

Uber เผยผลสำรวจพบแนวโน้มปัญหาการจราจรติดขัดในหลายๆ เมืองในภูมิภาคอาเซียนเลวร้ายลงทุกปี พบกรุงเทพฯ มีปัญหาการจราจรติดขัดที่มากที่สุดในภูมิภาค โดยคนกรุ่งใช้เวลาเฉลี่ยวันละ 72 นาทีกับรถติด เสนอใช้บริการร่วมเดินทางช่วยแก้ปัญหารถติด
ศิริภา จึงสวัสดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย Uber กล่าวว่า Uberได้ร่วมกับ Boston Consulting Group ในการสำรวจพบแนวโน้มปัญหาการจราจรติดขัดในหลายๆ เมืองในภูมิภาคอาเซียน โดยพบว่า กรุงเทพฯ มีปัญหาการจราจรติดขัดที่มากที่สุดในภูมิภาค ตามมาด้วยจาการ์ตา มะนิลา ฮานอย และกัวลาลัมเปอร์

ผลสำรวจชี้ว่า สำหรับผู้คนที่ขับรถบนถนนในกรุงเทพฯ เสียเวลาไปกับรถติดโดยเฉลี่ย 72 นาทีในแต่ละวัน และอีก 24 นาทีเพื่อวนหาที่จอดรถ โดยในชั่วโมงเร่งด่วนนั้นรถจะติดมากกว่าช่วงปกติถึง 2 เท่า เนื่องจากมีรถอยู่บนถนนกว่า 160% ของปริมาณรถที่ควรจะมี ทำให้คนกรุงเทพฯเสียเวลาไปโดยเฉลี่ย 24 วัน/ปี กับรถติดและการหาที่จอดรถ และคิดเป็นต้นทุนทางโอกาสโดยเฉลี่ยของคนขับรถในกรุงเทพฯ ที่หายไปกับรถติดและการหาที่จอดรถเฉลี่ย 157,000 บาท/ปี/คน
ผลสำรวจยังบอกอีกว่า ทุกวันนี้กรุงเทพฯ มีรถมากกว่า 5,800,000 คัน และต้องใช้พื้นที่เท่ากับ 8 สนามบินสุวรรณภูมิในการจอดรถทั้งหมด โดยคนกรุงใช้รถเฉลี่ย 2.1 คนต่อรถ 1 คัน โดยหนึ่งปีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยสู่อากาศจากรถยนต์ในกรุงเทพสามารถเติมพิ้นที่ขนาดตึกมหานครได้มากถึง 23,000 ตึก
“ต้องใช้ 2 มาตรการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาการจราจรให้ดีขึ้น นั่นคือการลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน เช่น รถไฟฟ้าที่รัฐกำลังลงทุนสูงถึง 1.5 แสนล้านบาทภายใน5 ปีต่อจากนี้ กับการใช้บริการร่วมเดินทาง หรือ Ridesharing”
เชื่อว่า บริการร่วมเดินทาง (ridesharing) จะสามารถลดจำนวนรถบนถนนในเมืองได้ถึง 60% หรือเท่ากับ 3.5 ล้านคัน และได้พื้นที่คืนจากที่จอดรถคิดเป็นพื้นที่มากถึง 275 เท่าของสวนลุมพินี หากบริการร่วมเดินทางถูกใช้เป็นที่กว้างขวางในหมู่ผู้เดินทาง
ทั้งนี้ Uber คือ บริการร่วมเดินทาง หรือ Ridesharing ที่เข้าสู่เมืองไทยมาได้ราว 3.5 ปีแล้ว ปัจจุบันให้บริการใน 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย ชลบุรี และล่าสุดที่ขอนแก่นมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยเดือนละ 400,000 ราย ซึ่งขณะนี้ Uber กำลังศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะเปิดให้บริการ Uberpool ที่สามารถค้นหาผู้โดยสารที่เดินทางไปด้วยกันให้นั่งรถคันเดียวกันได้
อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ Uber ยังไม่มีกฎหมายที่ออกมารองรับกับบริการที่เกิดขึ้น ซึ่งทางฝ่าย Uber เองก็อยู่ในช่วงระดมรายชื่อให้ครบ 50,000 รายชื่อ เพื่อยื่นให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับบริการร่วมเดินทาง (Ridesharing) ต่อไป
ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
Related