Blue by Alain Ducasse ห้องอาหารของเชฟมิชลินที่ ไอคอนสยาม

ไอคอนสยามทุ่มงบกว่า 240 ล้านบาท ผนึกกำลัง อลัง ดูคาส (Alain Ducasse) เชฟชื่อดังระดับตำนาน เจ้าของรางวัลการันตีผลงานมากที่สุดคนหนึ่งของโลก เตรียมเปิด ‘Blue by Alain Ducasse’ ภัตตาคารระดับ Fine Dining แห่งแรกในไทยภายใต้ชื่อของอลัง ดูคาส ที่ไอคอนสยาม วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 นี้

Blue by Alain Ducasseโดดเด่นด้วยโลเคชั่นอันงดงามของทัศนียภาพแบบพาโนรามาของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นที่สำคัญเติมเต็มความสมบูรณ์แบบ พร้อมทั้งช่วยยกระดับสถานะความแข็งแกร่งของกรุงเทพมหานคร ในฐานะจุดหมายปลายทางที่เป็นสวรรค์ของสุนทรียะแห่งอาหารเลิศรส (Gastronomic Destination) ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

**อลัง ดูคาส** เชฟระดับโลก ผู้ครองมิชลินสตาร์มากที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน

สำหรับ อลัง ดูคาส คือเมนเทอร์ผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่เชฟชื่อดังของโลกมาแล้วมากมายหลายสิบคน และเป็นผู้ที่ครอบครองมิชลินสตาร์จำนวนมากที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นเจ้าของภัตตาคารที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกทั้งในมอนติคาร์โล, ปารีส และลอนดอน รวมทั้งในภูมิภาคเอเชีย ที่โตเกียว, ฮ่องกง และสิงคโปร์

ชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ ไอคอนสยาม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “การเปิดภัตตาคารBlue by Alain Ducasseถือเป็นโอกาสสำคัญ และเป็นการประกาศความเป็นเลิศในฐานะจุดหมายปลายทางที่เป็นสวรรค์ของสุนทรียะแห่งอาหารเลิศรส ของกรุงเทพฯ ให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ไอคอนสยามได้รับความเชื่อมั่นจากเชฟอันดับหนึ่งของโลก ไว้วางใจและตัดสินใจมาเปิดภัตตาคารแห่งแรกภายใต้ชื่อของตนเองในกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับที่เคยเปิดมาแล้วในมหานครสำคัญหลายแห่งของโลก”

“โดยไอคอนสยามได้ทุ่มเงินลงทุนมากถึง 240 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเป็นประวัติการณ์สำหรับประเทศไทยในการเปิดภัตตาคารเพียงแห่งเดียว ซึ่งภัตตาคารแห่งนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของไอคอนสยามในการเป็นจุดหมายปลายทางที่รวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดของไทยและสิ่งที่ดีที่สุดของโลกเข้าไว้ด้วยกัน เรามั่นใจว่าฝีมือระดับตำนานระดับโลกของทีมงาน จะทำให้ Blue by Alain Ducasse เป็นภัตตาคารที่มีความโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงเกียรติภูมิที่ดีงามให้กับกรุงเทพฯ ได้ดียิ่งขึ้นไปอีก”

อลัง ดูคาส กล่าวว่า “กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งแรงบันดาลใจ และผมรู้สึกว่าที่นี่คือเมืองที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นเพราะเป็นเมืองที่ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้ ผมจึงได้สร้างสรรค์เมนูพิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ Blue by Alain Ducasse ที่ไอคอนสยามเท่านั้น เพื่อมอบความพิเศษยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งจะช่วยเติมเต็มและตอกย้ำความน่าตื่นเต้นดึงดูดใจของไอคอนสยามซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของภัตตาคารแห่งนี้ ตลอดจนสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายอันเป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี”

โดย Blue by Alain Ducasse ที่ไอคอนสยาม ถูกเนรมิตออกมาในสไตล์ฝรั่งเศสแบบร่วมสมัย ที่มีเสน่ห์ และจะมอบสุดยอดประสบการณ์ในการดื่มด่ำและอิ่มเอมอาหารเลิศรส จากฝีมือและความเป็นเลิศของทีมงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความมีชีวิตชีวาที่ไม่หยุดนิ่ง และความใส่ใจในทุกรายละเอียด

เป็นภัตตาคารระดับ Fine Dining ที่มีความประณีต หรูหรางดงาม แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่เป็นทางการมากจนเกินไป จึงเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถมาเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศ หรือมานัดพบปะสังสรรค์ได้ง่ายๆ ไม่น่าจะเป็นการนัดพูดคุยธุรกิจ หรือพาบุคคลอันเป็นที่รักและแขกคนสำคัญมาเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่เป็นที่สุดในการรับประทานอาหารรสเลิศร่วมกัน

วิลฟริด ฮ็อคเกต เอ็กเซกคิวทีฟ เชฟ กล่าวว่า “เราต้องการนำเสนอรสชาติต้นตำรับของแท้แบบดั้งเดิม พร้อมกับการตอกย้ำให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยการเลือกใช้วัตถุดิบจากฟาร์มขนาดเล็ก และปลาที่ผ่านกรรมวิธีการคัดสรรมาอย่างถูกต้องเท่านั้น”

“เรานำเสนอเมนูเรียกน้ำย่อยจานเล็กๆ และอาหารจานเด็ดที่เป็นซิกเนเจอร์หลากหลายรายการซึ่งมีรสชาติถูกปาก และครองใจผู้คนทั่วโลกที่ชื่นชอบอาหารเลิศรสและบรรยากาศชั้นเยี่ยม” วิลฟริดกล่าว

วิลฟริดมีประสบการณ์การทำงานในระดับนานาชาติกว่า 20 ปี ซึ่งรวมไปถึงการทำงานใน ‘Le Louis XV – Alain Ducasse’ ภัตตาคารระดับตำนานของเจ้าของมิชลินสตาร์ 3 ดวง ที่โรงแรม Hotel de Paris ในมอนติคาร์โลเป็นเวลานานถึง 3 ปี และยังมีประสบการณ์ในภัตตาคารระดับมิชลินสตาร์อื่นๆ อีก 3 แห่ง

อเล็กซ์ คัฟลีย์ ผู้ดูแลการเปิดภัตตาคาร ‘Alain Ducasse at Morpheus’ ในมาเก๊า ซึ่งได้รับดาวมิชลินสตาร์ 2 ดวงตั้งแต่ปีแรกที่เปิดให้บริการ ได้รับแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของภัตตาคารBlue by Alain Ducasseโดยจะมีพนักงานในความดูแลจำนวน 50 คน

“ทีมบริการของเรา จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้Blue by Alain Ducasseมีความพิเศษที่เยี่ยมยอด โดยทุกคนได้รับการฝึกและอบรมเป็นอย่างดีให้ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ทุกองค์ประกอบมีความสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ ตลอดจนจะต้องมีทัศนคติที่ดี และมีไหวพริบทักษะในการพลิกแพลงสิ่งต่างๆ ได้อย่างเหนือชั้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะทำให้ลูกค้าได้รับที่สุดของประสบการณ์ความประทับใจแบบไม่รู้ลืมอย่างแท้จริง” อเล็กซ์กล่าว

Blue by Alain Ducasse ตั้งอยู่บนชั้น 1 ของไอคอนสยาม ในบริเวณที่เปิดรับทัศนียภาพอันงดงามแบบพาโนรามาของแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดให้บริการอาหารเที่ยงและอาหารค่ำทุกวัน โดยรองรับลูกค้าได้ 84 ที่นั่งใน 29 โต๊ะ และมีห้องส่วนตัวอีก 2 ห้องที่รองรับได้อีก 20 ที่นั่ง นอกจากนั้น ยังมีเลาจน์ ที่สามารถรองรับลูกค้าได้ 24 ที่นั่ง เสิร์ฟชายามบ่าย อาหารว่าง และแชมเปญ เปิดให้บริการทุกวัน ทั้งวันเช่นเดียวกัน

งานตกแต่งภายในด้วยธีมสีน้ำเงิน-ทอง ที่เสริมด้วยลวดลายนุ่มนวลอ่อนช้อย ผลงานการออกแบบโดย Jouin-Manku จากกรุงปารีส ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการออกแบบให้กับภัตตาคารระดับ 3 มิชลินสตาร์ทุกแห่งของอลัง ดูคาส โดยลูกค้าผู้มาใช้บริการภัตตาคารแห่งนี้ จะได้รับการต้อนรับเข้าสู่โถงผนังไม้ ผ่านเข้าไปยังเลานจ์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสวนหย่อมในพระราชวังแวร์ซาย ที่ถูกโอบล้อมด้วยต้นวอลนัทและประทีปทองเหลือง ก่อนจะเข้าไปถึงตัวภัตตาคารที่อยู่ด้านใน ซึ่งอยู่ภายใต้โคมระย้าอันงามสง่า ส่องประกายระยิบระยับขับกับพื้นผิวที่เป็นรอยจีบและผนังสีน้ำเงินรอยัลบลูที่หรูหราล้ำค่า พร้อมกับกระจกหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานเปิดรับทัศนียภาพอันงดงามแบบพาโนรามาของกรุงเทพฯ”

“อลัง ดูคาส เชฟคนแรกของโลกที่สามารถคว้ามิชลินสตาร์ 3 ดวงมาประดับภัตตาคาร Le Louis XV ที่โรงแรม Hotel de Paris ในมอนติคาร์โล เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว”

นับจากนั้นเป็นต้นมา อลัง ดูคาส ก็เป็นเชฟคนแรกของโลกที่เป็นเจ้าของภัตตาคารจำนวนถึง 3 แห่งซึ่งคว้ามิชลินสตาร์ 3 ดวงมาครอบครองได้พร้อมๆ กัน เป็นบทพิสูจน์ที่การันตีพรสวรรค์ในการเนรมิตอาหารเลิศรสและที่สุดของประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ ซึ่งมีมาตรฐานเฉกเช่นเดียวกันทุกประการในภัตตาคารทุกแห่งทั่วโลก

อลัง ดูคาส มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่มอบความใส่ใจในทุกรายละเอียดในการสร้างสรรค์สุนทรียะแห่งอาหารเลิศรสอย่างครบถ้วนในทุกมิติ ตั้งแต่ภาชนะที่ใช้ คุณภาพของงานบริการ การกำกับดูแลทีมงาน และการจัดระเบียบห้องครัว จึงกล่าวได้ว่า อลัง ให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบอย่างแท้จริง ซึ่งความใส่ใจระดับสูงสุดนี้ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการคว้ามิชลินสตาร์ได้มากถึง 21 ดวง มาประดับภัตตาคาร 31 แห่งใน 9 ประเทศ