Trip.com Group เผยข้อมูลทิศทางการเดินทางปี 2568 ในงาน Trip.Best Roadshow: Southeast Asia Travel Trends Unpacked สะท้อนพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวไทยที่เริ่มมองหาประสบการณ์เชิงวัฒนธรรมมากกว่าการเที่ยวเชิงเช็กอิน พร้อมเปิดแผนการเลือกจุดหมายปลายทางที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ “ฉงชิ่ง” กลายเป็นดาวรุ่งของนักท่องเที่ยวไทย โดยยอดเข้าชมข้อมูลบน Trip.Best เพิ่มขึ้น 395% และยอดการจองพุ่งกว่า 828% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนเสน่ห์ของอาหารจัดจ้านและเอกลักษณ์เมืองบนภูเขาที่ตอบโจทย์นักเดินทางรุ่นใหม่
นักท่องเที่ยวไทยวางแผนละเอียดขึ้น ใช้เวลาหาข้อมูลเฉลี่ย 6 วัน
เอ็ดมันด์ ออง ผู้อำนวยการอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผู้จัดการทั่วไป Trip.com สิงคโปร์ กล่าวว่า เทรนด์ปี 2568 ชี้ให้เห็นว่านักท่องเที่ยวไทยกำลังให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์” มากขึ้น
“ผู้ใช้งานชาวไทยใช้เวลาเฉลี่ยถึง 6 วันในการศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจจอง ซึ่งมากกว่าหลายประเทศในภูมิภาค แสดงถึงความต้องการทริปที่วางแผนมาอย่างดี”
ข้อมูลที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวไทยจาก Trip.Best ประจำปี 2568 คือ
- เซี่ยงไฮ้ ครองอันดับ 1 จุดหมายยอดนิยม โต 334% YoY ตามด้วยฮ่องกง โตเกียว และโอซาก้า
- การค้นหา “กิจกรรมท่องเที่ยว” โตแรง 808% YoY โดยหมวด “สถานที่หลบร้อน (Cool Escape Attractions)” เติบโตสูงสุดที่ 1,941%
- การท่องเที่ยวในประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง 25% YoY โดยกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ตยังเป็นปลายทางหลัก
Trip.com ระบุว่า ระบบนิเวศดิจิทัลของไทยทำให้ KOL มีบทบาทสูง ในการตัดสินใจเลือกจุดหมายและกิจกรรมท่องเที่ยว โดยปีนี้พบว่า
- 47% ของผู้ใช้งานกลุ่มครอบครัวติดตาม KOL เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจการเดินทาง
- 45% ของผู้ใช้งานรวมค้นหาไอเดียทริปจากโพสต์ของ KOL ไทย เพิ่มจาก 28% ในปีก่อน
- ยอดซื้อผ่าน โค้ดโปรฯ KOL เพิ่มขึ้น 120%
พลวัตการท่องเที่ยวไทยสะท้อนการใช้งาน Trip.Best ที่ดีขึ้น โดย คะแนนความพึงพอใจสุทธิ (NPS) โต 35% ซึ่งผู้ใช้ชาวไทยให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของข้อมูลและการคัดสรรที่แม่นยำ
ซันนี่ ซัน รองประธาน Trip.com Group ระบุว่า ระบบแนะนำการเดินทางด้วย AI และข้อมูลเรียลไทม์ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยนักเดินทางไทยที่ให้ความสำคัญกับความราบรื่นและคุณภาพของประสบการณ์
“นักท่องเที่ยวไทยต้องการทริปที่ผสมผสานความสะดวกสบายกับการค้นพบใหม่ ๆ ซึ่ง Trip.Best สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนไปนี้ได้อย่างครบถ้วน”