ การ์ส เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการคนปัจจุบันในปี 2021 เธอก็ได้ร้องขอให้ตำรวจปารีสเข้ามาตรวจสอบระบบความปลอดภัยทั้งหมด แต่กลับถูกเพิกเฉย
ด้าน ราชิดา ดาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก็ยอมรับหลังเกิดเหตุปล้นว่า ได้รับการเสนอแนะให้เพิ่มกำลังคนโดยเฉพาะงานด้านรักษาความปลอดภัย แต่ยังไม่ทันได้สั่งการก็มาเกิดเหตุปล้นขึ้นเสียก่อน
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ฝรั่งเศสแห่งแรกที่ถูกปล้นในปีนี้ โดยเมื่อกันยายนที่ผ่านมา โจรก็เพิ่งบุกพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในปารีสกลางดึก และขโมยทองคำนักเก็ตไป 6 กิโลกรัม
สำนักงานกลางเพื่อการต่อต้านการค้าทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (OCBC) เตือนว่า พิพิธภัณฑ์กำลังตกเป็นเป้าหมายมากขึ้น โดยตามสถิติการโจรกรรมพิพิธภัณฑ์ในฝรั่งเศสเคยสูงสุด 31 ครั้งเมื่อปี 2015 พอมาปี 2023 มี 9 ครั้ง และปี 2024 มี 21 ครั้ง
ส่วนเป้าหมายที่บรรดาโจรหมายตามากสุดคือ วัตถุที่ทำจากทองคำ ซึ่งก็ดูจะไม่เกินความสามารถเพราะระบบรักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ด้อยกว่าธนาคารอยู่มาก
โลรองต์ นูเญซ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส สงสัยว่าการปล้นครั้งนี้เป็นฝีมือของ ทีมโจรมืออาชีพที่เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อน
ด้าน อเล็กซองดร์ ชิเกลโล ประธานบริษัทประมูล Drouot Patrimoine ให้ความเห็นว่า ไม่อยากเชื่อว่าอัญมณีเหล่านี้ถูกขโมยตามใบสั่ง เพราะสมบัติล้ำค่าที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ ไม่สามารถขายต่อในสภาพเดิมได้โดยสิ้นเชิง และ ส่วนที่ยากที่สุดไม่ใช่การขโมย แต่คือการหาทางหาผู้ที่รับซื้อระบายของ
สำหรับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เต็มไปด้วยประวัติ ข้อมูล เกร็ด และตัวเลขน่าสนใจ โดยสร้างเสร็จมาตั้งแต่ปี 1540 และช่วงแรกเคยเป็นวังของกษัตริย์ฝรั่งเศสมาก่อน พอข้ามมาปี 1793 จึงเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์หลังกษัตริย์หลุยที่ 14 ย้ายไปประทับที่วังแวร์ซาย
ต่อมาระหว่างปลายยุค 1700 ถึงราวปี 1820 ช่วงที่นโปเลียน ปกครองฝรั่งเศส งานศิลปะและโบราณวัตถุต่างๆ ใน พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ก็เพิ่มขึ้นจากการที่ นโปเลียน ไปยึดของมีค่ามาจากประเทศอื่นๆ ในยุโรปและแอฟริกา หลังชนะสงคราม
จากนั้นพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ก็อยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างยาวนาน แต่พอช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องย้ายงานศิลป์ต่างๆ กระจายไปอยู่โบสถ์ และซ่อนไว้ห้องใต้ดินของพิพิธภัณฑ์เอง เพื่อกันไม่นาซีเยอรมันยึดไป
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ก็เข้าสู่ยุคใหม่และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ต้องมาเมื่อมาถึงฝรั่งเศส เช่นเดียวกับหอไอเฟลและประตูชัย
โดยขณะที่ภาพโมนาลิซ่า คืองานศิลป์ที่คนอยากไปดูมากสุดภายในพิพิธภัณฑ์ ลูฟวร์ ปิรามิดแก้วที่ออกแบบโดย ไอเอ็ม เป่ย สถาปนิกอเมริกันเชื้อสายจีนคนดัง ก็เป็นภาพจำและสัญลักษณ์ภายนอกนักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูปแล้วโพสต์อวดกัน เพื่อยืนยันมาว่าถึงแล้ว

ท่ามกลางการประเมินว่า แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เฉลี่ยเกือบๆ 9 ล้านคน จนครองตำแหน่งพิพิธภัณฑ์ที่มียอดนักท่องเที่ยวสูงสุดในโลก และฝรั่งเศสได้เงินเข้าประเทศจากรายได้ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เฉลี่ยอย่างน้อยถึงปีละ 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,500 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่ง ลูฟวร์ ก็เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยปัญหามากมาย ทั้งเป็นสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่บนพื้นที่กว้างใหญ่ และมีงานศิลป์และของจัดแสดงกว่า 35,000 ชิ้นให้ต้องดูแลและรักษาความปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีปัญหาน้ำรั่ว และระบบควบคุมอุณหภูมิในตัวอาคารไม่ดี ซึ่งอาจส่งผลให้ภาพศิลป์กับของเก่าเสียหาย ซ้ำร้ายพอกลับมาเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิด ก็เผชิญกับปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวล้นเกิน (Overtourism) แต่รายได้ที่เข้ามากลับไม่พอ

แน่นอนว่ารัฐบาลฝรั่งเศสไม่นิ่งเฉยกับปัญหาเหล่านี้กับสมบัติของชาติ จึงได้เริ่มโครงการบูรณะครั้งใหญ่ ภายใต้งบ 930 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 30,000 ล้านบาท) ที่กินเวลา 10 ปี
มาปี 2025 พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ก็กลายเป็นข่าวใหญ่จากการถูกปล้นอย่างอุกอาจช่วงกลางวัน ที่กลุ่มโจรเพียง 4 คนใช้แค่เครื่องมือช่างกับเวลาไม่ถึง 10 นาที ปล้นของที่ประเมินค่าไม่ได้ไป และเกินคาดยิ่งกว่าเหตุปล้นในหนังและซีรีส์เสียอีก

นี่ถือเป็นการตอกย้ำหนึ่งในปัญหาใหญ่สุดของพิพิธภัณฑ์ ลูฟวร์ นั่นคือ เรื่องการรักษาความปลอดภัย ที่เคยทำให้ภาพโมนาลิซ่า อันถือว่าเป็นของจัดแสดงที่ดังสุดของพิพิธภัณฑ์ถูกขโมยไปเมื่อปี 1911 / france24, cnn
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
