ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกรุงศรีระบุว่า ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 10-13% ในช่วงปี 2562-2564

โดยได้แรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของสังคมไทย อาทิ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การขยายตัวของชุมชนเมืองและการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลาง ผนวกกับกระแสการดูแลสุขภาพกำลังอยู่ในความสนใจของคนทั่วโลก

ล่าสุดโรงพยาบาลพญาไท 1 ประกาศวิสัยทัศน์ครบรอบ 43 ปี ตั้งเป้าเป็น “โรงพยาบาลชั้นนำที่ผู้รับบริการให้ความไว้วางใจสูงที่สุด” เตรียมปรับโครงสร้างใหญ่เป็น ‘Phyathai Medical Campus’

ยกระดับเป็นโรงพยาบาลที่ผู้รับบริการให้ความไว้วางใจสูงที่สุด

ดร.นพ. เกริกยศ ชลายนเดชะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 1 เปิดเผยถึงนโยบายการดำเนินงานในปี 2562 ว่า โรงพยาบาลฯ มุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อยกระดับสู่การเป็นโรงพยาบาลที่ผู้รับบริการให้ความไว้วางใจสูงที่สุด หรือ High Reliability Hospital ภายในปี 2564

“ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา เป็นปีที่โรงพยาบาลพญาไท 1 ดำเนินงานด้านยุทธศาสตร์อย่างแท้จริง คือ การเอานวัตกรรมนำหน้าเพื่อให้สามารถพัฒนาโรงพยาบาลไปได้ โดยจะเป็นโรงพยาบาลแห่งนวัตกรรมในราคาที่เหมาะสม (boutique and Innovative hospital)”

โดยให้ความสำคัญกับศักยภาพด้านการเป็นโรงพยาบาลที่มีคุณภาพการรักษาที่ดี มีความปลอดภัย และการเป็นโรงพยาบาลที่มีประสิทธิภาพสูง ผ่านแนวทางการพัฒนาระบบการบริหารแบบ Strategic Business Unit ทำให้เป็นศูนย์โรคเฉพาะทางหรือโรคที่มีความซับซ้อน ตลอดจนการพัฒนาระบบ Nurse Case Manager หรือพยาบาลผู้จัดการรายกรณีเพื่อเชื่อมโยงระบบการให้บริการและการรักษาระหว่างแพทย์และผู้ป่วย

ปรับใหญ่ในรอบ 43  ปี ปั้นเป็น Phayathai Medical Campus

ดร.นพ. เกริกยศกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังปรับโครงสร้างใหม่ของเครือข่ายโรงพยาบาลพญาไท 1 พญาไท 2 และเปาโล พหลโยธิน เพื่อสร้างเป็น ‘Phyathai Medical Campus’ หรือ PMC ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่ในรอบ 43 ปี และเป็นการปรับเพื่อให้ผู้ที่มาใช้บริการได้รับความทันสมัยมากขึ้น โดยชูแนวคิดเป็น State of the Art ที่เป็นมาตรฐานระดับโลก

โดยโพสิชั่นนิ่งของโรงพยาบาลพญาไท  1 จะเป็นศูนย์ชั้นนำด้านสมองและประสาทวิทยา ผู้สูงอายุ และมะเร็ง

โรงพยาบาลพญาไท 2 จะเป็นศูนย์ชั้นนำด้านหลอดเลือดและหัวใจ และโรคเด็ก

ส่วนโรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน จะเป็นศูนย์ชั้นนำด้านศัลยกรรม และกระดูกและข้อ

ต่อยอดขยาย INTERNATIONAL ZONE

นอกจากนี้ โรงพยาบาลพญาไท 1 ยังเปิดพื้นที่ INTERNATIONAL ZONE พัฒนาศักยภาพด้านการรักษาเพื่อรองรับลูกค้าต่างชาติที่ต้องการการรักษาโรคกลุ่มที่มีความซับซ้อน และโรคเฉพาะทาง (Innovative Product) หลังใช้เวลาปรับปรุงมาเป็นเวลา 3 ปี

โดยในปี 2562-2563 โรงพยาบาลมีเป้าหมายในการรุกขยายฐานลูกค้าต่างชาติใหม่เพิ่มเติม ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสร้างรายได้ของโรงพยาบาลให้เติบโตขึ้นได้

‘กัมพูชา’ คือลูกค้าต่างชาติอันดับ 1  

ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าของโรงพยาบาลพญาไท 1 แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย 65% และต่างชาติ 35%

โดยในจำนวนลูกค้าต่างชาติ

80% มาจากกัมพูชา

5% มาจากพม่า

5% มาจากยุโรป และอเมริกา

4% มาจากจีน และชาติอื่นๆ

โดยปี 2561 โรงพยาบาลมีการเติบโตของจำนวนลูกค้าต่างประเทศคิดเป็น 8.6% และ คาดว่าในปี 2562 จะมีการเติบโตของลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 10%

สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป ดร.นพ. เกริกยศกล่าวว่า โรงพยาบาลได้ทำการขยายพื้นที่ด้านหลังและด้านข้างโรงพยาบาลเพื่อสร้างอาคารแห่งใหม่ ความสูง 17 ชั้น ให้เป็นศูนย์การรักษาด้านอายุรศาสตร์ประสาทวิทยาครบวงจรที่มีมาตรฐานระดับโลก โดยตั้งเป้าต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านการเป็นศูนย์โรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร Comprehensive Stroke Center สู่การเป็น State of the Art of Neurology หรือศูนย์การรักษาโรคทางด้านสมองและประสาทวิทยาที่มีคุณภาพระดับโลก คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 3 ปีข้างหน้า

“โรงพยาบาลพญาไท 1 ประสบความสำเร็จในการเป็นศูนย์โรคหลอดเลือดสมองที่ได้รับการรับรอง Comprehensive Stroke Center Certification จาก DVN GL ซึ่งเป็นองค์กรผู้นำด้านการพัฒนาบริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศ เราจึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถเดินหน้าสู่การเป็น State of the Art of Neurology ระดับโลก เพื่อมอบการบริการที่แตกต่างและเป็นหนึ่งเดียว”

 

 

 

– โรงพยาบาลพญาไท 1 ก่อตั้งเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2519

– ประกอบด้วย 3 อาคารที่สามารถรองรับผู้ป่วย 220 เตียง หลังสร้างอาคารหลังใหม่แล้วเสร็จจะสามารถรองรับผู้ป่วยเพิ่มเป็น 350 เตียง

– มีผู้ใช้บริการทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก 1,500 ราย/วัน เฉลี่ย 40,000 รายต่อเดือน



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online