ตราบใดที่ผู้ประกอบการยังมีการผลิตและขนส่งสินค้าและผู้บริโภคยังมีการจับจ่ายใช้สอย ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ก็มีทิศทางเติบโตได้ต่อเนื่องสอดคล้องไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่เต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจ โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Nominal GDP) ของทั้ง 4 ประเทศดังกล่าว ในปี 2562-2567 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 7.5% ต่อปี(1) รวมทั้งผลของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ (megatrends) เช่น การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การที่ผู้บริโภคให้ความใส่ใจกับผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากรศาสตร์และไลฟ์สไตล์ ล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ได้อย่างต่อเนื่องในอนาคตอีกด้วย
บางคนอาจไม่ทราบว่าผู้นำโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น คือ บมจ. เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) บริษัทย่อยของ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ที่ไม่ได้ผลิตแค่กระดาษหรือกล่องลูกฟูก แต่นำเสนอทั้งบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษที่มีการออกแบบและพิมพ์สีสวยงาม บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์เพื่อบรรจุอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน รวมถึงภาชนะบรรจุอาหารจากกระดาษที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบรนด์เฟสท์ พร้อมกับการให้บริการออกแบบ การพิมพ์และโซลูชันหลากหลายตามที่ลูกค้าต้องการ ผ่านการสร้างสรรค์สินค้า นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัย (Creativity, Innovations, Technology) ซึ่งสร้างความแตกต่างจากผู้ให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์รายอื่นๆ
ปัจจุบันธุรกิจของ SCGP ไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ แต่บริษัทฯ ทำหน้าที่เป็นคู่คิดตอบโจทย์ลูกค้าด้านบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร โดยได้มีการออกแบบพัฒนาบรรจุภัณฑ์และบริการที่หลากหลายเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่วัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ขั้นต้น บรรจุภัณฑ์ขั้นปลาย ไปจนถึงการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของลูกค้าที่ส่งมอบให้ผู้บริโภคในหลายอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce)
ตัวอย่างโซลูชันของ SCGP ที่ตอบโจทย์และแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างตรงจุดคือ การนำเสนอโซลูชันบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ ซึ่งสามารถตรวจสอบสถานะการขนส่ง ลำดับการผลิต และยังป้องกันการปลอมแปลง ด้วย QR Code ที่อยู่บนบรรจุภัณฑ์ ทำให้การขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างแม่นยำ มีประสิทธิภาพ และไม่ประสบปัญหาการส่งสินค้าผิดที่เหมือนที่ผ่านมา
นอกจากการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการแล้ว SCGP ยังให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดย SCGP ยึดแนวคิด Consumer Centricity หรือการคำนึงถึงพฤติกรรมผู้บริโภค เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ
เพราะบรรจุภัณฑ์เป็นส่วนแรกของผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคมองเห็นหรือสัมผัสได้ จึงมีส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์และการรับรู้ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคระดับพรีเมียมที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นองค์ประกอบสำคัญที่เสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้า ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าสนใจมากขึ้น ทั้งยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์สินค้า เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้เร็วและมากยิ่งขึ้น
การมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงรวมถึงบริการเสริมอื่นๆ ที่ครอบคลุมตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ครอบคลุมและหลากหลายกว่า 120,000 รายการ (SKUs) รวมถึงการเป็น Comprehensive Packaging Solutions หรือคู่คิดที่ตอบโจทย์ลูกค้าด้านบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร ทำให้ในอนาคตไม่ว่าเทรนด์ความต้องการของตลาดจะเปลี่ยนไปในรูปแบบใด SCGP ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและรักษาความเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์ที่พร้อมเติบโตไปกับทุกๆ อุตสาหกรรม และเป็นองค์กรชั้นนำที่สร้างเสริมคุณค่าให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สอดคล้องควบคู่กันไปกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สัมพันธ์ไปกับวิถีชีวิตของผู้คนบนโลก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายแห่งการพัฒนาสู่ความยั่งยืนต่อไป…
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.scgpackaging.com
แหล่งข้อมูล
(1) รายงานการวิจัยทางการตลาดแบบอิสระของ ฟรอส์ท แอนด์ ซัลลิวัน
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ