ข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าธุรกิจ Food Delivery ในปี 2562 จะมีมูลค่าอยู่ที่ 33,000-35,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 14% จากปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็น 8% ของมูลค่าธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยปี 2562

โดยเป็นรายได้ที่ Drivers หรือคนส่งจะมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 3,903 ล้านบาท/App Operator 3,357 ล้านบาท/ร้านอาหาร 25,740 ล้านบาท

และกลุ่มคนสำคัญที่ทำให้ตลาด Food Delivery เติบโตก็คือกลุ่มมิลเลนเนียลซึ่งเป็นคนอายุ 18-35 ปี ที่แบ่งเป็นผู้ชาย 33% และผู้หญิงอีก 67%

โดย GET อีกหนึ่งผู้เล่นเบอร์ต้นๆ ในตลาดนี้ ก็ได้เปิดเผยข้อมูลแบบอินไซต์ว่า ณ ปัจจุบัน มีร้านอาหารซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้าน SME อยู่ในระบบประมาณ 20,000 ร้าน ซึ่งรายได้ของ GET ก็จะมาจากค่าคอมมิชชั่นที่ได้จากร้านอาหารเวลามีคนมาสั่งผ่าน App

จากข้อมูลในระบบของ GET พบว่าเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานสั่งชานมไข่มุกไปมากถึง 300,000 แก้ว และมียอดสั่งของกินเล่นที่เป็นขนมปังไส้ต่างๆ กว่า 190,000 ชิ้น

โดยช่วงเวลาที่ผู้ใช้งานของ GET จะสั่งอาหารมากที่สุดคือช่วงเย็น รองลงมาคือช่วงบ่าย และสุดท้ายคือช่วงเช้า ซึ่งพฤติกรรมในการสั่งในแต่ละครั้งก็มักจะสั่งในจำนวนที่ไม่มาก แต่มีความถี่ในการสั่งที่บ่อย เฉลี่ยแล้ว 4-5 ครั้ง/คน/เดือน

กลยุทธ์สำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาสั่งอาหารผ่าน GET ก็คือการจัดโปรโมชั่น

โดยวิธีการจัดโปรโมชั่นของ GET ก็คือการที่ GET จะกำหนด Theme ขึ้นมา เช่น ช่วงนี้เป็นช่วงคริสต์มาส ก็จะจัดโปรลดราคาอาหารที่เป็นสีแดง แล้วร้านค้าที่อยู่ในระบบก็จะมาเข้าร่วม

เป็นการลดราคาที่ร้านจะต้องรับผิดชอบส่วนลดหรือค่าโปรโมชั่นเองประมาณ 80-90% ส่วนที่เหลือก็จะเป็นงบการตลาดที่ทาง GET อัดฉีดเพิ่มเข้าไปให้

4 เมนูขายดีสุดใน GET 

1. ชานมไข่มุก

2. ขนมปัง

3. โจ๊ก

4. หมูทอด



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online