นักท่องเที่ยวไทยขึ้นแท่นชาติที่ใช้ AI วางแผนเที่ยวมากที่สุดในเอเชีย 69% Agoda เดินหน้าพลิกตัวเองสู่ “Personal Travel Assistant”

คุณออมรี มอร์เกนสเติร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Agoda ระบุว่า เป้าหมายของ Agoda ไม่ใช่แค่เป็นแพลตฟอร์ม OTA แต่ต้องการเป็น “Personal Travel Assistant” ของผู้ใช้งานทุกคน ที่สามารถตอบทุกคำถามให้จบทันทีก่อนออกทริป ไม่ว่าจะเป็นราคา เส้นทาง หรือดีลที่คุ้มค่าในขณะนั้น

เพื่อรองรับเทรนด์นี้ Agoda เลือกที่จะใช้ AI เป็นแกนกลางในการเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานให้มีประสิทธิภาพที่สุด โดยเริ่มจาก

  • พัฒนา AI ให้สามารถตอบทุกคำถามเรื่องการเดินทางได้
  • เพิ่มความเร็วในการบริการลูกค้า
  • ทำให้ผู้ใช้ interact กับแพลตฟอร์มมากขึ้น
  • และ optimize กระบวนการทำงานทุกส่วนในองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยใช้ AI

ด้วยฐานข้อมูลที่ลึกจากไทยและตลาดเอเชีย Agoda กำลังก้าวเข้าสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่จะ “ช่วยคิดแทนคนไทย” ตั้งแต่ก่อนออกทริปจนจบทริป

ไทยเข้าสู่ยุค “AI-native Travel Era” อย่างเต็มตัว

จากชุดข้อมูลทั้งหมด ไทยกำลังกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของภูมิภาคที่ยอมรับ AI ในชีวิตประจำวันมากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่ต้องการความเร็ว ความคุ้มค่า และความมั่นใจว่าตัดสินใจไม่พลาดแน่ ๆ

ปี 2026 เป็นต้นไป จะเป็นยุคที่นักเดินทางไทยเริ่มต้นทุกทริปจาก AI ไม่ว่าจะเป็นทริปสั้นในประเทศหรือทริปใหญ่ต่างประเทศ และ Agoda ผู้ที่มีฐานในไทยมาตั้งแต่วันแรก กำลังจะกลายเป็นผู้เล่นที่พร้อมที่สุดในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้ของตลาดการท่องเที่ยวไทย

ข้อมูลจาก Agoda ชี้ชัด เมื่อการท่องเที่ยวของไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุค “AI-guided Journey”

ในช่วงที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกกลับมาฟื้นเต็มตัว ปี 2026 กลายเป็นจุดเปลี่ยนของ “พฤติกรรมการเดินทาง” ของนักท่องเที่ยวไทยอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพราะเที่ยวเยอะขึ้นหรือดีลเยอะขึ้น แต่เพราะ คนไทยกำลังปล่อยให้ AI เป็นคนวางทริปแทนตัวเอง มากขึ้นแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ข้อมูลล่าสุดจาก Agoda แพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลกที่มีฐานผู้ใช้งานหนาแน่นในเอเชีย ระบุว่า 69% ของนักเดินทางไทยมีแนวโน้มใช้ AI เพื่อวางแผนทริป และ 57% เชื่อถือข้อมูลที่ AI สร้าง

ตัวเลขนี้สูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาคอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ประเทศไทยขึ้นแท่น “ชาติที่ใช้ AI วางแผนเที่ยวมากที่สุดในเอเชีย” และเป็นสัญญาณชัดเจนว่า การเดินทางกำลังเคลื่อนจากยุคที่ต้องไถหาข้อมูลเองหลายแท็บ สู่ยุคที่ อัลกอริทึมคิดแทนแทบทุกขั้นตอน

พฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยโดยรวม “เที่ยวถี่ขึ้น แต่พยายามคุมงบให้เท่าเดิม”

สิ่งที่เห็นเด่นที่สุดจากข้อมูล Agoda คือ คนไทยเที่ยวถี่กว่าเดิม แต่ยังคุมงบอย่างเข้ม โดยข้อมูลชี้ว่า

  • 44% ของนักท่องเที่ยวไทยตั้งงบค่าที่พักไม่เกิน 1,600 บาท/คืน
  • 40% อยู่ในช่วง 1,601–3,200 บาท/คืน

แม้ปัจจุบันชนชั้นกลางของไทยจะมีรายได้สูงขึ้น ทำให้สามารถ “กันงบไว้เพื่อประสบการณ์” ได้มากกว่าเดิม แต่พฤติกรรม price-sensitive ยังคงอยู่ = เที่ยวมากขึ้น แต่งบต้องเท่าเดิมหรือน้อยกว่าเดิม

สิ่งนี้ทำให้ AI กลายเป็นตัวช่วยที่ perfect เพราะผู้ใช้ต้องการเครื่องมือที่ที่ช่วย คัดดีลคุ้มที่สุด เปรียบเทียบราคาไว เลือกเส้นทางคุ้มที่สุด และแก้ปัญหา “ข้อมูลล้น-ตัวเลือกเยอะ” ให้จบได้ใน Prompt เดียว

นี่คือบริบทสำคัญที่ผลักให้ไทยเป็นชาติที่มีอัตราการใช้ AI วางแผนเที่ยวสูงที่สุดในเอเชีย

เที่ยวในประเทศ เมืองรองกลับมาแรง ดัน Demand ไทยโตแบบกระจายตัว

เมื่อดูเฉพาะตลาด Domestic พบว่าคนไทยเที่ยวในประเทศมากขึ้นแบบก้าวกระโดด

66% ของคนไทยวางแผนเที่ยวในประเทศมากขึ้น (จาก 30% ในปีก่อน)

เมืองรองที่กำลังมาแรงสุดคือ

(ข้อมูลจากการค้นหาผ่าน Agoda)

– นครศรีธรรมราช +61%

– หาดใหญ่ +45% (ข้อมูลก่อนเหตุการณ์น้ำท่วม)

– ชลบุรี +45%

เมืองรองกำลังกลายเป็น growth engine ใหม่ของตลาดท่องเที่ยว ด้วยตัวกระตุ้นสำคัญอย่าง การเดินทางที่สะดวกขึ้น คอนเทนต์รีวิวมีมากขึ้น และค่าใช้จ่ายที่เข้าถึงง่าย

เที่ยวนอกประเทศ Outbound ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศจีน ในขณะที่การไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้ลดลง

Top 5 จุดหมายต่างประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทยปี 2025

  1. ญี่ปุ่น (=)
  2. เวียดนาม (=)
  3. จีน (+2)
  4. เกาหลีใต้ (-1)
  5. มาเลเซีย (-1)

และ 3 จุดหมายที่กำลังพุ่งแรงที่สุด คือ (ข้อมูลจากการค้นหาผ่าน Agoda)

  1. มาเก๊า +107%
  2. อินโดนีเซีย +87%
  3. จีน +84%

ฝั่ง Outbound สิ่งที่ซับซ้อนคือราคาตั๋วผันผวน และตัวเลือกมากจนเทียบเองไม่ทัน นี่คือเหตุผลที่ AI เข้ามาเป็นตัวช่วยคัด flight-route-package ที่ “คุ้มที่สุด” ให้แทนการวิเคราะห์ด้วยตัวเอง

ทำไมคนไทยถึงเป็นผู้นำเอเชียด้านการใช้ AI วางแผนเที่ยว?

เพราะ Pain Points ของคนไทยตรงกับสิ่งที่ AI แก้ไขได้

  1. ไทยคือชาติที่ต้องการ “พักผ่อนจริงจัง” (73%) และอยากได้แผนเที่ยวแบบไม่เครียด
  2. ถ้าตัดเรื่องวีซ่า 69% จะเที่ยวบ่อยขึ้น และ 57% พร้อมไปที่ใหม่ทันที
  3. โปรโมชั่นเยอะ ราคาเปลี่ยนเร็ว ตัวเลือกล้น
  4. เมืองใหม่ ๆ ติดเทรนด์เร็วจากโซเชียล เลือกเองไม่ทัน

AI จึงตอบโจทย์ทั้งในบริบทของการค้นหา การวางแผน และการตัดสินใจ


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer