Influencer คืออะไร และสำคัญกับแบรนด์อย่างไร ? วิเคราะห์ตลาด Influencer มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์
ในยุคที่อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียยังไม่เฟื่องฟู คำตอบก็คือ เวลาจัดอีเวนต์แล้วมีคนเยอะ มีแฟนคลับตาม ห้างแตก ไปที่ไหนคนก็รู้จัก
และต้องย้อนมาถามอีกว่า แฟนคลับเยอะนั้นวัดตามจำนวนแฟนคลับ หรือปริมาณคนที่ไปร่วมงาน หรืออะไรกันแน่
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ในปัจจุบันเราต้องพึ่งบิ๊กดาต้าที่รวบรวมข้อมูล อินไซด์ต่างๆ เพื่อให้สามารถวัดผลได้ตรงจุด และเป้าหมาย เพื่อวัดผลอินฟลูเอนเซอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไวช์ไซท์ (ประเทศไทย) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลด้านโซเชียลมีเดียในประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลตลาดอินฟลูเอนเซอร์โตขึ้นเรื่อยๆ เพราะแลนด์สเคปเปลี่ยนไป โดยพบว่า 63% ของแบรนด์หันมาใช้กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์มากขึ้น
เพราะปัจจุบันคนไม่เชื่อแบรนด์ แต่กลับอยากได้รับประสบการณ์ อยากเห็นรีวิว อยากได้ความคิดเห็นที่เป็นกลางมากขึ้น เพราะพวกเขาเหล่านั้นรู้อยู่แล้วว่าแบรนด์พยายามจะขายของ
พบว่าทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่แบรนด์ใช้จ่ายลงไปกับ Influencer Marketing นั้น จะได้รับเงิน 5.2 ดอลลาร์กลับมา และมูลค่าตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในปี 2020 นั้น คาดว่าจะมีมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ ราว 3 แสนล้านบาท

แล้วตลาดอินฟูลเอนเซอร์ในประเทศไทยเป็นอย่างไร
ไวซ์ไซท์ รวบรวมข้อมูลจากทอป 1,500 อินฟลูเอนเซอร์
พบว่ามีจำนวนโพสต์มากถึง 685,000 โพสต์ แบ่งเป็นจากช่องทาง
เฟซบุ๊ก 568K เพิ่มขึ้น 19%
อินสตาแกรม 71K ลดลง 7%
ทวิตเตอร์ 30K ลดลง 32%
ยูทูบ 18 K เพิ่มขึ้น 6%
สามารถสร้างการเข้าถึง 1.5 พันล้าน Engagement จาก
เฟซบุ๊ก 1,099M เพิ่มขึ้น 17%
อินสตาแกรม 302M ลดลง 8%
ทวิตเตอร์ 23M ลดลง 13%
ยูทูบ 119K เพิ่มขึ้น 19%

โดย 5 Cluter ที่สร้าง Engagement มากที่สุดคือ
Lifestyle 771M
Food & Dining 145M
Beauty & Fashion 129M
Social News 115M
Pets 68M
โดยกลุ่มที่น่าจับตาและเติบโตอย่างมากคือ Food & Dining เติบโต 31% โดย Engagement ที่เพิ่มขึ้นได้มาจากเพจ wongnai cooking, กับข้าวกับปลาโอ และ ศุภชัย เสมอมิตร โหน่งโชว์
และกลุ่ม Pets ที่เติบโตมากถึง 62% โดย Engagement ที่เพิ่มขึ้นได้มาจากเพจ Dog’s clip, ข้าวจ้าว หมากวนตีน, พี่โบน
หมายเหตุ: คำนวณตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.


- ไวซ์ไซท์ จัดทำ Thailand’s Influencer Performance Report ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเก็บข้อมูลของอินฟลูเอนเซอร์ในกลุ่มทอปจำนวน 1,500 คนตั้งแต่ต้นปี 2019
- แบ่งอินฟลูเอนเซอร์ออกเป็น 4 กลุ่ม โดยดูจากจำนวนผู้ติดตาม และเอนเกจเมนต์ คือ เกรด A+ สัดส่วน 10% เกรด A สัดส่วน 30% เกรด B สัดส่วน 50% และ เกรด C สัดส่วน 10%
- และในกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์สามารถแบ่งได้เป็น 13 Cluter คือ Beauty & Fashion, Financial, Food & Dining, Gaming, Health & Fitness, IT & Digital, Kids, Lifestyle, Online Program, Pets, Promotion, Social News และ Travel
พบว่า 13% ของอินฟลูเอนเซอร์ในไทยอยู่ในระดับ B และ C คือ ยอดฟอลโลเวอร์ไม่สูงมาก แต่ทำคอนเทนต์ออกมาแล้วเอนเกจเมนต์ดี
และ 32% อยู่ในระดับ A+ และ A มียอดฟอลโลเวอร์สูง แต่เอนเกจเมนต์ต่ำกว่าค่ากลาง


อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
