เปิดผลประกอบการ “คูโบต้า” ยอดขายครึ่งปีแรก 2.7 หมื่นล้าน โต 9% อานิสงส์ภาคการเกษตรฟื้น เผยตลาดส่งออกหลัก กัมพูชา ลาว เมียนมา ทำรายได้แตะ 1.7 หมื่นล้าน วางแผนระยะ 5 ปีทำรายได้ 1 แสนล้าน เพิ่มสัดส่วนตลาดส่งออกแตะ 50% พร้อมขยายตลาดไปอเมริกาใต้-แอฟริกา
สมศักดิ์ มาอุทธรณ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยช่วงครึ่งปีแรกมีมูลค่าราว 45,000 ล้านบาท เติบโต 4-5% เป็นผลมาจากกำลังซื้อของเกษตรกรที่ปลูกข้าว ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ส่งผลให้ความต้องการเครื่องจักรการเกษตรเพิ่มขึ้น และภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการใช้เครื่องจักรแทนแรงงานในภาคการเกษตร
นอกจากนี้ บริษัทยังกระตุ้นกำลังซื้อของเกษตรกรด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก ได้แก่ แทรกเตอร์ขนาด 57 แรงม้า รุ่น MU5702 เจาะกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ผสม และเครื่องหยอดข้าวรุ่น DS10
ขณะที่คูโบต้าก็มียอดขายกลุ่มแทรกเตอร์เพิ่มขึ้น 16% ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของคูโบต้าขยับไปที่ 70-80% (จากมูลค่าตลาด 4.5 หมื่นล้าน)
ผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2562 บริษัทมียอดขาย 27,000 ล้านบาท เติบโต 9% (YoY) แบ่งเป็นในประเทศ 17,000 ล้านบาท และต่างประเทศ 10,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60:40
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวสินค้ารุ่นพิเศษรุ่น ช้างศึกอิดิชั่น (Changsuek Edition) จากการเป็นผู้ร่วมสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้กับทัพช้างศึก ทีมฟุตบอลชาติไทย โดยรุ่นพิเศษจะมีราคาสูงขึ้นเฉลี่ย 8,000-20,000 บาท ตั้งเป้ายอดขายรุ่นใหม่ที่ 1,000 คัน ภายในระยะเวลา 2 เดือน (กันยายน-ตุลาคม)

โดยสิ้นปี บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 60,000 ล้านบาท เติบโต 12% (จากปี 2561 ที่ 53,000 ล้านบาท) แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ในประเทศ 34,000 ล้าน และต่างประเทศ 26,000 ล้าน
ฮิโรโตะ คิมุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดส่งออกหลักคือประเทศกลุ่ม CLM (กัมพูชา ลาว เมียนมา) ซึ่งปีที่ผ่านมาตลาดในกัมพูชาเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ลาวและเมียนมาเติบโตลดลง
อย่างไรก็ตาม ฮิโรโตะ กล่าวว่า สยามคูโบต้ายังคงเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 ที่ส่งออกเครื่องจักรกลการเกษตร พร้อมชูจุดขายเรื่องบริการ และเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับการใช้งานในกลุ่มพืชหลัก

ส่วนเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้า (2567) บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวม 100,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 10% (CAGR) และเพิ่มสัดส่วนการขายตลาดต่างประเทศให้ถึง 50% เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนาอย่างกัมพูชา ลาว และเมียนมา
ฮิโรโตะกล่าวอีกว่า บริษัทจะเน้นการขยายตลาดในภูมิภาคเซียน รวมถึงอเมริกาใต้ และแอฟริกา และคาดการณ์ว่าภายใน 5 ปีบริษัทอาจใช้งบลงทุนเฉลี่ย 100-200 ล้านต่อปี หรือ 1,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีเพื่อขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ฮิโรโตะมองว่า เกษตรกรรมในอนาคตจะใช้เครื่องจักรกลมากขึ้น เพื่อรองรับผลผลิตและทดแทนแรงงานคนที่หลายๆ ประเทศเริ่มเข้าสู่สังคมสูงวัย (Aging Society)
–
